JPMorgan กลับลำ ชี้ Bitcoin กำลังเติบโตอย่างมั่นคง
ธนาคารชื่อดัง JP Morgan ออกตัวสนับสนุน Bitcoin หลังจากที่ได้เคยแสดงท่าทีต่อต้านอย่างมากมาก่อน
ธนาคารชื่อดัง JP Morgan ออกตัวสนับสนุน Bitcoin หลังจากที่ได้เคยแสดงท่าทีต่อต้านอย่างมากมาก่อน
สัญญาณจาก JPMorgan
ธนาคาร JPMorgan นั้นเป็นสถาบันการเงินซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดในภูมิภาคอเมริกาเหนือ ดังนั้นแล้วทิศทางการเคลื่อนไหวรวมทั้งความเห็นของพวกเขาจึงมีความสำคัญอย่างมากต่อตลาดการเงินโดยเฉพาะในตลาดของประเทศสหรัฐอเมริกา โดยในช่วงก่อนหน้านี้ทางธนาคารดังกล่าวมีท่าทีไม่ยอมรับ Bitcoin ว่าเป็นสินทรัพย์ที่จะสามารถอยู่รอดต่อไปในวงการได้
อย่างไรก็ตาม ในรายงานการวิจัยล่าสุดของธนาคารดังกล่าวซึ่งนำโดยนาย Joshua Younger และนาย Nikolaos Panigirtzoglou ได้มีการกล่าวถึงศักยภาพของ Bitcoin จากการวิเคราะห์ข้อมูลตลาดในช่วงวิกฤติเศรษฐกิจที่ผ่านมาเมื่อช่วงกลางเดือนมีนาคมซึ่งเหล่านักลงทุนได้เทขายสินทรัพย์ของพวกเขาครั้งใหญ่ สรุปได้ดังนี้คือ
เหรียญดังกล่าวนั้นมีความเข้มแข็งในตลาดมากกว่าสินทรัพย์อื่นๆอย่างสกุลเงินตราต่างประเทศ ตราสารทุนหรือแม้แต่ทองคำ โดยพิจารณาจากคำนวนปริมาณสภาพคล่องในตลาด Bitcoin รวมทั้งอัตราการตั้งรายการซื้อและขายเหรียญดังกล่าวที่ส่งผลโดยตรงต่ออัตราการผันผวนของราคาในตลาดนั่นเอง
"Bitcoin ได้รับผลกระทบเพียงเล็กน้อยเมื่อเปรียบเทียบกับผลกระทบที่เกิดขึ้นในตลาดหุ้น การเปลี่ยนแปลงของราคาเหรียญดังกล่าวนั้น ปรากฏว่าในช่วงระยะหลังได้มีการเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางเดียวกันกับตลาดตราสารทุนมากกว่าตลาดทองคำ"
แม้ว่าเหรียญดังกล่าวจะพุ่งลงไปแตะระดับต่ำสุดในรอบหลายเดือนในช่วงเดียวกันกับที่ตลาดอื่นๆเป็นขาลง แต่ก็ยังปรากฎการกลับตัวขึ้นมาของตลาดรวดเร็วกว่าทีเกิดขึ้นแก่สินทรัพย์ประเภทอื่นๆอีกด้วย
ความไว้ใจที่เพิ่มขึ้นของสถาบันการเงิน
การที่ทาง JPMorgan นั้นออกมากล่าวสรุปในทิศทางดังกล่าวนั้นเป็นสิ่งที่สร้างความสนใจให้แก่ผู้คนในวงการ Cryptyocurrency อย่างมาก เนื่องจากในช่วงก่อนหน้าผู้บริหารของธนาคารดังกล่าวอย่างนาย Jamie Dimon นั้นได้เคยออกมาแสดงความเห็นว่าเหรียญดังกล่าวมันเป็นแค่เพียงหนึ่งในสิ่งที่มีเอาไว้หลอกเอาเงินนักลงทุนเท่านั้น
นอกจากรายงานดังกล่าวแล้ว ยังได้ปรากฎว่าธนาคารยักษ์ใหญ่ดังกล่าวยังได้เริ่มเปิดให้บริการแก่กลุ่มลูกค้าซึ่งมาจากอุตสาหกรรมคริปโตเพิ่มมากขึ้นอีกด้วย โดยได้ให้ยบริการดังกล่าวผ่านทางแพลตฟอร์มการซื้อขายแลกเปลี่ยนประจำภูมิภาคอย่าง Coinbase และ Gemini การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้เป็นสัญญาณว่าสถาบันการเงินได้ให้การยอมรับเหรียญดังกล่าวมากขึ้นแล้วนั่นเอง
อย่างไรก็ตามทางธนาคารยังคงยืนยันความเห็นในส่วนที่ว่าสินทรัพย์ประเภทสกุลเงิน Cryptyocurrency นั้นยังคงมีความผันผวนทางราคาเป็นหนึ่งในคุณสมบัติสำคัญของสินทรัพย์ประเภทดังกล่าว เนื่องมากจากการที่เหล่านักลงทุนได้มองว่าสกุลเงิน Cryptyocurrency นั้นเป็นเครื่องมือในการเก็งกำไรมากกว่าที่จะเป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนนั่นเอง
หากสนใจ สามารถสืบค้นเพิ่มเติมได้ที่ Cryptopotato