ยอดขายการ์ดจอขุดคริปโตของ Nvidia ลดลง 60% ในไตรมาส 3
Nvidia ได้เปิดตัวการ์ดจอ Crypto Mining Processor (CMP) สำหรับการขุดคริปโตโดยเฉพาะเมื่อต้นปีนี้ แต่ยอดขาย CMP กลับลดลงถึง 60% ในไตรมาสที่แล้ว
Nvidia ได้เปิดตัวการ์ดจอ Crypto Mining Processor (CMP) สำหรับการขุดคริปโตโดยเฉพาะเมื่อต้นปีนี้ แต่ยอดขาย CMP กลับลดลงถึง 60% ในไตรมาสที่แล้ว
จากรายงานผลประกอบการล่าสุดของบริษัท Nvidia ระบุว่า รายได้จากผลิตภัณฑ์การขุดคริปโตของบริษัทลดลงจาก 266 ล้านดอลลาร์ในไตรมาส 2 เหลือเพียง 105 ล้านดอลลาร์ในไตรมาส 3
Nvidia ได้เปิดตัวการ์ดจอ Crypto Mining Processor (CMP) สำหรับการขุดคริปโตโดยเฉพาะเมื่อต้นปีนี้ แต่ยอดขาย CMP กลับลดลงถึง 60% ในไตรมาสที่แล้ว
นอกจากนี้ยอดขายการ์ดจอ CMP ยังต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้เกือบทั้งปี แม้ว่าพวกเขาจะเริ่มต้นปีอย่างแข็งแกร่ง โดย Nvidia ได้เพิ่มประมาณการรายรับสำหรับไตรมาสแรกเป็น 150 ล้านดอลลาร์ แต่รายรับจากการขายในไตรมาสที่ 2 นั้นต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 400 ล้านดอลลาร์
นับตั้งแต่มีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ตัวนี้ รายได้จากการขายจาก CMP มีมูลค่ารวมที่ 526 ล้านดอลลาร์ หรือคิดเป็นเพียง 3% ของรายได้รวมของบริษัทที่ 19.27 พันล้านดอลลาร์เท่านั้น
Nvidia และบทบาทในสกุลเงินดิจิทัล
การ์ดจอ Crypto Mining Processor (CMP) ของ Nvidia ได้รับการออกแบบมาเพื่อการขุดคริปโตโดยเฉพาะ ซึ่งการ์ดจอ CMP จะไม่มีช่องเสียบรูต่อหน้าจอ และมีระบบการระบายอากาศที่ดีกว่า
Nvidia เปิดตัวการ์ดจอ CMP เพื่อตอบสนองต่อการใช้การ์ดจอสำหรับการขุดคริปโตเคอร์เรนซี เช่น Ethereum เนื่องจากเหล่านักเล่นเกมพีซีมักจะเจอกับปัญหาการขาดแคลน GPU ทำให้ Nvidia พยายามทำให้การ์ดจอไม่เป็นที่ต้องการสำหรับผู้ขุดคริปโตด้วยการควบคุมอัตราแฮชของการ์ดจอ
ในทางตรงกันข้าม ผู้ผลิตการ์ดจอรายอื่นๆ รวมถึง AMD และ Intel ได้ประกาศว่า พวกเขาจะไม่เร่งการเพิ่มผลิตภัณฑ์การขุดคริปโตในสายผลิตภัณฑ์หลักของพวกเขา
นักเล่นเกมบนพีซีอาจจะรอคอยอีกไม่นานนัก ก่อนที่การ์ดจอจะไม่ขาดตลาดอีกต่อไป เนื่องจาก Ethereum ซึ่งเป็นหนึ่งในคริปโตเคอร์เรนซีหลักที่ขุดบน GPU กำลังจะเปลี่ยนจากกลไก Proof-of- Work (PoQ) ไปเป็น Proof-of-Stake (PoS) ด้วยการอัพเกรด Ethereum 2.0 ที่กำลังจะมีขึ้นนั่นเอง