ผู้ร่วมก่อตั้ง Dogecoin จวกผู้มีอิทธิพลที่อยู่เบื้องหลังคริปโต
Jackson Palmer ผู้ร่วมก่อตั้งเหรียญ Dogecoin ไม่พอใจเกี่ยวกับสถานการณ์ของอุตสาหกรรมคริปโตเคอร์เรนซี่ในเวลานี้
Jackson Palmer ผู้ร่วมก่อตั้งเหรียญ Dogecoin ไม่พอใจเกี่ยวกับสถานการณ์ของอุตสาหกรรมคริปโตเคอร์เรนซี่ในเวลานี้
Jackson Palmer ผู้ร่วมก่อตั้งเหรียญ Dogecoin ไม่พอใจเกี่ยวกับสถานการณ์ของอุตสาหกรรมคริปโตเคอร์เรนซี่ในเวลานี้
ว่าด้วยผู้มีอิทธิพล
โดย Palmer ได้กล่าวว่า เขาไม่อยากเข้ามามีส่วนในวงการอลเวง เนื่องจากสถานการณ์อุตสาหกรรมที่เป็นอยู่ในเวลานี้ โดยเจ้าพ่อเหรียญสุดที่รักของอีลอน มัสก์ได้วิจารณ์เกี่ยวกับอุตสาหกรรม Crypto เอาไว้ว่า
“…เวลานี้ทั้งพวกฝ่ายขวา, พวกสายทุนนิยมเทคโนโลยีกำลังสร้างความมั่งคั่งด้วยการหลีกเลี่ยงภาษี อีกทั้งยังไม่มีกฎหมายควบคุมบังคับเรื่องนี้กวดขันมากพอ และรวมไปถึงการขาดความเข้มงวดในการดูแลทางเทคโนโลยี"
Jackson Palmer
เช่นกัน Palmer ได้ทำการวิจารณ์เกี่ยวกับโครงข่ายการตลาดที่อยู่เบื้องหลังอุตสาหกรรมคริปโต ซึ่งเขากล่าวว่า ประชาชนล้วนแล้วตกเป็นเหยื่อทางการเงินโดยล่อลวงให้พวกเขาเอาเงินออมมาลงทุนเพื่อหวังว่าเงินจะงอกเงยอย่างรวดเร็ว
“…โครงข่ายทางธุรกิจหลายแห่งล้วนแล้วเชื่อมโยงต่อเหล่าผู้มีอิทธิพล สื่อมวลชนที่ให้ความสำคัญกับแนวคิดของการรวดเร็ว ใช้ความสิ้นหวังและมุมมองที่คับแคบในการชี้ชวนให้ผู้คนเอาเงินออกมาลงทุน”
Jackson Palmer
“แม้จะมีการพูดถึงระบบการกระจายศูนย์ แต่อุตสาหกรรมคริปโตมีการควบคุมโดยผู้มีอิทธิพลที่มีความมั่งคั่งโดยมีการประสานร่วมมือกับสถาบันต่าง ๆ ที่เป็นศูนย์กลางของระบบทางการเงินที่พวกเขาคาดว่า จะเข้ามาแทนที่คริปโต”
Jackson Palmer
แต่ก็ดูเหมือนว่า สิ่งที่เขาได้พูดอาจจะไม่ได้ส่งผลต่อจิตวิทยามวลชนมากเท่าที่ควร เพราะล่าสุดทางอีลอน มัสก์ ณ เทสล่าได้กลับมาเขย่าวงการนี้อีกครั้ง
Dogecoin คือโจ๊ก
Palmer ไม่เคยคิดที่จะมีส่วนร่วมในงานเลี้ยงของคริปโตเคอร์เรนซี่ สำหรับเขาแล้วคิดว่า เหรียญที่เขาสร้างขึ้นมาคือของเล่นในช่วงปี 2013 ในตอนนั้นเขามักจะวิจารณ์ในเชิงประจบสอพลอเหรียญของตัวเองและรู้สึกไม่ปลื้มกับการที่บิทคอยน์มีความโดดเด่นกว่า
สำหรับเหตุผลตรงนี้ เขาเคยกล่าวว่า บิทคอยน์ควรที่จะทำให้เกิดมูลค่าที่แท้จริงในสังม ซึ่งตอนนั้นเขามองว่าบิทคอยน์ยังไม่ค่อยมีมูลค่ามากนัก
ล่าสุดตอนนี้ราคาเหรียญของเขากำลังเริ่มเป็นที่นิยมอีกครั้ง หลังจากที่ทางอีลอน มัสก์ พ่อบ้านใหญ่ที่หลายคนเชื่อว่าเป็นผู้มีบารมีนอกตลาดได้เข้ามาเยี่ยมเยียนเหรียญนี้อีกครัง
เช่นเดียวกัน ยังส่งผลต่อราคาบิทคอยน์ที่ในเวลานี้ ราคาสามารถยืนเหนือ $30,000 ได้สำเร็จ ซึ่งตอนที่กำลังเขียนอยู่นี้ ราคาบิทคอยน์แกว่งตัวอยู่ราว ๆ $32,000
แม้ว่าทาง Palmer จะโจมตีอุตสาหกรรมคริปโต แต่นั่นก็ไม่ดูเหมือนว่าจะส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อบิทคอยน์, etheruem หรือแม้แต่เหรียญหมาชิบะที่เขาก่อตั้งขึ้นมากับมือเองนั้น กลับกลายเป็นหนึ่งในดาวรุ่งพุ่งแรงที่สุดในเวลานี้
