การลงทุน

Michael Saylor ส่งสัญญาณ Strategy เตรียมซื้อ Bitcoin เพิ่มหลังราคาย่อตัว

Michael Saylor ส่งสัญญาณ Strategy เตรียมซื้อ Bitcoin เพิ่มหลังราคาย่อตัว

Michael Saylor แย้มว่า Strategy อาจเข้าซื้อ Bitcoin เพิ่ม หลังราคาปรับลดจากจุดสูงสุดตลอดกาล โดยบริษัทถือ Bitcoin แล้วกว่า 576,000 BTC และอาจกลายเป็นบริษัทที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลกจากกลยุทธ์ถือครองสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีศักยภาพสูงนี้

Michael Saylor ผู้ร่วมก่อตั้ง Strategy ออกมาเผยว่า บริษัทอาจเข้าซื้อ Bitcoin เพิ่มในช่วงที่ราคาปรับตัวลงจากจุดสูงสุดตลอดกาลที่ 112,000 ดอลลาร์ เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคมที่ผ่านมา

"ผมจะซื้อ Bitcoin เฉพาะกับเงินที่ผมไม่สามารถจะเสียมันไปได้" Saylor โพสต์ข้อความผ่านบัญชี X ที่มีผู้ติดตามกว่า 4.3 ล้านคน สะท้อนมุมมองเชิงบวกแม้ราคาในตลาดจะปรับตัวลดลง

ก่อนหน้านี้เพียงไม่กี่วัน เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม Strategy เพิ่งเข้าซื้อ Bitcoin เพิ่มอีก 7,390 BTC คิดเป็นมูลค่าราว 765 ล้านดอลลาร์ ทำให้บริษัทมี Bitcoin ในครอบครองรวมถึง 576,230 BTC หากบริษัทเดินหน้าซื้อเพิ่มอีกในวันที่ 26 พฤษภาคมนี้ ก็จะนับเป็นสัปดาห์ที่ 7 ติดต่อกันที่ Strategy เข้าซื้อสินทรัพย์ดิจิทัลนี้

การซื้อ Bitcoin ของ Strategy ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ( ที่มา : SaylorTracker )
การซื้อ Bitcoin ของ Strategy ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ( ที่มา : SaylorTracker )

กลยุทธ์การสะสม Bitcoin อย่างต่อเนื่องของ Strategy ทำให้บริษัทกลายเป็นชื่อที่แทบจะแยกไม่ออกจาก Bitcoin และยังเป็นแรงบันดาลใจให้บริษัทอื่นเริ่มหันมาวางแผนการถือครอง Bitcoin เป็นสินทรัพย์ในคลังสำรอง ซึ่งช่วยเพิ่มความต้องการสินทรัพย์นี้จากฝั่งสถาบัน และเป็นแรงหนุนสำคัญต่อราคาของ Bitcoin

Strategy อาจก้าวขึ้นเป็นบริษัทมูลค่า 10 ล้านล้านดอลลาร์?

Jeff Walton นักวิเคราะห์ตลาดให้สัมภาษณ์กับ Financial Times ว่า Strategy มีโอกาสก้าวขึ้นเป็นบริษัทจดทะเบียนที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลก ด้วยการถือครองสินทรัพย์ที่เขาเรียกว่า “ดีที่สุดและบริสุทธิ์ที่สุดบนโลกใบนี้” มากกว่าบริษัทใดหลายเท่า

Walton ยังระบุว่า Strategy สามารถระดมทุนหลักพันล้านดอลลาร์ได้ภายในเวลาไม่ถึงสองเดือน ในขณะที่บริษัททั่วไปมักมีปัญหาในการหาเงินเพียงไม่กี่ร้อยล้านดอลลาร์ และแทนที่จะนำเงินไปใช้กับการผลิตหรือค่าใช้จ่ายทั่วไป Strategy กลับนำเงินที่ได้จากการกู้ยืมและขายหุ้น ไปลงทุนใน Bitcoin ซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่มีแนวโน้มเติบโตสูง ขณะที่มูลค่าของสกุลเงินเฟียตก็ลดลงเรื่อย ๆ

Saylor เองเคยคาดการณ์ว่า ราคา Bitcoin อาจพุ่งไปแตะระดับหลักล้านดอลลาร์ต่อเหรียญในอีกไม่กี่ทศวรรษข้างหน้า ด้วยเหตุผลว่า Bitcoin เป็นสินทรัพย์ที่มีจำนวนจำกัด และมีโอกาสเติบโตอย่างไม่สมดุลเมื่อเทียบกับสกุลเงินเฟียตที่พิมพ์ออกมาได้ไม่จำกัด

อย่างไรก็ตาม ในระยะสั้น Bitcoin ยังคงไม่สามารถทะลุระดับ 150,000 ดอลลาร์ได้ โดย Saylor เชื่อว่าสาเหตุสำคัญมาจากนักลงทุนที่ขาดความเชื่อมั่นในระยะยาวและตัดสินใจขายทำกำไรเร็วเกินไป

อ้างอิง : Cointelegraph

ติดตาม CryptoSiam
เพื่อให้ไม่พลาด ทุกข่าวสาร วงการคริปโต

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: การลงทุนมีความเสี่ยงสูง ดังนั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดก่อนการลงทุนทุกครั้ง

ข้อมูลในบทความนี้มีจุดประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้น Cryptosiam ไม่รับประกันความสมบูรณ์ ความถูกต้อง หรือความน่าเชื่อถือของข้อมูลดังกล่าว และไม่มีสิ่งใดในบทความนี้ที่ควรใช้เป็นคำแนะนำหรือชักชวน ให้ซื้อหรือขายคริปโต รวมทั้งการประเมินใดๆ ไม่มีข้อความใดในบทความที่ถือเป็นคำแนะนำทางกฎหมาย วิชาชีพ การลงทุน และ/หรือทางการเงิน และ/หรือคำนึงถึงความต้องการเฉพาะ และ/หรือข้อกำหนดของแต่ละบุคคล

Cryptosiam และบริษัทในเครือ ขอปฏิเสธความรับผิด หรือความรับผิดชอบทั้งหมดเกี่ยวกับเนื้อหาของบทความ และการดำเนินการใดๆ กับข้อมูลในบทความนั้น เป็นความเสี่ยงของผู้อ่าน และถือเป็นความเสี่ยงแต่เพียงผู้เดียว

บทความที่เกี่ยวข้อง

Adam Back นำการระดมทุน 2.2 ล้านดอลลาร์ให้กับ H100 บริษัทเทคโนโลยีสุขภาพของสวีเดนเพื่อซื้อ Bitcoin
ผู้บริหาร Moon Inc. ชี้ บริษัทที่เก็บ Bitcoin เป็นสินทรัพย์สำรอง จะถือครองเหรียญมากกว่าที่นักลงทุนคาดเอาไว้มาก
Cathie Wood ชี้ Crypto ETF ยังไม่หมดเสน่ห์ แม้การใช้งานกระเป๋าคริปโตจะเติบโตในอนาคต
ราคาของ Bitcoin ชะลอตัวที่ระดับ 110,000 ดอลลาร์ แม้นักลงทุนสถาบันยังคงเข้าซื้ออย่างต่อเนื่อง