กองทุน IMF ชี้ การร่างกฎหมายบิทคอยน์ของเอลซัลวาดอร์เอื้อประโยชน์มากเกินความเป็นจริง
กองทุน IMF มองร่างกฎหมายบิทคอยน์ของเอลซัลวาดอร์เอาไว้อย่างน่าสนใจ
กองทุน IMF มองร่างกฎหมายบิทคอยน์ของเอลซัลวาดอร์เอาไว้อย่างน่าสนใจ
กองทุนการเงินระหว่างประเทศหรือ IMF ได้ส่งสารเตือนไปยังประเทศเอลซัลวาดอร์เกี่ยวกับต้นทุนจากการผ่านร่างกฎหมายบิทคอยน์ให้ถูกกฎหมายว่า การผ่านร่างกฎหมายบิทคอยน์ของประเทศเอลซัลวาดอร์นั้น เป็นร่างกฎหมายที่เอื้อประโยชน์เกินความเป็นจริง
กองทุน IMF เตือนเอลซัลวาดอร์
เช่นกันทางด้านกองทุนการเงินระหว่างประเทศได้มีการเรียกร้องให้ทางประเทศเอลซัลวาดอร์ทำการพิจารณ์ในส่วนของกองทุน Fidebitcoin และ Chivo digital wallet ที่ทางรัฐบาลได้มีการเก็บค่าธรรมเนียมตรงส่วนนี้
เรื่องนี้ทางด้านกองทุนการเงินระหว่างประเทศได้มีการตีพิมพ์รายงานสถานการณ์ของประเทศเอลซัลวาดอร์เอาไว้จำนวน 114 หน้า โดยรายละเอียดนั้นได้ให้ความสำคัญกับเรื่องของการทำให้บิทคอยน์เป็นเรื่องถูกกฎหมายและการที่รัฐบาลพยายามเก็บรายได้จาก Chivo digital wallet
ประเทศเอลซัลวาดอร์เป็นประเทศแรกของโลกที่มีการนำบิทคอยน์มาใช้เป็นหนึ่งในสกุลเงินหลักของประเทศ เรื่องนี้ทำให้ทาง IMF เริ่มจับตาเฝ้าดูประเทศเอลซัลวาดอร์อย่างใกล้ชิด สอดคล้องกับการที่รัฐบาลได้ออก Chivo wallet ที่สามารถใช้ได้ทั้งดอลลาร์สหรัฐกับบิทคอยน์ในการทำธุรกรรมไปมาได้
ความเสี่ยงต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นมากมาย
ในรายงานได้มีการระบุว่า การร่างกฎหมายบิทคอยน์ของประเทศเอลซัลวาดอร์นั้น ก่อให้เกิด Fidebitcoin ซึ่งเป็นกองทุนที่ดูเหมือนว่าจะเอื้อต่อ Chivo มากเกินความเป็นจริง เช่นเดียวกับการร่างกฎหมายบิทคอยน์เองนั้น ก็มีการรองรับสิทธิต่าง ๆ มากเกินควร
ในส่วนของผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศหรือ GDP นั้น ทาง IMF มองว่า ในระยะสั้นมีการใช้งบประมาณตรงนี้คิดเป็น 1 % ของ GDP และคาดว่าในปี 2022 นั้นอัตรา GDP เติบโตเพียงเล็กน้อยประมาณ ¼% ต่อปี ซึ่งยังไม่นับรวมความเสี่ยงต่าง ๆ ในการนำบิทคอยน์มาบังคับใช้ให้ถูกกฎหมาย ที่อาจส่งผลต่อเสถียรภาพทางการเงินและการคุ้มครองผู้บริโภค หากว่าราคาบิทคอยน์มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญด้วยแล้ว ยิ่งก่อให้เกิดความเสี่ยงในระบบเศรษฐกิจภายในประเทศมากขึ้นเท่านั้น