ราคาเหรียญ Omicron (OMIC) พุ่งขึ้น 716% หลังจาก WHO เลือกชื่อนี้เป็น COVID-19 สายพันธุ์ใหม่ล่าสุด

Omicron นอกจากจะเป็นชื่อของ COVID-19 สายพันธุ์ใหม่ล่าสุดแล้ว บังเอิญเป็นชื่อของสกุลเงินดิจิทัลที่พุ่งสูงขึ้นกว่า 700% ด้วย

คริปโตเคอเรนซีขนาดเล็กเหรียญหนึ่งอย่างเหรียญ Omicron (OMIC) ได้พุ่งขึ้นมากถึง 716% ในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ หลังจากที่องค์การอนามัยโลก (WHO) ประกาศตั้งชื่อ COVID-19 สายพันธุ์ใหม่เป็นชื่อเดียวกัน

บังเอิญชื่อ Omicron เหมือนกัน

Omicron (OMIC) สกุลเงินดิจิทัลที่เป็นโปรโตคอลสกุลเงินสำรองแบบกระจายอำนาจใน Arbitrum Network เริ่มปรับตัวสูงขึ้นตั้งแต่วันที่ 27 พฤศจิกายน ราคาได้ทะลุแนวต้านใกล้ 70 ดอลลาห์ และพุ่งขึ้นสู่ 187 ดอลลาห์ในเวลาน้อยกว่าครึ่งชั่วโมง

จากนั้นราคาก็พุ่งสูงขึ้นต่อไป และโทเค็นก็ได้แตะระดับสูงสุดรายวันที่ประมาณ 242 ดอลลาร์

ราคาพุ่งขึ้นต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง ในวันต่อมาราคาโทเค็นยังคงเพิ่มขึ้นต่อไป โดยซื้อขายที่ระดับสูงสุดที่ 430 ดอลลาร์

หลังจากนั้น โทเค็นได้ปรับฐานลงสู่ระดับต่ำสุดที่ 260 ดอลลาร์ ก่อนที่จะพุ่งขึ้นอีกรอบสู่ 367 ดอลลาร์ในปัจจุบัน ซึ่งการเพิ่มขั้นครั้งนี้มาจากการที่สกุลเงินดิจิทัลที่มีชื่อเดียวกับโควิด-19 ล่าสุดนั่นเอง

ในขณะที่รายงาน OMIC ซื้อขายอยู่ที่ 591.83 ดอลลาห์ โดยเพิ่มขึ้นมากกว่า 87.8% ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา

สำหรับการเทรด Omicron ทางเลือกเดียวในตอนนี้คือการซื้อขายผ่าน Sushiswap เพราะยังไม่มีแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนแบบรวมศูนย์แห่งใดสนับสนุนสกุลเงินดิจิทัลตัวนี้

แม้ว่าอุปทานสูงสุดของโทเค็นตัวนี้จะจำกัดอยู่ที่ 1,000,000 เหรียญ แต่ผู้ให้บริการข้อมูลอย่าง Messari, crypto.com และ CoinGecko ไม่ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดของสกุลเงินดิจิทัลนี้ ผู้สังเกตการณ์บางคนมองว่า การเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วของ OMIC เป็นสภาวะฟองสบู่ในตลาดคริปโต

นอกจากนี้ Omicron เป็นโปรเจ็ค yield farming ที่สร้างขึ้นบนบล็อกเชน Ethereum และไม่ได้มีความเกี่ยวข้องใด ๆ กับโคโรน่าไวรัสเลยแม้แต่น้อย ดังนั้นนักเทรดจึงควรระมัดระวังอย่างมากในการซื้อขายเหรียญตัวนี้

DISCLAIMER: การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยงและความผันผวนสูง มุมมองและความคิดเห็นจากผู้เขียนมีวัตถุประสงค์เพื่อในการให้ข้อมูลเท่านั้น และไม่ได้เป็นการให้ข้อมูลทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่น ๆ ใด นักลงทุนควรศึกษาจากปัจจัยหลาย ๆ อย่างประกอบกันและมีการควบคุมความเสี่ยงอยู่เสมอ