🇹🇭 ข่าวในประเทศ

‘อ.ตั๊ม พิริยะ’ มองขาด! หากสหรัฐยังคงเพิ่มเงินเข้าระบบ - กลุ่มประเทศไหนจะได้ผลเสีย

หากอุปทานทางการเงินของสหรัฐยังเพิ่มขึ้น - ผลเสียที่เกิดขึ้นจะตกไปยังประเทศอื่นๆ

‘อ.ตั๊ม พิริยะ’ โพสต์! หากอุปทานทางการเงินของสหรัฐยังเพิ่มขึ้น - ผลเสียที่เกิดขึ้นจะตกไปยังประเทศอื่นๆ โดยเฉพาะกับประเทศในหมวดนี้

วันที่ 5 พฤษภาคม ‘อ.ตั๊ม พิริยะ’ นักลงทุนชื่อดัง โพสต์เฟสบุ๊ก กล่าวถึงผลเสียและภาระที่เพิ่มขึ้นของประเทศที่เป็นประเทศผู้ผลิตสินค้าส่งออก หากสหรัฐยังตัดสินใจที่อัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ระบบการเงินในประเทศต่อไป

เมื่อปริมาณเงินหมุนเวียนในสหรัฐขยายตัวเพิ่มขึ้น เป็นประเทศอื่นๆ โดยเฉพาะประเทศที่เป็นผู้ผลิตสินค้าส่งออกจะต้องรับค่าใช้จ่ายส่วนนี้ก่อนเป็นกลุ่มแรก

แปลจาก โพสต์ของ พิริยะ สัมพันธารักษ์

เรียกได้ว่าหากสหรัฐ หรือ Fed ยังไม่หยุดพิมพ์เงินเพิ่มต่อไป สิ่งที่จะตามมาคือผลกระทบทางเศรษฐกิจของประเทศทั่วโลก โดยเฉพาะกับประเทศที่ทำรายได้จากการผลิตสินค้าส่งออกเป็นหลักไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง

ติดตาม CryptoSiam
เพื่อให้ไม่พลาด ทุกข่าวสาร วงการคริปโต

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: การลงทุนมีความเสี่ยงสูง ดังนั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดก่อนการลงทุนทุกครั้ง

ข้อมูลในบทความนี้มีจุดประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้น Cryptosiam ไม่รับประกันความสมบูรณ์ ความถูกต้อง หรือความน่าเชื่อถือของข้อมูลดังกล่าว และไม่มีสิ่งใดในบทความนี้ที่ควรใช้เป็นคำแนะนำหรือชักชวน ให้ซื้อหรือขายคริปโต รวมทั้งการประเมินใดๆ ไม่มีข้อความใดในบทความที่ถือเป็นคำแนะนำทางกฎหมาย วิชาชีพ การลงทุน และ/หรือทางการเงิน และ/หรือคำนึงถึงความต้องการเฉพาะ และ/หรือข้อกำหนดของแต่ละบุคคล

Cryptosiam และบริษัทในเครือ ขอปฏิเสธความรับผิด หรือความรับผิดชอบทั้งหมดเกี่ยวกับเนื้อหาของบทความ และการดำเนินการใดๆ กับข้อมูลในบทความนั้น เป็นความเสี่ยงของผู้อ่าน และถือเป็นความเสี่ยงแต่เพียงผู้เดียว

ข่าวต่อไป

บทความที่เกี่ยวข้อง

Bybit กลับมาดำเนินการถอนเงินได้ตามปกติ หลังถูกแฮกมูลค่า 1.5 พันล้านดอลลาร์
บราซิลอนุมัติ Spot XRP ETF เป็นครั้งแรก! ขณะธนาคารท้องถิ่นเตรียมเปิดตัว StableCoin บน XRPL
นักวิเคราะห์ เผย! การรับรองคำขอ Spot XRP ETF ของ SEC อาจเร่งให้ XRP พุ่งแตะ $6
นักวิเคราะห์คว้ารางวัลจาก Arkham หลังเป็นผู้ที่่ระบุว่า กลุ่มแฮ็กเกอร์จากเกาหลีเหนือ เป็นผู้อยู่เบื้องหลังการแฮ็ก Bybit มูลค่า 1.4 พันล้านดอลลาร์