ข่าวคริปโตเคอเรนซี่

MSTR ของ Michael Saylor ก้าวสู่ Nasdaq-100 กองทุนทั่วโลกเปิดรับ Bitcoin ทางอ้อม

MSTR ของ Michael Saylor ก้าวสู่ Nasdaq-100 กองทุนทั่วโลกเปิดรับ Bitcoin ทางอ้อม

เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม Nasdaq ได้ประกาศว่า MicroStrategy (MSTR) บริษัทซอฟต์แวร์ของ Michael Saylor ซึ่งกลายเป็นผู้ถือครอง Bitcoin กว่า 400,000 BTC จะถูกเพิ่มเข้าสู่ ดัชนี Nasdaq-100 ในสหรัฐฯ ตั้งแต่วันที่ 23 ธันวาคมนี้

นอกเหนือจาก MicroStrategy แล้ว บริษัทที่ได้รับการเพิ่มเข้าดัชนี Nasdaq-100 ในรอบนี้ยังมี Palantir Technologies Inc. (PLTR) และ Axon Enterprise, Inc. (AXON) ในขณะที่ Illumina, Inc. (ILMN), Super Micro Computer, Inc. (SMCI) และ Moderna, Inc. (MRNA) ถูกถอดออกจากดัชนี

การเข้าร่วมดัชนี Nasdaq-100 หมายความว่า MicroStrategy เป็นหนึ่งในบริษัทที่มีมูลค่าตลาดสูงสุด 100 อันดับแรกในตลาด Nasdaq โดยมีผลให้หุ้น MSTR ถูกเพิ่มเข้าไปในพอร์ตของ Invesco QQQ Trust (QQQ) ซึ่งเป็นกองทุน ETF ที่บริหารสินทรัพย์มูลค่ากว่า 3.22 แสนล้านดอลลาร์

การตอบรับอย่างรวดเร็วจากอุตสาหกรรมคริปโต

 ( ที่มา : James Lavish )
 ( ที่มา : James Lavish )

Will Clemente นักวิเคราะห์คริปโตชื่อดังโพสต์บน X (Twitter) เมื่อวันที่ 13 ธันวาคมว่า"ตอนนี้เมื่อ MSTR ถูกเพิ่มเข้าไปใน Nasdaq กองทุนบำนาญขนาดใหญ่ กองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติ และบัญชีเกษียณส่วนบุคคลทั่วโลก จะมีส่วนเกี่ยวข้องกับ Bitcoin ในทางอ้อม"

การที่หุ้น MicroStrategy (MSTR) ถูกเพิ่มเข้าไปในดัชนี Nasdaq-100 หมายความว่ากองทุนขนาดใหญ่และบัญชีการลงทุนเพื่อการเกษียณที่ลงทุนในดัชนีนี้จะมีการถือครองหุ้น MSTR โดยอัตโนมัติ ซึ่ง MSTR เองมีการถือครอง Bitcoin ในปริมาณมาก ทำให้กองทุนเหล่านี้มีส่วนเกี่ยวข้องกับ Bitcoin ทางอ้อม แม้จะไม่ได้ลงทุนใน Bitcoin โดยตรง

ด้าน Jeff Park หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์ของ Bitwise Invest บริษัทจัดการการลงทุนระดับโลก กล่าวว่า"ดีลแห่งทศวรรษเพิ่งเริ่มต้น จงเตรียมตัวให้พร้อม"

ขณะที่ Felix Hartmann ผู้ก่อตั้ง Hartmann Capital แสดงความคิดเห็นว่า"ข่าวนี้ยังไม่ได้ส่งผลกับราคาหุ้น จนกว่าตลาดจะเปิดทำการ"

Hartmann ยังกล่าวเสริมอีกว่า ผู้จัดการกองทุนที่มีการลงทุนแบบ active management และใช้ Nasdaq เป็นมาตรฐานเปรียบเทียบ (benchmark) จะต้องเผชิญกับความท้าทาย เนื่องจากหุ้น MSTR ซึ่งมีการลงทุนใน Bitcoin จำนวนมาก ถูกเพิ่มเข้าไปในดัชนี Nasdaq-100 แล้ว

ดังนั้น ผู้จัดการกองทุนเหล่านี้จำเป็นต้องป้องกันความเสี่ยง (hedge) จากความเป็นไปได้ที่ผลตอบแทนของพวกเขาจะต่ำกว่ามาตรฐาน (underperformance risk) โดยการลงทุนใน Bitcoin (BTC) โดยตรง หรือในหุ้นของ MSTR เพื่อไม่ให้ผลตอบแทนของกองทุนเสียเปรียบเมื่อเทียบกับดัชนี

Saylor เดินหน้าผลักดัน Bitcoin

ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม Michael Saylor ได้เสนอต่อคณะกรรมการของบริษัท Microsoft ว่าหากบริษัทเพิ่ม Bitcoin เข้าเป็นสินทรัพย์ในงบดุล จะช่วยเพิ่มมูลค่าบริษัทตามราคาตลาดของ Microsoft ได้เกือบ 5 ล้านล้านดอลลาร์

Saylor กล่าวในระหว่างการประชุมประจำปีของผู้ถือหุ้นอขงบริษัทว่า"Microsoft ไม่อาจพลาดคลื่นเทคโนโลยีลูกถัดไปได้ และ Bitcoin คือคลื่นลูกนั้น"

โดยเขาแนะนำให้ Microsoft พิจารณาเปลี่ยนเงินสดที่บริษัทมี (cash flows) เงินปันผลที่จ่ายออกไป (dividend payouts) หนี้สิน (debt) และการซื้อหุ้นคืน (stock buybacks) ให้กลายเป็นการลงทุนใน Bitcoin 

อ้างอิง : Cointelegraph

ติดตาม CryptoSiam
เพื่อให้ไม่พลาด ทุกข่าวสาร วงการคริปโต

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: การลงทุนมีความเสี่ยงสูง ดังนั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดก่อนการลงทุนทุกครั้ง

ข้อมูลในบทความนี้มีจุดประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้น Cryptosiam ไม่รับประกันความสมบูรณ์ ความถูกต้อง หรือความน่าเชื่อถือของข้อมูลดังกล่าว และไม่มีสิ่งใดในบทความนี้ที่ควรใช้เป็นคำแนะนำหรือชักชวน ให้ซื้อหรือขายคริปโต รวมทั้งการประเมินใดๆ ไม่มีข้อความใดในบทความที่ถือเป็นคำแนะนำทางกฎหมาย วิชาชีพ การลงทุน และ/หรือทางการเงิน และ/หรือคำนึงถึงความต้องการเฉพาะ และ/หรือข้อกำหนดของแต่ละบุคคล

Cryptosiam และบริษัทในเครือ ขอปฏิเสธความรับผิด หรือความรับผิดชอบทั้งหมดเกี่ยวกับเนื้อหาของบทความ และการดำเนินการใดๆ กับข้อมูลในบทความนั้น เป็นความเสี่ยงของผู้อ่าน และถือเป็นความเสี่ยงแต่เพียงผู้เดียว

ข่าวต่อไป

บทความที่เกี่ยวข้อง

Bybit กลับมาดำเนินการถอนเงินได้ตามปกติ หลังถูกแฮกมูลค่า 1.5 พันล้านดอลลาร์
บราซิลอนุมัติ Spot XRP ETF เป็นครั้งแรก! ขณะธนาคารท้องถิ่นเตรียมเปิดตัว StableCoin บน XRPL
นักวิเคราะห์ เผย! การรับรองคำขอ Spot XRP ETF ของ SEC อาจเร่งให้ XRP พุ่งแตะ $6
นักวิเคราะห์คว้ารางวัลจาก Arkham หลังเป็นผู้ที่่ระบุว่า กลุ่มแฮ็กเกอร์จากเกาหลีเหนือ เป็นผู้อยู่เบื้องหลังการแฮ็ก Bybit มูลค่า 1.4 พันล้านดอลลาร์