HSBC และ IBM ทดลองทำธุรกรรม CBDC สำเร็จแล้ว
โครงการนำร่องของ HSBC และ IBM ทดลองทำธุรกรรม CBDC ข้ามประเทศในรูปแบบ end-to-end สำเร็จแล้ว พร้อมเป็น Roadmap ให้กับ CBDC ทั่วโลก
โครงการนำร่องของ HSBC และ IBM ทดลองทำธุรกรรม CBDC ข้ามประเทศในรูปแบบ end-to-end สำเร็จแล้ว พร้อมเป็น Roadmap ให้กับ CBDC ทั่วโลก
ประกาศจากบริษัทยักษใหญ่ทั้ง 2 แห่งเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 16 ธันวาคม ระบุว่า HSBC และ IBM ทดลองทำธุรกรรม CBDC ในรูปแบบ Multi-Ledger สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี จากการทดสอบโทเคน และ ทดลองทำธุรกรรมผ่าน Wallet ดิจิทัลด้วย CBDC ทั้ง 2 สกุล, eBonds และ Forex ทั้งนี้โปรเจกต์ดังกล่าวได้รับความช่วยเหลือจากโครงการ Hyperledger Fabric ของ IBM และ Corda ผู้ให้บริการด้านเทคโนโลยีในเครือ R3 ในการสร้างรากฐานเทคโนโลยี Distributed Ledger เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับการทำธุรกรรมข้างต้นได้
อย่างไรก็ตามธนาคารกลาง Banque de France ได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการควบคุมดูแลโครงการดังกล่าวให้สามารถนำไปปรับใช้กับยูโรดิจิทัลได้ โดยก่อนหน้านี้ธนาคารกลางแห่งฝรั่งเศส และ ธนาคารกลางแห่งสวิสเซอร์แลนด์ ได้ออกมาเผยผลการทดสอบดิจิทัลฟรังก์สวิส และ ยูโรดิจิทัลที่เป็นไปในเชิงบวก แม้ว่าผลการทดสอบจะออกมาเป็นที่น่าพึงพอใจก็ตาม แต่ทว่าสถาบันการเงินทั้ง 2 แห่งยังคงกังวลถึงปัญหาด้านกฎระเบียบอยู่
แผนที่ HSBC และ IBM ทดลองทำธุรกรรม CBDC จะเป็น Roadmap ให้กับหลายประเทศทั่วโลก
Mark Williamson กรรมการผู้จัดการแห่ง GFX eRisk หุ้นส่วนทางธุรกิจ HSBC กล่าวว่า
“การทำงานร่วมกันผ่านระบบบันทึกรายการการทำธุรกรรมดิจิทัล และ เทคโลยีที่แตกต่างกันนั้นถือว่าเป็นกุญแจสำคัญในการแสดงให้เห็นถึงวิธีที่ช่วยประหยัดเวลา ลดความเสี่ยงที่เกิดขึ้นในตลาด และ การพัฒนาระบบรักษาความปลอดภัยสำหรับการทำธุรกรรมระหว่างธนาคารกลาง, ธนาคารพาณิชย์ และ ลูกค้าของเราจากทั่วทุกมุมโลก”
Likhit Wagle ผู้จัดการ Global Banking & Financial Market แห่ง IBM ได้กล่าวเสริมว่า
“ในขณะที่ธนาคารกลางทั่วโลกเริ่มศึกษาถึงความเป็นไปได้ในการดึงศักยภาพของ CBDC มาสร้างความโปร่งใส และ ความปลอดภัยสู่การทำธุรกรรมทางการเงินให้มากขึ้น โปรเจกต์นี้ได้ถูกสร้างขึ้นเพื่อสร้างแผนการทำงานที่ครอบคลุมให้กับสามารถนำไปปรับใช้ต่อได้”
CBDC ถูกนำมาพัฒนาศึกษาในหลากหลายประเทศทั่วโลก
ปัจจุบันหลายประเทศทั่วโลกต่างก็หันมาให้ความสำคัญกับ CBDC กันอย่างมากเนื่องจากประโยชน์ของโทเคนประเภทนี้สามารถนำมาใช้ในการต่อสู้กับเหรียญ Stablecoin ที่หลายประเทศมองว่าเป็นภัยคุกคามต่อระบบการเงินได้ จะเห็นได้จากผลการทดลองนำสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลางมาใช้จากหลายประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเดือนนี้ งานวิจัย Project Atom CBDC ของธนาคารกลางแห่งออสเตรเลีย (Australian Reserve Bank) เผยให้เห็นถึงผลประโยชน์มากมายที่จะได้รับจากการใช้ CBDC ในขณะเดียวกันธนาคารกลางแห่งคาซัคสถานยังได้ออกมารายงานถึงผลการทดสอบโครงการนำร่อง CBDC ของประเทศที่มีผลลัพธ์ในเชิงบวก รวมไปถึงกลุ่มประเทศแคริบเบียนตะวันออกที่ได้ดำเนินการขยายการใช้งาน CBDC เพิ่มเติมไปยังอีก 2 ประเทศที่เหลือ นอกจากนี้ประเทศมหาอำนาจอย่างรัสเซียก็กำลังมุ่งมั่นพัฒนารูเบิลดิจิทัลอย่างขะมักเขม้น