ประธานหลักทรัพย์อเมริกา ออกมาแสดงมุมมองเกี่ยวกับ fintech และคริปโต

Gary Gensler ประธานสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์หรือ SEC ของประเทศสหรัฐอเมริกาได้ออกมาแสดงความเห็นเกี่ยวกับเรื่องของการร่างกฎหมายคริปโต หลังจากที่มีหลายฝ่ายวิพากษ์วิจารณ์เขาอย่างหนักในช่วงที่ผ่านมา

ประธานหลักทรัพย์อเมริกาได้แสดงความเห็นหลังจากที่เจอกระแสวิจารณ์หนัก

โดย Gensler ได้ปรากฏตัวอีกครั้งในฐานะคณะกรรมการเศรษฐกิจและการคลังของรัฐสภา โดยเขาได้พูดถึงบทบาทและความสำคัญของบริษัทเทคโนโลยีทางการเงินหรือ fintech ว่า ช่วยให้ระบบเศรษฐกิจโลกสามารถเดินหน้าต่อไปได้ และเป็นผู้ที่ปิดทองหลังพระในตลาดทุนอย่างแท้จริง

เขากล่าวว่า ตอนนี้มันเหมือนกับยุคอินเทอร์เน็ตปี 1990 ที่พวกเรากำลังอยู่กับโลกที่กำลังมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ซึ่งเวลานี้ตลาดคริปโตเคอร์เรนซี่ตอนนี้มีมูลค่าตลาดมากกว่า $1 ล้านล้าน ซึ่งกลายเป็นสินทรัพย์ที่มีการซื้อขายกันทั่วโลกแบบไม่มีขอบเขตเข้ามาปิดกั้น อีกทั้งยังเป็นตลาดที่มีการเปิดให้ซื้อขายกัน 24 ชั่วโมงแบบไม่มีวันหยุดเข้ามา

ขณะเดียวกันทางด้านประธาน SEC ยังคงแสดงความเห็นเกี่ยวกับร่างกฎหมายคริปโตไปในทิศทางเดียวกัน ซึ่งเขามีแนวคิดเกี่ยวกับเรื่องของรอยเท้านิเวศน์ที่เป็นผลมาจากคริปโตเคอร์เรนซี่

ชี้ยังมีความท้าทายที่รออยู่ข้างหน้าอีกมาก

มีนักการเมืองบางคนมองว่า การใช้ไฟฟ้าจากโครงข่ายบิทคอยน์นั้น มันใช้พลังงานเทียบเท่ากับประเทศเนเธอร์แลนด์และสวีเดน และถือเป็นผลผลิตสำคัญที่ก่อให้เกิดก๊าซเรือนกระจก แม้ว่าในช่วงนั้นก๊าซเรือนกระจกอาจลดลงหลังจากที่มีการใช้รถยนต์ไฟฟ้าจำนวนมากแล้วก็ตาม

เมื่อพูดถึงความท้าทายเกี่ยวกับผลกระทบของสิ่งแวดล้อมที่เกิดมาจากบิทคอยน์ ทางด้าน Gensler มองว่า ตอนนี้ประชาชนมีตัวเลือกคริปโตมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเหรียญ ethereum หรือ cardano ซึ่งมองได้ว่าการปล่อยก๊าซคาร์บอนสู่อากาศนั้นอาจมีผลกระทบหากประชาชนยังให้ความสำคัญกับเหรียญบิทคอยน์มากขึ้น

เขาเน้นย้ำว่า จะต้องให้ความสำคัญกับนโยบายโดยจะต้องมีการสนับสนุนนวัตกรรมสินทรัพย์คริปโตและ DEFI ให้มีความสมดุลกัน พร้อมกับต้องหามาตรการปกป้องนักลงทุนอย่างเข้มงวด