Intel เปิดตัวชิปขุด Bitcoin สุดทรงพลังตัวใหม่
บริษัทชื่อดังระดับโลกอย่าง Intel ได้ผลิตชิปขุด Bitcoin ตัวใหม่ที่จะทำให้การทำเหมืองคริปโตมีประสิทธิภาพสูงถึง 40 TH/s
บริษัทชื่อดังระดับโลกอย่าง Intel ได้ผลิตชิปขุด Bitcoin ตัวใหม่ที่จะทำให้การทำเหมืองคริปโตมีประสิทธิภาพสูงถึง 40 TH/s
Intel Corporation ผู้ผลิตชิปคอมพิวเตอร์รายใหญ่ระดับโลกได้ออกมาเผยแพร่ข้อมูลชิปขุด Bitcoin รุ่นที่ 2 มีชื่อว่า Bonanza Mine (BMZ2) ผ่านการประชุม IEEE International Solid-State Circuits Conference (ISSCC) 2022 ที่รวบรวมบริษัทจากอุตสาหกรรมการผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และชิปจากทั่วโลก โดยชิปตัวดังกล่าวนั้นเป็นวงจรอิเล็กทรอนิกส์ที่ถูกออกแบบมาเพื่อขุด Bitcoin โดยเฉพาะ (ASIC) โดยใช้พลังงานต่ำมากเป็นพิเศษ ด้วยอัตราแฮชที่ 40 Terahashes ต่อ วินาที ที่สามารถนำไปประกอบกับเครื่องขุดประสิทธิภาพสูง 3,500 วัตต์ พร้อมมอบพลังในการปรับปรุงประสิทธิภาพการขุด Bitcoin (BTC) ในระดับสูงสุดได้
ชิปขุด Bitcoin ตัวใหม่จะปรับปรุงประสิทธิภาพการขุดได้อย่างมหาศาล
แม้ว่าทาง Intel ยังไม่มีการออกมาประกาศวันเปิดตัวชิปขุดคริปโตตัวใหม่ พร้อมกับแนวทางในการตั้งค่าการเครื่องมือขุด Bitcoin รุ่นที่ 2 อย่างเป็นทางการ แต่ทว่าผู้ผลิตชิปคอมพิวเตอร์ชื่อดังก็ได้คาดการณ์ว่า ชิป BMZ2 จะถูกออกแบบให้เป็นไปตามระบบสถาปัตยกรรมที่มีความคล้ายคลึงกับชิปขุดคริปโตรุ่นแรกอย่าง BMZ1 ที่มีจำนวนมากกว่า 300 ชิ้น พร้อมถูกขับเคลื่อนโดยตัวขุดที่มีกำลังมากถึง 3,600 วัตต์ ที่ทำงานร่วมกันเพื่อส่งพลังการขุดให้ได้มากถึง 40 TH/s ในสภาพแวดล้อมที่มีความสมดุล
ทั้งนี้ เครื่องขุด Bitcoin รุ่นต่อไปของ Intel จะสามารถมอบประสิทธิภาพที่มีความสมดุลในระดับ 40.4 TH/s ผ่านการดึงพลังงานราว 2,293 วัตต์มาใช้ พร้อมทั้งมีสถิติใช้พลังงานต่ำที่ 56.97 Joules ต่อ วินาที ซึ่งเมื่อนำไปเปรียบเทียบกับฮาร์ดแวร์ของเครื่องขุดจาก Bitmain รุ่น Antminer S19j ASIC ที่ใช้พลังงานในการขุดอยู่ที่ 3,100 วัตต์ พร้อมพลังงานการส่งที่สูงถึง 90 TH/s ณ อุณหภูมิห้อง ทำให้ประสิทธิภาพในการขุดนั้นอยู่ที่ 34.5 J/TH
นอกจากนี้ ฮาร์ดแวร์รุ่นดังกล่าวจะมาพร้อมกับตัวเลือกในการทำงานในโหมดประสิทธิภาพสูง และประหยัดพลังงาน เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถปรับสัดส่วนการใช้ต้นทุนพลังงานให้เหมาะสมกับประสิทธิภาพในการขุด
Intel ประกาศตัวเป็นคู่แข่งผู้ผลิตเครื่องขุดคริปโตรายใหญ่
ก่อนหน้านี้ทางสำนักข่าวต่างประเทศได้มีการรายงานว่า Intel ได้เข้าจดสิทธิบัตรการค้าให้กับคำว่า “การขุด Bitcoin ประสิทธิภาพสูง” เมื่อเดือนพฤศจิกายน ปี 2018 พร้อมทั้งออกมาเสนอแนวทางการลดใช้พลังงานในการขุดโดยรวมลงราว 15% ด้วยเช่นเดียวกัน ซึ่ง ณ ขณะนั้น ทางองค์กรก็ได้ออกมาแสดงความมั่นใจในการก้าวเข้ามาสู่ตลาดขุดคริปโตในฐานะคู่แข่งของผู้ผลิตเครื่องขุดรายใหญ่อย่าง Bitmain, MicroBT และ Nvidia พร้อมระบุว่า
“Intel ได้ออกแบบ SHA 256 ที่สามารถปรับใช้กับวงจร ASIC ได้อย่างเหมาะสมไปอีกเวลาหลายปี ซึ่งทางองค์กรจะเริ่มจากการค้นหาแนวทางในการสร้างสรรค์เทคโนโลยีดังกล่าวใน Intel Labs”
อัตรา Hash rate ของ Bitcoin พุ่งสูงขึ้นเรื่อย ๆ
ความยากในการขุด Bitcoin นั้นยังคงมีแนวโน้มที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จะเห็นได้จากสถิติสูงสุดของอัตรา Hash rate ในการขุด Bitcoin นั้นอยู่ที่ 248.11 Exahashes ต่อวินาที (EH/s) ในวันที่ 13 กุมภาพันธ์ ซึ่งทะยานขึ้นไปกว่า 31.69% จากเดิม 188.40 EH/s ภายในเวลาเพียงวันเดียวเท่านั้น