ข่าวคริปโตเคอเรนซี่

คาดการณ์ราคา LUNC จะแตะจุดสูงสุดอีกครั้งในปี 2023 ได้หรือไม่?

Template Private   2022 10 18 T122614.996

ราคา Terra Luna Classic ลดลงอีก! แต่ LUNC ได้รับผลจากการเบิร์นเหรียญของ Binance ซึ่งอาจส่งผลต่อราคา LUNC อย่างมีนัยสำคัญ จะมีการปรับตัวของราคาจะแตะจุดสูงสุดอีกครั้งในปี 2023 หรือไม่? ไปดูกัน

เมื่อวานนี้ 17 ตุลาคม 2565 ราคา Terra Luna Classic ลดลงเหลือ $0.00026542 เป็นการปรับตัวลง 0.5% เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจมหภาคที่ติดลบอย่างต่อเนื่อง และยังคงส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของสกุลเงินดิจิทัลหลาย ๆ สกุลเงิน แต่ทว่า LUNC เป็นผู้ได้รับผลประโยชน์จากการเบิร์นเหรียญของ Binance ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อราคา LUNC อย่างมีนัยสำคัญ ถึงแม้ว่าจะคาดเดาไม่ได้เลยว่า การปรับตัวของราคาจะแตะจุดสูงสุดอีกครั้งได้หรือไม่?

จากกราฟราคา LUNC แสดงให้เห็นว่า สภาวะตอนนี้ Terra Luna Classic มีแนวโน้มที่น่าจับตามองมากยิ่งขึ้น หากดูจากดัชนีความแข็งแกร่งสัมพัทธ์ (สีม่วง) เพิ่มขึ้นเป็นเกือบ 60 ส่วนเส้นค่าเฉลี่ยสีแดง (ค่าเฉลี่ย 30 วัน) และสีน้ำเงิน (ค่าเฉลี่ย 200 วัน) ก็ใกล้จะตัดกันอีกครั้ง นี่อาจจะเป็นสัญญาณของการปรับตัวขึ้นอย่างฉุดไม่อยู่ก็เป็นได้

<i>กราฟราคา LUNC<br>รูปภาพ: TradingView</i>
กราฟราคา LUNC
รูปภาพ: TradingView

ล่าสุด Binance ได้ประกาศว่าจะทำการเบิร์น LUNC อย่างต่อเนื่อง ซึ่งทำให้ terra luna classic ถูกทำลายไปแล้วประมาณ 8.6 พันล้านเหรียญ คิดเป็นมูลค่ากว่า 2.3 ล้านดอลลาร์ นับว่าเป็นการกระตุ้นราคาในตลาดให้มีความน่าตื่นเต้น และอาจจะทำให้ราคาแตะจุดสูงสุดได้อีกครั้ง

ส่วน Exchange รายอื่นๆ ในต่างประเทศ ก็มีการสนับสนุน Terra Luna Classic เช่น สนับสนุนการลดหย่อนภาษี LUNC การจัดสรรงบประมาณเพื่อเบิร์น LUNC เป็นต้น ทำให้ LUNC มีเหรียญหมุนเวียนในระบบน้อยลง ดังนั้น อุปทานที่ลดลงอย่างต่อเนื่องนี้ จึงจะกลายเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญของราคานั่นเอง

<i>Do Kwon ซีอีโอและผู้ก่อตั้ง Terraform Labs บริษัทเบื้องหลังเหรียญตระกูล LUNA<br>รูปภาพ: CoinAge</i>
Do Kwon ซีอีโอและผู้ก่อตั้ง Terraform Labs บริษัทเบื้องหลังเหรียญตระกูล LUNA
รูปภาพ: CoinAge

HODL รอ LUNC ราคาขึ้น ปี 2023 ดีกว่าไหม?

แม้ว่า LUNC จะมีแนวโน้มราคาที่เพิ่มขึ้น แต่ก็อย่าลืมว่า Terra Classic USD (USTC) ก็มีความเกี่ยวข้องกับราคา LUNC ด้วย พวกเรายังจำเหตุการณ์ล่มสลายเมื่อเดือน พ.ค. ที่ผ่านมาได้หรือเปล่า?

อ่านต่อ: ซีอีโอ Terra ถูกแฉเคยสร้างหายนะให้ Stablecoin

ก่อนหน้านี้ การเบิร์นของ LUNC (แต่เดิมเรียกว่า LUNA) จะขึ้นอยู่กับอุปสงค์ของ USTC (แต่เดิมเรียกว่า UST) หมายความว่า ความต้องการครอบครองที่เพิ่มขึ้นของ UST stablecoin จะทำให้ปริมาณของเหรียญในระบบนิเวศลดลง ซึ่งจะเป็นจุดที่ทำให้ราคาเพิ่มขึ้นนั่นเอง ตอนนี้น่ะเหรอ? ต่อให้ล้มเหลวอีกครั้ง จะมีอะไรเสียมากไปกว่านั้นได้อีกล่ะ?

นี่อาจจะเป็นเรื่องที่น่าผิดหวังของคนที่ถือ LUNC ที่หวังให้ราคามันขึ้นอีกเพื่อเก็งกำไร แต่ถ้าเรามองตามหลักเศรษฐศาสตร์จริงๆ อุปสงค์ และอุปทานที่สอดคล้องกัน อาจทำให้ราคาแตะจุดสูงสุดอีกครั้งในปี 2023 ได้ไม่ยากเลย แต่ก็ต้องรอดูกันต่อไปว่า ความเชื่อมั่นของผู้ถือครอง LUNC จะเหนียวแน่นขนาดไหน? จะสตรองพอที่จะทำให้ราคาขึ้นภายในปีหน้าได้หรือเปล่า? งานนี้ต้องอดใจรอ HODL กันไปยาวๆ

DISCLAIMER: การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยงและความผันผวนสูง มุมมองและความคิดเห็นจากผู้เขียนมีวัตถุประสงค์เพื่อในการให้ข้อมูลเท่านั้น และไม่ได้เป็นการให้ข้อมูลทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่น ๆ ใด นักลงทุนควรศึกษาจากปัจจัยหลาย ๆ อย่างประกอบกันและมีการควบคุมความเสี่ยงอยู่เสมอ 

ติดตาม CryptoSiam
เพื่อให้ไม่พลาด ทุกข่าวสาร วงการคริปโต
แท็ก:
ข่าวต่อไป

บทความที่เกี่ยวข้อง

NYDFS จ่ออนุมัติ Stablecoin RLUSD ของ Ripple ในวันที่ 4 ธันวาคม
รัสเซียก้าวสู่ยุคใหม่ของคริปโทเคอร์เรนซี ประกาศกรอบภาษีฉบับประวัติศาสตร์
ผู้ก่อตั้ง Cardano(ADA) คาดการณ์ DeFi บน Bitcoin จะครอบงำวงการคริปโตภายใน 3 ปี
Spot Ethereum ETF สร้างสถิติใหม่ เงินทุนไหลเข้าทะลุ $332.9 ล้านดอลลาร์ ดึงดูดเม็ดเงินสูงกว่า Bitcoin ETF