Human Rights มอบ 425 ล้าน SATs พัฒนา Bitcoin
กองทุนพัฒนา Bitcoin จากมูลนิธิ Human Rights มอบ 425 ล้าน SATs ให้กับโปรเจกต์พัฒนา BTC ทั่วโลกเพื่อนำไปปรับปรุงเครือข่ายให้สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น
กองทุนพัฒนา Bitcoin จากมูลนิธิ Human Rights มอบ 425 ล้าน SATs ให้กับโปรเจกต์พัฒนา BTC ทั่วโลกเพื่อนำไปปรับปรุงเครือข่ายให้สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น
จากการประกาศผ่านเว็บไซต์หลักของทางมูลนิธิเมื่อวันอังคารที่ 4 มกราคม ที่ผ่านมาได้ระบุว่า Human Rights มอบ 425 ล้าน SATs หรือ Satoshis หน่วยที่เล็กที่สุดของเหรียญ Bitcoin ซึ่งได้รับมาจากผู้สนับสนุนรายใหญ่เพื่อแจกจ่ายให้กับโปรเจกต์ต่าง ๆ ทั่วโลกนำไปใช้พัฒนาเครือข่ายเหรียญดังกล่าวให้ออกมาสมบูรณ์แบบมากยิ่งขึ้น
3 องค์กรใหญ่ร่วบริจาคให้ Human Rights มอบ 425 ล้าน SATs
กองทุน Bitcoin Development Fund ที่ก่อตั้งขึ้นโดยมูลนิธิ HRF ได้เปิดตัวครั้งแรกในเดือนพฤษภาคม ปี 2020 โดยมีจุดประสงค์ในการเข้าปรับปรุงแก้ไขความเป็นส่วนตัว, การใช้งาน และ ความปลอดภัยบนเครือข่ายของ Bitcoin เป็นหลัก ซึ่งทางมูลนิธิหวังจะนำเงินทุนไปใช้ขยายแหล่งศึกษาค้นคว้า Bitcoin เช่นเดียวกันกับการเพิ่มศูนย์พัฒนาเครือข่าย และ Wallet ของเหรียญให้มีจำนวนมากขึ้น
ตามข้อมูลการประชาสัมพันธ์ของทางองค์กร ได้ระบุถึงการแบ่งจำนวนเงินทุนให้กับผู้รับจำนวนหนึ่ง ซึ่งหนึ่งในนั้นเป็นกลุ่มนักพัฒนา ได้แก่ Jarol Rodriguez, Farida Nabourema, Roya Mahboob, Anita Posch และ Meron Estefanos โดยโปรเจกต์บางตัวจะได้รับเงินทุนจากมูลนิธิด้วยเช่นเดียวกัน เช่น Sparrow Bitcoin Wallet, Boltz Exchange, โครงการฝึกงานภาคฤดูร้อน Summer of Bitcoin, ทีมแปล Blockchain Exonumia และกลุ่มพัฒนา Blockchain Commons เป็นต้น
นอกจากนี้ทางมูลนิธิยังได้ออกมากล่าวขอบคุณต่อ CMS Holdings, Gemini Opportunity Fund และ Jameson Lopp สำหรับการร่วมบริจาคเงินทุนในครั้งนี้
HRF เคยเรียกร้องให้ผู้คนเลิกมองว่า Bitcoin ไม่ดี
ย้อนกลับไปในเดือนมกราคม ปี 2021 ทางมูลนิธิ HRF ได้ขึ้นพาดหัวข่าวบนนิตยสาร Time เพื่อเรียกร้องให้ผู้อ่านเลิกมอง Bitcoin และ สกุลเงินดิจิทัลสกุลอื่น ๆ เป็นสิ่งชั่วร้าย ซึ่งในระหว่างนั้น Alex Gladstein ผู้บริหารฝ่ายกลยุทธ์แห่ง HRF ได้ออกมากล่าวเสริมว่า
“Bitcoin มีความเป็นกลางเช่นเดียวกับเงินสด และ ไม่สามารถบ่งชี้ได้ว่าสินทรัพย์ประเภทนี้เป็นสิ่งที่ดี หรือ ไม่ดี... พวกคนหัวรุนแรงบางรายก็ได้ใช้สินทรัพย์ประเภทนี้เช่นเดียวกันกับที่พวกเขาใช้โทรศัพท์มือถือ อีเมล์ และ อินเทอร์เน็ต”
ผู้บริหารยังได้กล่าวเพิ่มเติมว่าการไม่ยอมรับ Bitcoin เครื่องมือทางการเงินที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว อาจนำไปสู่การก่อให้เกิดรัฐตำรวจ หรือ รัฐที่ไร้ซึ่งความยืดหยุ่นในการปกครองขนาดใหญ่ขึ้นกว่าเดิมภายในสหรัฐอเมริกาได้