General

เหรียญของแอปส่งข้อความชื่อดัง LINE เปิดให้คนญี่ปุ่นเทรดได้แล้ว

Line.jpg

บริษัทเจ้าของแอปส่งข้อความชื่อดัง LINE มีเหรียญคริปโตของตัวเองที่ตอนนี้ให้คนญี่ปุ่นเทรดบนแพลตฟอร์ม Exchange ได้แล้ว

บริษัทไลน์ก็มีโปรเจคเหรียญคริปโตของตัวเองเช่นกัน ซึ่งไลน์ได้สร้างโทเค็นของตัวเองขึ้นมาชื่อว่าโทเค็น “LINK” และได้มีบริษัทที่ให้ความร่วมมือก็คือบริษัท BitMax ซึ่งประกาศล่าสุดเผยว่าโทเค็นของไลน์เปิดให้เทรดบนแพลตฟอร์ม Exchange ด้านคริปโตของญี่ปุ่นแล้ว

ชาวญี่ปุ่นเฮ! เทรดโทเค็นของไลน์ได้แล้ว

บริษัทด้าน Blockchain ที่ร่วมมือกับ LINE ได้นำโทเค็นของไลน์ให้นักเทรดชาวญี่ปุ่นได้ทำการเทรดแล้ว ประกาศเมื่อประมาณสัปดาห์ที่แล้วเผยว่าบริษัท BitMax ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มด้านคริปโตในญี่ปุ่นได้เปิดให้เทรดโทเค็น LINK (LN) ของไลน์แล้ว

ก่อนหน้านี้แพลตฟอร์มคริปโตสัญชาติอเมริกา Bitfront ก็ได้เพิ่มเหรียญ LINK ลงบนแพลตฟอร์มของตน แต่นักเทรดชาวญี่ปุ่นไม่สามารถเข้าถึงบริการนี้ได้ จึงยังไม่สามารถเทรดโทเค็น LINK บนแพลตฟอร์มดังกล่าว

เริ่มแรกโปรเจค LINK ถูกสร้างขึ้นมาช่วงปี 2018 เพื่อเป็นแรงจูงใจให้กับผู้ใช้งานของไลน์ ซึ่งในขณะนี้บริษัทก็ตั้งใจที่จะสร้างระบบนิเวศผู้ใช้งาน โดยการที่ผู้ใช้งานไลน์ก็จะมีโอกาสได้รับรางวัลเป็นเหรียญ LN ถ้าหากใช้งาน DApps (Decentralized Apps)

เหรียญ LINK ของ Line กับ Chainlink เป็นคนละอันกัน เพียงแต่มีชื่อคล้ายกันเท่านั้น อย่างที่กล่าวไปข้างต้นว่า LINK เคยถูกเอาขึ้นกระดานเทรด Bitfront มาก่อน (ชื่อก่อนหน้านี้คือ Bitbox) และโทเค็นนี้ก็ถูกสร้างขึ้นบน Private Blockchain ของไลน์ด้วย นอกจากนี้ยังมีเหรียญอื่น ๆ ที่เปิดให้เทรดบน BitMax ซึ่งก็คือเหรียญทีมีมูลค่าตลาดใหญ่ ๆ เช่น  bitcoin (BTC), ethereum (ETH), XRP (XRP), bitcoin cash (BCH) และ litecoin (LTC)

LVC เป็นผู้ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับสินทรัพย์ Cryptocurrency ของไลน์และธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับบล็อกเชนที่ได้มีการเปิดตัวแพลตฟอร์ม BitMax หลังจากได้รับใบอนุญาตจากหน่วยงานบริการทางการเงินของญี่ปุ่น (FSA) เมื่อวันที่ 6 กันยายน 2019

บริษัทเทคโนโลยีต่างได้เข้ามาสร้างผลิตภัณฑ์ด้าน Cryptocurrency เพิ่มมากขึ้น บริษัทเจ้าของแอปพลิเคชันที่คนไทยนิยมใช้อย่างไลน์เขาก็มีผลิตภัณฑ์ด้านคริปโตของตัวเองมาเช่นกันริเริ่มมาตั้งแต่ปี 2018 แล้ว แต่ยังไม่ได้ให้เทรดแบบเชิงพาณิชย์อย่างเต็มที่ซึ่งต่อไปอาจได้เห็นบริษัทผลักดันการใช้งานโทเค็นของตัวเอง เพิ่มฐานผู้ใช้งานมากขึ้นกว่าเดิม

ติดตาม CryptoSiam
เพื่อให้ไม่พลาด ทุกข่าวสาร วงการคริปโต
แท็ก:
ข่าวต่อไป

บทความที่เกี่ยวข้อง

Bitcoin มีโอกาสอีก 25% ที่จะทำราคาขึ้นไปยังระดับ 160,000 ดอลล์ ภายในปี 2025
วิเคราะห์เหรียญ Solana! หาแนวรับ/แนวต้านล่าสุด 30/04/04
Polymarket เปิดโพล! พบผู้ใช้งานกว่า 42% เชื่อว่า CZ อดีต CEO Binance จะได้รับโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน
JPMorgan เชื่อ! แม้เศรษฐกิจสหรัฐจะเป็นไปได้ด้วยดี แต่ก็ยังมีโอกาสเกิดการชะลอตัว