Blockchain

โพลล่าสุดเผยนักลงทุนหน้าใหม่ เข้าตลาดมาได้เพียงไม่ถึง 3 เดือน

Photo 1526772662000 3f88f10405ff.jpg

โพลบนทวิตเตอร์เผยนักลงทุนหน้าใหม่เข้าสู่วงการคริปโตได้ไม่ถึง 3 เดือน ชี้อาจมีที่มาจากกระแสความนิยมใน DeFi ช่วงโควิด

หน้าใหม่และหน้าเก่า

อย่างที่รู้กันว่าวงการคริปโตนั้นเติบโตขึ้นมาภายในระยะเวลาเพียงไม่กี่ปีเท่านั้น นับตั้งแต่การมาถึงของเหรียญคริปโตเหรียญแรกของนาย Satoshi Nakamoto ในช่วงปี 2009 จนกระทั่งปัจจุบัน ซึ่งคิดเป็นระยะเวลาเพียงสิบปีเท่านั้น โดยในช่วงเวลาที่ผ่านมานั้นต่างมีผู้คนเข้าสู่ตลาดในปริมาณที่ต่างกันไปตามกระแสความนิยม โดยล่าสุดได้มีผู้ใช้รายหนึ่งบนทวิตเตอร์ในชื่อ Coinmamba ได้ตั้งโพลสอบถามผู้คนในแวดวงทวิตเตอร์ว่าพวกเขาเข้าสู่วงการคริปมาเป็นระยะเวลานานเท่าใดแล้ว

แม้ว่าจากโพลดังกล่าวนั้นจะมีผู้เข้าตอบแบบสอบถามเพียงแค่ 1,995 คน เท่านั้นแต่ตัวเลขก็ได้ทำให้ผู้ที่ผ่านมาพบเห็นประหลาดใจไม่น้อยเนื่องจากปรากฎว่าผู้ตอบแบบสอบถามส่วนหนึ่งนั้นเข้ามาในวงการได้ไม่ถึง 3 เดือนเท่านั้น ซึ่งเรียกได้ว่าเข้ามาในช่วงที่เกิดวิกฤติการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่าเลยก็เป็นได้

ในจำนวนดังกล่าวนั้นคิดเป็นปริมาณเพียง 9.4% ของผู้ตอบแบบสอบถามทั้งหมด ซึ่งแม้ว่าจะเป็นส่วนน้อยของผู้ที่เข้ามามีส่วนร่วมในแบบสอบถาม แต่ก็เป็นอัตราส่วนที่สามารถนำมาอธิบายถึงกระแสความนิยมที่เพิ่มขึ้นในวงการคริปโต โดยเฉพาะปริมาณเงินทุนที่ไหลเข้าสู่วงการ DeFi อย่างล้นหลามในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมานั่นเอง

อันดับถัดไปในโพลดังกล่าวคือผู้ที่เข้าสู่วงการคริปโตมาในระยะเวลาต่ำกว่าหนึ่งปี ซึ่งคิดเป็นอัตรากว่า 14.2% ของทั้งหมด โดยเมื่อมองย้อนกลับไปแล้วจะพบว่าจำนวนดังกล่าวนี้ตรงกับการเพิ่มขึ้นของผู้ใช้งานในระบบช่วงดือนตุลาคมที่ผ่านมา ไม่นานหลังจากที่ทางประเทศจีนมีข่าวว่า ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ประกาศเปิดรับการพัฒนาเทคโนโลยี Blockchain ภายในประเทศ ซึ่งสร้างความคาดหวังอย่างมากให้กับผู้คนในวงการ

สำหรับผู้คนที่เข้าวงการคริปโตในช่วงเวลาระหว่าง 1 ถึง 3 ปีที่ผ่านมานั้นอยู่ในอัตรา 33.5% ของผู้ตอบแบบสอบถามทั้งหมด ซึ่งหาพิจารณากรอบเวลาทั้งสามปีนั้นจะพบว่านักลงทุนกลุ่มนี้ได้ผ่านร้อนผ่านหนาวมามากพอสมควร ตั้งแต่ช่วงเวลาที่ Bitcoin นั้นมีความผันผวนสูงมาก สู่ยุคที่มีการเปิดออกขายเหรียญให้แก่ประชาชนทั่วไปหรือ initial Coin Offering (ICO) จนกระทั่งในปัจจุบันที่ตลาดกกลับมาคึกคักอีกครั้ง

ทั้งนี้อัตราส่วนของผู้ที่อยู่ในวงการคริปโตมามากกว่าสามปีนั้นยังคงครองอันดับสูงสุดที่ 42.9% ซึ่งเป็นธรรมดาที่จะมีจำนวนมากที่สุดเนื่องจากตัวเลือกของกรอบเวลานี้มีความกว้างมากที่สุดนั่นเอง

เปรียบเทียบกรณี ICO และ DeFi boom

อย่างที่กล่าวไปก่อนหน้านี้ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบันกับวงการ DeFi ที่ทั้งนักลงทุนหน้าใหม่และหน้าเก่าต่างได้ให้ความสนใจอย่างล้นหลามนั้นคล้ายคลึงกับช่วงที่มีการเปิดให้โครงการต่างๆ ออกขายเหรียญของตนเองได้หรือที่รู้จักกันในนามการทำ ICO ซึ่งในช่วงดังกล่าวนั้นได้ดึงดูดความสนใจจากเหล่านักลงทุนอย่างมากในระยะเวลาที่รวดเร็ว แต่กลับกันก็มีหลายโครงการที่อาศัยการทำ ICO หลอกลวงนักลงทุนไปมากพอสมควรนั่นเอง

ดังนั้นแล้วจากเหตุการณ์ดังกล่าว เหล่านักลงทุนทั้งหน้าใหม่และหน้าเก่าควรที่จะรับรู้ถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในช่วงปี 2017 และนำกรณีดังกล่าวมาเป็นบทเรียนเพื่อเลือกลงทุนในแพลตฟอร์ม DeFi ที่กำลังเติบโตอยู่นี้ด้วยความระมัดระวังนั่นเอง

ติดตาม CryptoSiam
เพื่อให้ไม่พลาด ทุกข่าวสาร วงการคริปโต
ข่าวต่อไป

บทความที่เกี่ยวข้อง

Adam Back นำการระดมทุน 2.2 ล้านดอลลาร์ให้กับ H100 บริษัทเทคโนโลยีสุขภาพของสวีเดนเพื่อซื้อ Bitcoin
สภาผู้แทนรัฐเท็กซัสผ่านร่างกฎหมายจัดตั้งคลังสำรอง Bitcoin เชิงกลยุทธ์ เตรียมส่งให้ผู้ว่าฯ ลงนาม
ผู้บริหาร Moon Inc. ชี้ บริษัทที่เก็บ Bitcoin เป็นสินทรัพย์สำรอง จะถือครองเหรียญมากกว่าที่นักลงทุนคาดเอาไว้มาก
Cathie Wood ชี้ Crypto ETF ยังไม่หมดเสน่ห์ แม้การใช้งานกระเป๋าคริปโตจะเติบโตในอนาคต