ข่าว Ethereum

ชายชาวอิตาลีใช้ระบบคอมพิวเตอร์สนามบินในการขุด ETH

Photo 1582266255765 Fa5cf1a1d501.jpg

เป็นที่รู้กันดีกว่าคุณไม่สามารถขุด Crypto เพื่อหากำไรโดยใช้ระบบคอมพิวเตอร์ของคนอื่นโดยที่พวกเขาไม่อนุมัติและนั่นทำให้เจ้าหน้าที่สนามบินอิตาลีสุดแสบรายนี้โดนข้อหาระนาว

เจ้าหน้าที่สนามบินอิตาลีถูกตั้งข้อกล่าวหาจากการใช้ประโยชน์ของระบบคอมพิวเตอร์ในสถานที่ทำงานของเขาเพื่อขุด Ethereum (ETH)

สำนักข่าว Rai News ของอิตาลีรายงานว่ามีพนักงานของสนามบินแห่งหนึ่งซึ่งตั้งอยู่ในเมือง Lamezia Terme ของอิตาลี ได้ถูกกล่าวหาว่าทำการใส่มัลแวร์สำหรับการขุดลงในระบบคอมพิวเตอร์ของสนามบิน โดยพนักงานรายนี้ได้ติดตั้งแท่นขุดเจาะหลายต่อหลายแห่งในสถานที่ทำงานของเขา และเป็นการใช้ประโยชน์จาก Backend ของสนามบินในกรรมวิธีข้างต้น แต่ทว่าเขานั้นก็ไม่สามารถรอดจากสายตาของผู้รักษาความยุติธรรมไปได้ เพราะในที่สุดเจ้าหน้าที่ก็จับผู้ร้ายได้ผ่านทางกล้องรักษาความปลอดภัย

บริษัทผู้ให้บริการด้านเทคนิคอย่าง Sacal Global Solutions ซึ่งเป็นองค์กรที่ดูแลกรอบทางเทคนิคสำหรับสนามบินในแคว้นคาลาเบรียของอิตาลี ระบุว่าพนักงานสนามบินอายุ 41 ปีรายนี้ได้เจาะเข้าไปในระบบของ Sacal เพื่อติดตั้งมัลแวร์สำหรับการขุดเหรียญ และการกระทำของเจ้าหน้ารายนี้กำลังทำให้ระบบคอมพิวเตอร์ Backend ของสนามบินตกอยู่ในความเสี่ยงเป็นอย่างมาก

"พนักงานสอบสวน ได้ทำงานร่วมกันกับเจ้าหน้าที่สนามบินในการวิเคราะห์ถึงการแบ่งแยก (Partitions) ของเครือข่ายไอทีภายใน Hub (อุปกรณ์ศูนย์กลาง ที่เชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ หรืออุปกรณ์คอมพิวเตอร์อื่น ๆ เข้าด้วยกัน) และค้บพบการมีอยู่ของห้องเทคนิคสองห้องที่แตกต่างกันของ 'ฟาร์มขุด' [... ] ที่ซึ่งเชื่อมต่อกับเครือข่ายอินเทอร์เน็ตภายนอกผ่านระบบที่ทำหน้าที่จัดการบริการสนามบิน และขับเคลื่อนโดยแหล่งจ่ายไฟฟ้าของสนามบิน"

Rai News รายงานเพิ่มเติม

"การสอบสวนซึ่งประสานงานโดยสำนักงานอัยการของ Lamezia Terme ได้ดำเนินการโดยใช้กิจกรรมทางเทคนิคซึ่งทำให้สามารถตรวจสอบที่อยู่ IP ที่เกี่ยวข้องกับเครื่องที่ได้รับการติดตั้งมัลแวร์ดังกล่าว เพื่อระบุที่ตั้งของพูล 'Ethermine' (ใช้สำหรับ 'การขุด' ของ สกุลเงินดิจิทัลของ Ethereum) และตรวจสอบต้นตอของการทำเหมืองในครั้งนี้"

มัลแวร์ Crypto-Mining แพร่ระบาดมาอย่างยาวนาน

มัลแวร์การขุด Crypto ไม่ใช่ภัยคุกคามที่ผิดปกติในอุตสาหกรรมการเงินดิจิทัล โดย ณ ขณะที่ค่าเงินพุ่งใกล้ถึงจุดสูงสุดของตลาดกระทิง Crypto ในเดือนมกราคม 2018 มีรายงานว่ามัลแวร์ดังกล่าวระบาดไปทั่ว 55% ของ บริษัททั่วโลก ซึ่งธุรกิจที่ได้รับผลกระทบนั้นมีมากมาย โดยเฉพาะ YouTube เพราะมัลแวร์ตัวดังกล่าว ถูกตรวจพบบนโฆษณาของ YouTube และ Google ในญี่ปุ่น ฝรั่งเศส ไต้หวัน อิตาลี และสเปน ด้วยการฝังโค้ดเอาไว้ในโฆษณาผู้คนพบเห็น ซึ่งมีความสามารถในการใช้ทั้ง CPU ของผู้เยี่ยมชม และพลังงานไฟฟ้าเพื่อขุด Cryptocurrencies

ติดตาม CryptoSiam
เพื่อให้ไม่พลาด ทุกข่าวสาร วงการคริปโต
ข่าวต่อไป

บทความที่เกี่ยวข้อง

NYDFS จ่ออนุมัติ Stablecoin RLUSD ของ Ripple ในวันที่ 4 ธันวาคม
ผู้ก่อตั้ง Cardano(ADA) คาดการณ์ DeFi บน Bitcoin จะครอบงำวงการคริปโตภายใน 3 ปี
รัฐบาลสหรัฐฯ สั่นคลอนวงการคริปโต หลังโอน Bitcoin มูลค่า 1.9 พันล้านดอลลาร์
Spot Ethereum ETF สร้างสถิติใหม่ เงินทุนไหลเข้าทะลุ $332.9 ล้านดอลลาร์ ดึงดูดเม็ดเงินสูงกว่า Bitcoin ETF