![Qyduuzvwivy.jpg](https://cdn2.cryptosiam.com?url=https://api.cryptosiam.com/assets/e12ae136-dc55-4768-b642-2e4ac539c3dd.jpg&width=1610)
สถานการณ์สงครามระหว่างประเทศรัสเซียกับยูเครนนั้น ทำให้ประชาชนชาวยูเครนหลายพันคนต่างเลือกที่จะอพยพย้ายถิ่นฐานไปยังประเทศโปรตุเกส เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่เปิดกว้างในเรื่องของคริปโตเคอร์เรนซี่ ไม่เพียงแค่จะมีการผ่อนปรนในเรื่องของสิ่งแวดล้อมเท่านั้น แต่ยังเป็นประเทศที่มีค่าครองชีพถูกและมีการเก็บภาษีคริปโตอย่างเป็นมิตร
ผู้ลี้ภัยยูเครนเข้ามาทำงานคริปโตมากขึ้น
สงครามรัสเซียกับยูเครน ทำให้ชาวยูเครนหลายล้านคนกลายเป็นผู้ลี้ภัย ทำให้พวกเขาต้องลี้ภัยไปยังประเทศเพื่อนบ้านใกล้เคียง รวมไปถึงประเทศโปรตุเกส แม้ว่าโปรตุเกสจะเป็นประเทศที่อยู่ห่างไกลจากความขัดแย้งที่เกิดขึ้น แต่ทางโปรตุเกสก็ได้ประกาศแล้วว่า ได้ทำการรับผู้ลี้ภัยกว่า 13,000 คนในช่วงที่ผ่านมา
![4pljbcyizye 5 1024x682.jpg](/assets/de2d090a-4587-4c8d-b155-600f8373a3c3.jpg)
มีความเป็นไปได้ว่า คนยูเครนจะมีการปรับตัวเข้ากับประเทศโปรตุเกสได้ง่ายกว่าประเทศอื่น เรื่องนี้ทางด้านสำนักข่าว Bloomberg ได้มีการรายงานว่า ก่อนที่ยูเครนจะเจอกับวิกฤตสงคราม ทางด้านสมาชิกสหภาพยุโรปได้ยอมรับว่า ประเทศโปรตุเกสได้มีการดำเนินนโยบายที่เป็นมิตรกับบิทคอยน์เป็นอย่างมาก
ปลอดภาษีกำไรคริปโต
ขณะเดียวกันประเทศโปรตุเกสยังเป็นประเทศที่ไม่ได้มีการเก็บภาษีกำไรที่ได้จากการลงทุนในคริปโต ไม่ว่าจะเป็นการเก็บภาษีเงินได้ก็ดี เช่นกันนักลงทุนต่างชาติยังได้รับสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ทางด้านภาษีจำนวนมาก ทางด้าน Maria Yarotska พนักงานคริปโตชาวยูเครนที่ได้มีการลี้ภัยสงครามได้กล่าวว่า จะทำการรักษางานในประเทศโปรตุเกสเอาไว้ รวมไปถึงเริ่มมีหลายบริษัทคริปโตที่ได้เข้ามาลงทุนในประเทศโปรตุเกสมากขึ้น
ปัจจุบันยูเครนกลายเป็นประเทศที่ได้มีการประยุกต์ใช้เหรียญบิทคอยน์ได้อย่างถูกต้องตามกฎหมายแล้ว ทำให้ทางรัฐบาลสามารถดำเนินการควบคุมพื้นที่คริปโตได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย โดยประธานาธิบดีของยูเครนได้มีการลงนามกฎหมายว่าด้วยสินทรัพย์ดิจิทัลในช่วงที่สงครามยังคงดำเนินต่อไป