หน่วยงานกำกับตลาดหลักทรัพย์แห่งอเมริกาเหนือหรือ NASAA ชี้ว่าคริปโตเป็นภัยคุกคามใหญ่สุดต่อนักลงทุนในปี 2022
คริปโตเป็นภัยคุกคามต่อนักลงทุน
องค์กรกำกับดูแลด้านหลักทรัพย์ประจำอเมริกาเหนือ หรือ North American Securities Administrators Association (NASAA) ซึ่งประกอบไปด้วย สหรัฐฯ, แคนาดาและเม็กซิโกได้ออกมาแสดงความเห็นพ้องตรงกันว่าการลงทุนในคริปโตถือเป็นภัยคุกคามใหญ่สุดต่อนักลงทุนในปี 2022 นี้
อ้างอิงจากประกาศเผยแม้ว่าอุตสาหกรรมคริปโตจะทำให้นักลงทุนหลาย ๆ คนกลายเป็นเศรษฐีแต่อุตสาหกรรมนี้กลับมีการหลอกลวงและเอาเปรียบนักลงทุนที่เข้ามาในพื้นที่นี้ค่อนข้างเยอะ
องค์กร NASAA มองว่าอุตสาหกรรมคริปโตมีความผันผวนสูงเป็นอีกประเด็นหนึ่งที่น่ากังวล
“จนถึงตอนนี้ หน่วยงานกำกับดูแลหลักทรัพย์ NASAA เปิดเผยว่าการลงทุนที่เกี่ยวข้องกับคริปโตเคอร์เรนซีและสินทรัพย์ดิจิทัลเป็นภัยคุกคามต่อนักลงทุนอันดับต้น ๆ ของเรา เรื่องราวของ 'เศรษฐีคริปโต' ดึงดูดนักลงทุนบางคนให้ลองลงทุนในคริปโตหรือการลงทุนที่เกี่ยวข้องกับคริปโตในปีนี้ ในขณะเดียวกันก็มีนักลงทุนมากมายที่ลงทุนในคริปโตด้วยความเสี่ยงสูงและเกิดการสูญเสียครั้งใหญ่และมีแนวโน้มว่าจะเป็นเช่นนี้ไปเรื่อย ๆ ในปี 2022” คุณ Joseph Rotunda รองประธานคณะกรรมการฝ่ายบังคับของ NASAA กล่าว
นอกจากนี้คุณ Joseph Rotunda ยังกล่าวต่อไปว่าการลงทุนในโปรแกรมเทรดคริปโตหรือลงทุนในเหมืองขุดคริปโต การ Staking และการลงทุนในโทเค็นหลักทรัพย์นั้นเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีความเสี่ยงสูงสุดที่นักลงทุนควรระวัง
มีการหลอกลวงในโลกไซเบอร์เพิ่มขึ้น
ในปัจจุบันได้มีการหลอกลวงหรือการ scam เพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ นักลงทุนที่ไม่ได้ระแวดระวังอาจจะติดกับดักกับการโฆษณาที่บอกว่าการลงทุนนั้น ๆ ให้ผลตอบแทนสูงและปลอดภัย
ด้านองค์กร NASAA ก็เผยว่ามีการหลอกลวงโดยเฉพาะการระดมทุนภาคเอกชนเกิดขึ้นเยอะมาก ซึ่งอาชญากรทางไซเบอร์ทุกวันนี้ก็ไม่ได้จำกัดแค่ในตลาดคริปโตเท่านั้น พวกเขายังตั้งเป้าจู่โจมใช้แพลตฟอร์มโซเชียลมาหลอกลวงนักลงทุนอีกด้วยซึ่งเราจะได้เห็นข่าวเกิดการก่ออาชญากรรมไซเบอร์ในรูปแบบต่าง ๆ อยู่ตลอด
การที่อุตสาหกรรมคริปโตไม่ได้รับการกำกับดูแลอาจเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้อาชญากรเหล่านั้นหาช่องทางที่จะใช้ประโยชน์จากพื้นที่ตรงนี้ก็เป็นได้
ตั้งแต่ปี 2021 ก็มี Scam เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
นับตั้งแต่ปี 2021 มีการหลอกลวงหรือ scam เกิดขึ้นจำนวนมากในตลาดคริปโตและยังคงเติบโตต่อไปเรื่อย ๆ โดยในปีที่แล้วมีนักลงทุนสูญเงินรวมกันไปแล้วกว่า 2.8 พันล้านดอลลาร์เพราะติดกับเหล่าอาชญากรคริปโต ดังนั้นแล้วก่อนที่จะลงทุนในผลิตภัณฑ์ใด ๆ นักลงทุนควรพิจารณาก่อนเสมอว่าโปรเจ็คนั้น ๆ ดูน่าเชื่อถือหรือไม่ และต้องไม่หลงเชื่อกับการโฆษณาที่ไม่สมจริง
ประเทศอื่น ๆ มีการแบนคริปโตมากขึ้น
แม้ว่าคริปโตจะเริ่มเป็นที่ยอมรับมากขึ้นในหลาย ๆ ประเทศแต่กลับมีรายงานเผยว่าในระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา จำนวนประเทศที่สั่งแบนคริปโตนั้นเพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยเพิ่มขึ้นกว่า 3 เท่าจากปี 2018 ประเทศที่มีการสั่งแบนคริปโตก็เช่น อียิปต์ อิรัก กาตาร์ โอมาน โมร็อกโก แอลจีเรีย ตูนิเซีย บังกลาเทศ และจีน ซึ่งการสั่งแบนคริปโตของจีนนั้นตกเป็นประเด็นที่ได้รับความสนใจมากที่สุดในปี 2021