Ripple ชนะคดีในการขอเข้าถึงเอกสารภายในของ SEC
Ripple ได้ชัยชนะครั้งสำคัญที่อาจจะ “ผลิกเกม” ระหว่างองค์กรกับทาง SEC สหรัฐฯ ได้เลยทีเดียว เนื่องจากหลักฐานชิ้นนี้อาจจะบ่งบอกได้ว่า XRP มีความคล้ายคลึงกับ Bitcoin และ Ether มากเพียงใด ซึ่งจะทำให้ Ripple รอดพ้นข้อกล่าวหาในที่สุด
Ripple ได้ชัยชนะครั้งสำคัญที่อาจจะ “ผลิกเกม” ระหว่างองค์กรกับทาง SEC สหรัฐฯ ได้เลยทีเดียว เนื่องจากหลักฐานชิ้นนี้อาจจะบ่งบอกได้ว่า XRP มีความคล้ายคลึงกับ Bitcoin และ Ether มากเพียงใด ซึ่งจะทำให้ Ripple รอดพ้นข้อกล่าวหาในที่สุด
Ripple ได้รับอนุญาตให้เข้าถึงเอกสารภายในของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐอเมริกา โดยเอกสารที่ทาง Ripple ต้องการจะรับรู้ข้อมูลนั้นเกี่ยวข้องกับการตีความ และมุมมองของหน่วยดังกล่าวเกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัลเช่น Bitcoin และ Ether
เอกสาร Bitcoin และ Ether ที่เกี่ยวข้องกับเคส XRP
ในสหรัฐอเมริกา Bitcoin และ Ethereum (ETH) ถูกจัดให้อยู่ในประเภท “เครื่องมือที่ไม่ใช่หลักทรัพย์” และได้รับการควบคุมให้เป็นสินค้าโภคภัณฑ์มากขึ้น แต่ทว่า XRP สกุลเงินดิจิทัลดั้งเดิมของ Ripple กลับล้มเหลวในการได้รับสถานะคล้ายกันในสหรัฐฯ อย่างไรก็ตามนั้นก็ทำให้ SEC เรียกค่าเสียหาย Ripple เป็นเงิน 1.3 พันล้านดอลลาร์ในข้อหาการเป็นหลักทรัพย์สินทรัพย์ดิจิทัลที่ไม่ได้จดทะเบียน
ทั้งนี้สถานการณ์ล่าสุดของการไต่สวนเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับคดีข้างต้น ได้พบว่าความพยายามของจำเลยในการขอเข้าถึงเอกสารภายในของ SEC เกี่ยวกับ Cryptocurrency นั้น “ส่วนใหญ่” เป็นที่รับได้ ซึ่งหมายความว่าสำนักงาน ก.ล.ต. สหรัฐฯ จะต้องแบ่งปันเอกสารภายใน และภายนอกที่เกี่ยวข้องกับจุดยืนของหน่วยงานเกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัลแก่ Rippleอย่างไรก็ตามการสื่อสารทางอีเมลระหว่างพนักงานกับพนักงานจะได้รับการยกเว้นจากการแบ่งปันนี้
Matthew Solomon ซึ่งทำหน้าที่เป็นทนายความของ Brad Garlinghouse ซีอีโอของ Ripple กล่าวว่าคดีนี้อาจเป็นตัว "จบเกม" สำหรับคดีความของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์เมื่อมีการเปิดเผยหลักฐานว่า XRP มีความคล้ายคลึงกับ Bitcoin และ Ether นอกจากนี้ ก.ล.ต. ใช้เวลาแปดปีก่อนที่จะยื่นเรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับ XRP โดยทางทนายความของ Ripple เชื่อว่าคดีนี้อาจได้ข้อสรุปเมื่อมีการเปิดเผยข้อเรียกร้องที่ขัดแย้งกันเกี่ยวกับสถานะของ XRP ที่สำนักงาน ก.ล.ต.
ด้วยความสำเร็จของ Ripple ในระหว่างการพิจารณาคดีดังกล่าวนี้ ทำให้บริษัท Fintech รายดังกล่าวสามารถเปรียบเทียบ XRP สกุลเงินดิจิทัลของตนกับสกุลเงินดิจิทัลอื่น ๆ ที่ SEC ได้ตัดสินว่าไม่ใช่หลักทรัพย์ได้ ซึ่งหาก XRP ถูกพิจารณาว่าเป็น “เครื่องมือที่ไม่ใช่หลักทรัพย์” นั่นก็หมายความว่า XRP จะไม่ตกอยู่ภายใต้ขอบเขตข้อเรียกร้องของ SEC อีกต่อไป
ทั้งนี้ทางสาธารณชนเองก็ได้ให้ความสนใจต่อคดีดังกล่าวอย่างมาก โดยในระหว่างการไต่สวนเสมือนจริงที่เกิดขึ้น มีบุคคลมากกว่า 500 คนได้เข้ารับฟัง และนอกจากนั้นเหล่าผู้ถือ XRP ยังได้ร่วมมือกันเพื่อยื่นคำร้องขอเขาแทรกแซงคดีในฐานะบุคคลที่สามอีกด้วย
ทั้งนี้ท่ามกลางความบ้าคลั่งในคดีความที่ Ripple ประสบอยู่ก็ได้ทำให้ XRP กลับมาแข็งแกร่งในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาโดยพุ่งขึ้น 24% เพื่อก้าวข้ามระดับ $1