ข่าว Ethereum

NFT 101: สิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับ Non-fungible Tokens หรือโทเค็น NFT

Nft 1 1 826x459 1.jpeg

วันนี้คริปโตสยามจะพาไปรู้จักกับพื้นฐานของ Non-fungible tokens หรือโทเค็น NFT ว่ามันคืออะไร ทำหน้าที่อะไร และเหตุใดจึงสำคัญ

Non-fungible tokens  หรือ NFT เป็นหนึ่งในนวัตกรรมร่วมสมัยที่สำคัญที่สุดในด้านเทคโนโลยีและด้านการเงิน แม้ว่าในบางครั้งเทคโนโลยีบล็อคเชนอาจมีความซับซ้อน แต่โทเค็น NFT ไม่ได้เข้าใจยากอย่างที่คนส่วนใหญ่คิด วันนี้คริปโตสยามจะพาไปรู้จักกับพื้นฐานของ Non-fungible tokens ว่ามันคืออะไร ทำหน้าที่อะไร และเหตุใดจึงสำคัญ

โทเค็น NFT คืออะไร?

What Is Nft 9938007c9e 1024x576.jpeg

แม้แต่ผู้ที่ไม่ได้อยู่ในวงการคริปโตก็ยังได้ยินเกี่ยวกับเรื่อง NFT ในช่วงปี 2021 แล้ว Non-fungible Tokens หรือา NFT มันคืออะไรล่ะ?

กล่าวโดยย่อ NFT เป็นสินทรัพย์ดิจิทัลประเภทใหม่ที่ให้ความสำคัญกับ ‘สิ่งที่ไม่สามารถทดแทนได้’ อย่างเช่น หากใครซักคนยืมเงินคุณ 100 บาท คุณก็คงไม่ถามว่า "เขาต้องการแบงค์ร้อยแบบไหนใด" เนื่องจากแบงค์ร้อย นั้นสามารถใช้แทนกันได้ 100 บาทเท่ากันทุกใบ

ในทางกลับกัน NFT นั้นไม่สามารถทดแทนได้ เพราะว่ามีเอกลักษณ์ไม่ซ้ำใคร NFT แต่ละรายการจะมีเนื้อหาที่ไม่ซ้ำกัน ซึ่งไม่สามารถแทนที่ด้วยเวอร์ชันที่เหมือนกันได้ 

NFT สามารถเป็นได้ทั้งงานศิลปะดิจิทัล เพลง บทกวี การ์ดเบสบอล ตั๋วเข้าชม และอื่นๆ อีกมากมาย หรือก็คือสะสมดิจิทัลที่อาศัยอยู่บนบล็อคเชน แต่สิ่งที่พิเศษเกี่ยวกับโทเค็น NFT นั้น ตรงกันข้ามกับงานศิลปะในบ้านทั่วไป คือ NFT นั้นถูกสร้างขึ้นบนบล็อคเชน จึงทำให้เป็นรูปแบบดิจิทัล สามารถติดตามธุรกรรมได้ และไม่สามารถเปลี่ยนรูปแบบไปได้โดยสมบูรณ์

เมื่อบางสิ่งถูกสร้างขึ้นบนบล็อคเชน คุณลักษณะของสิ่งนั้นจะอยู่ที่นั่นตลอดไป ซึ่งหมายความว่า NFT สามารถซื้อ ขาย และให้เป็นของขวัญได้ รวมไปถึงประวัติและมูลค่าของ NFT นั้นจะถูกบันทึกไว้ในบล็อกเชนตลอดไป

ด้วยเหตุนี้ non-fungible tokens จึงเป็นสื่อกลางที่สมบูรณ์แบบสำหรับสินทรัพย์ที่หายาก
เช่น งานศิลปะและของสะสม เนื่องจากแหล่งที่มาและรายละเอียดนั้นเปิดเผยให้ทุกคนเห็นหรือตรวจสอบได้ตลอดเวลา แต่ในขณะเดียวกันพวกเขาไม่สามารถทำให้สินทรัพย์นั้นฉีกขาด เสียหาย งอ หรือหักได้ ซึ่งต่างจากตลาดศิลปะแบบดั้งเดิม

ตลาดกลางโทเค็น NFT หลายแห่งยังให้ค่าลิขสิทธิ์การขาย 10% หรือมากกว่านั้นสำหรับครีเอเตอร์ ศิลปินยังสามารถทำกำไรได้ต่อไปอีกเมื่องานของพวกเขามีมูลค่าเพิ่มขึ้น!

NFT ช่วยให้สามารถเป็นเจ้าของสินทรัพย์ดิจิทัลได้อย่างแท้จริงในแบบที่ไม่เคยทำมาก่อน แม้ว่าบางคนจะโต้แย้งว่าสามารถดาวน์โหลดภาพ JPEG ของ NFT และบันทึกภาพได้ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าท่านจะป็นเจ้าของและมีสิทธิ์ในการควบคุมทรัพย์สินนั้นได้อย่างแท้จริง เพราะผู้เป็นเจ้าของจะได้รับการยืนยันบนบล็อคเชนและมีเพียงคนเดียวเท่านั้นที่สามารถเป็นเจ้าของได้ โดยทุกคนสามารถเห็นได้ 

ยุครุ่งเรืองของ NFT

Nft 750x375 1.jpeg

Non-fungible tokens ตัวแรกนั้นถูกสร้างขึ้นในปี 2014 แต่การสร้างและการนำ NFT มาใช้อย่างแท้จริงก็ในปี 2017 โดยในช่วงเวลานี้ คอลเล็กชั่น NFT แรกได้เปิดตัวบนบล็อกเชน Ethereum

ในขณะที่ NFT แรก เช่น Rare Pepes เปิดตัวบน Bitcoin หลังจากนั้นไม่นาน Ethereum ก็กลายเป็นตัวเลือกชั้นนำสำหรับการสร้างโครงสร้างพื้นฐานและเศรษฐกิจของ NFT เนื่องจากฟังก์ชัน smart contracts ช่วยให้สามารถสร้าง ตั้งโปรแกรม และจัดเก็บโทเค็นในตัวบล็อกเชนได้โดยตรง

หนึ่งในโปรเจ็ค NFT บน Ethereum ยุคแรก ๆ เหล่านี้คือ CryptoPunks ซึ่งเป็นคอลเล็กชันที่เปิดตัวโดย Larva Labs เปรียบเสมือนกับประวัติศาสตร์ NFT ในยุคแรก ๆ และเห็นได้ว่าแต่ละชิ้นนั้นสามารถขายได้หลายล้านเลยทีเดียว ในขณะที่เทคโนโลยี NFT มีให้บริการบนบล็อกเชนบางประเภท เช่น Solana, Tezos และ Flow แต่ Ethereum ก็ประสบความสำเร็จและยังคงเป็นบล็อคเชนชั้นนำจนถึงตอนนี้

แม้ว่ากระแสหลักเกี่ยวกับ NFTs จะเพิ่มขึ้นอย่างช้า ๆ ช่วงก่อนปี 2021 แต่ปัจจัยเร่งทั้งสองที่จะกล่าวต่อไปนี้ยังช่วยเร่งกระแสเกี่ยวกับ NFT ได้ ประการแรกคือการระบาดใหญ่ของ COVID-19 บีบให้ผู้คนจำนวนมากต้องอาศัยอยู่ในโลกดิจิทัล และเชื่อมต่อกันบนแพลตฟอร์มเช่น Twitter และ Clubhouse ซึ่งชุมชน NFT ได้สร้างสถานะที่แข็งแกร่ง ประการที่สองคือการเกิดขึ้นของ Beeple หรือศิลปินดิจิทัลที่เป็นที่รู้จักมานาน ซึ่งกลายมาเป็นผู้บุกเบิก NFT และกลายเป็นศิลปินคนแรกที่ขาย NFT กับประมูลครั้งใหญ่ การประมูลของเขาสิ้นสุดลงในวันที่ 11 มีนาคมด้วยเงินมูลค่า 69 ล้านดอลลาร์ ทำให้ NFT เป็นที่น่าจับตามองและไม่อาจละเลยได้อีกต่อไป

ในขณะที่งานศิลปะดิจิทัลและของสะสมเป็นตัวขับเคลื่อนตลาดในปี 2021 อย่างมาก แต่ก็มีแอปพลิเคชั่นอีกนับไม่ถ้วนของเทคโนโลยี NFT นับตั้งแต่โลกเสมือน metaverse เช่น Decentraland และ CryptoVoxels ไปจนถึงเกมบล็อคเชน อย่างเช่น Axie Infinity และ Zed Run

เมื่อมีการนำไปใช้เพิ่มขึ้น ปริมาณการซื้อขายและราคาสำหรับโครงการที่ประสบความสำเร็จก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน อย่างไรก็ตามเพียงแค่คุณเป็นเจ้าของ NFT นั้นก็ไม่ได้หมายความว่าจะทำให้คุณรวยได้ ความหายาก ศิลปะ ประโยชน์ใช้สอย ชุมชน และความสำคัญทางวัฒนธรรมล้วนเป็นปัจจัยกำหนดคุณค่าของ NFT นั้น ๆ ดังนั้นแล้วอย่าได้ลงทุนเกินกว่าส่วนที่คุณจะเสียได้!

วิธีการซื้อ NFT

มีหลากหลายวิธีในการเป็นส่วนหนึ่งของชุมชน NFT บางแพลตฟอร์ม เช่น Nifty Gateway และ MakersPlace ทำให้ผู้บริโภคสามารถซื้อและขาย NFT ได้อย่างง่ายดาย โดยใช้บัตรเครดิตและวิธีการชำระเงินแบบเดิม ขณะที่ SuperRare, Foundation และ OpenSea ซึ่งเป็นตลาดรองที่ใหญ่ที่สุดในโลก และให้ผู้ใช้สามารถเสนอราคาและซื้อขายโดยใช้สกุลเงินดิจิทัลเท่านั้น

Gilded Nft Platforms 1024x576.png

สกุลเงินที่ใช้ในการซื้อ NFT บนบล็อกเชน Ethereum blockchain คือ Ether (ETH) สามารถซื้อเหรียญ ETH ได้หลายวิธี เช่น แพลตฟอร์มการซื้อขายหลัก Coinbase และ Gemini ซึ่งให้ผู้ใช้ซื้อเหรียญ ETH ด้วยบัญชีธนาคารหรือบัตรเครดิต ในขณะเดียวกัน การบริการส่วนใหญ่ยังให้ผู้ใช้สามารถแลกเปลี่ยนเหรียญประเภทหนึ่งกับอีกประเภทหนึ่งได้ เช่น การแปลง Bitcoin บางส่วนเป็นให้เป็น Ethereum

จากนั้น คุณจะต้องตั้งค่ากระเป๋าเงิน MetaMask ให้เชื่อมต่อเดสก์ท็อปหรือเว็บเบราว์เซอร์บนมือถือของคุณ และเมื่อคุณเข้าสู่ระบบก็จะแสามารถทำธุรกรรมบนแพลตฟอร์ม NFT ได้ ทั้งนี้อย่าลืมปฏิบัติตามคำแนะนำในการตั้งค่าและจด seed phrase หรือ private key ของคุณไว้ในที่ปลอดภัย มิฉะนั้นผู้อื่นจะสามารถเข้าถึงเงินทุนของคุณได้!

การซื้อกระเป๋าเงินฮาร์ดแวร์ก็เป็นอีกหนึ่งความคิดที่ดี เพื่อให้แน่ใจว่าจะมีความปลอดภัยในกรณีที่คอมพิวเตอร์ของคุณถูกบุกรุก โดยมี Trezor และ Ledger เป็นแบรนด์กระเป๋าเงินดิจิทัลค์ฮาร์ดแวร์ที่น่าเชื่อถือที่สุดในตลาด

หลังจากที่คุณได้ซื้อ ETH และโอนไปยังที่อยู่กระเป๋าเงิน MetaMask ของคุณแล้ว เท่านี้คุณก็พร้อมที่จะเริ่มซื้อของบนแพลตฟอร์มที่ระบุไว้ในข้างต้นแล้ว! ไม่ว่าคุณจะซื้อโดยใช้ USD หรือ ETH เมื่อคุณได้รับ NFT แล้ว โทเค็นนั้นก็จะตกเป็นของคุณ มันจะอยู่ในกระเป๋าเงิน Ethereum หรือบัญชีบนเว็บไซต์ของคุณจนกว่าจะมีการขายหรือโอน

อนาคตของวงการ NFTs

ในปี 2021 NFT ยังคงอยู่ในช่วงเริ่มต้น ด้วยการใช้งานของเทคโนโลยีที่ดูเหมือนจะไร้ขีดจำกัด แต่มีตัวอย่างกรณีการใช้งานที่น่าสนใจในช่วงต้น:

  • Noora Health องค์กรที่ไม่แสวงหากำไรได้ระดมทุน 1337 ETH คิดเป็นประมาณ 4.4 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพื่อช่วยชีวิตคนหลายพันคน โดยให้ทุนสนับสนุนโครงการต่าง ๆ และเพื่อสอนทักษะด้านสุขภาพที่เรียบง่ายทั้งยังมีความเสี่ยงต่ำ ทั้งยังเพื่อช่วยปรับปรุงผลลัพธ์ด้านสุขภาพสำหรับตนเองและชุมชน
  • ผู้ประกอบการ Gary Vaynerchuk พร้อมที่จะเปิดตัวร้านอาหาร NFT แห่งแรกในช่วงฤดูใบไม้ร่วงปี 2022 ซึ่งทำให้ผู้ถือโทเค็นสามารถเข้าถึงร้านอาหารหรือเลานจ์ได้
  • NFT ยังคงถูกใช้เป็นตั๋วสำหรับกิจกรรมหรือคอนเสิร์ต มีหลายบริษัทที่ช่วยผสาน NFT ให้รวมเข้ากับระบบการออกตั๋วแบบดั้งเดิม
  • ปัจจุบัน Hedera Hashgraph กำลังพัฒนาแพลตฟอร์มสำหรับข้อตกลงเกี่ยวกับความยินยอมทางการแพทย์และ
    ธุรกรรมต่าง ๆ เพื่อรักษาความปลอดภัยบนบล็อกเชนในฐานะ NFT
  • โครงการ NFT ที่ชื่อว่า Bored Ape Yacht Club ได้ทำหน้าที่เป็นกองทุนรวมของชุมชน และได้ระดมทุนและบริจาค 382 ETH ให้กับองค์กรการกุศลและองค์กรเกี่ยวกับสัตว์ต่าง ๆ
  • บริษัทผู้ให้บริการทางการเงินข้ามชาติกลายเป็นเครือข่ายการชำระเงินรายใหญ่แห่งแรกในการทำธุรกรรมโดยใช้คริปโตและกำลังทำเช่นนั้ นโดยใช้บล็อคเชน Ethereum
    บริษัทยังซื้อ CryptoPunk โดยยอมรับว่า NFT เป็นสิ่งประดิษฐ์ทางการค้าที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์


ในอนาคตอันใกล้นี้ เราจะได้เห็นเกม NFT ของสะสม กิจกรรม การแสดง และอื่น ๆ อีกมากมายในตลาด ด้วยความสนใจในเชิงพาณิชย์และสถาบันที่เพิ่มขึ้นอยู่ทุกวัน ความเร็วในการผลิตและการเปิดตัวโครงการจึงเพิ่มขึ้นอย่างทวีคูณช่วงนี้เปรียบเสมือนช่วงเริ่มต้นของเทคโนโลยี NFT แม้ว่าระบบนิเวศจะอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการยอมรับ แต่ก็ยังมีพัฒนาการและนวัตกรรมรออยู่ข้างหน้าอีกหลายปี เพื่อขยายขอบเขตให้ไกลออกไปยิ่งขึ้น

ติดตาม CryptoSiam
เพื่อให้ไม่พลาด ทุกข่าวสาร วงการคริปโต
แท็ก:
ข่าวต่อไป

บทความที่เกี่ยวข้อง

เหรียญคริปโตกลุ่ม AI และ Big Data พุ่งทะยาน 131% ท่ามกลางกระแสขาขึ้นของ Bitcoin
Van Eck ยืนยันเป้า Bitcoin ที่ 180,000 ดอลลาร์ พร้อมเตือนถึงสัญญาณที่บ่งบอกว่าตลาดกำลังร้อนแรงเกินไป
Bitcoin พลิกเกม! MicroStrategy กำไรพุ่งทะลุเพดาน แซงหน้า Apple, Amazon
Sky เปิดตัว USDS Stablecoin ตัวใหม่! บน Solana พร้อมอัดฉีดสภาพคล่องกว่า 5 แสนดอลลาร์