นักวิเคราะห์จาก VanEck บริษัทจัดการการลงทุนระดับโลก คาดการณ์ราคา Bitcoin สูงถึง 2.9 ล้านดอลลาร์ ภายในปี 2050
นักวิเคราะห์จากบริษัทด้านการลงทุนระดับโลกอย่าง VanEck คาดการณ์ว่าราคาของ Bitcoin อาจพุ่งทะยานขึ้นไปสูงถึง 2.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ภายในปี 2050
นักวิเคราะห์จากบริษัทด้านการลงทุนระดับโลกอย่าง VanEck คาดการณ์ว่าราคาของ Bitcoin อาจพุ่งทะยานขึ้นไปสูงถึง 2.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ภายในปี 2050
เพื่อที่จะทำให้ Bitcoin มีราคามากถึง 2.9 ล้านดอลลาร์ หรือราคาต้องขึ้นไปอีก 44 เท่าจากปัจจุบัน Bitcoin จะต้องกลายเป็นส่วนสำคัญของระบบการเงินระหว่างประเทศ ตามที่ Matthew Sigel หัวหน้าฝ่ายวิจัยสินทรัพย์ดิจิทัลของ VanEck และ Patrick Bush นักวิเคราะห์การลงทุนอาวุโสของบริษัทได้ระบุเอาไว้ว่า
เราคาดหวังว่า Bitcoin จะถูกนำมาใช้กันอย่างแพร่หลายในด้านการค้าระหว่างประเทศ กลายเป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนที่สำคัญ และเป็นที่เก็บรักษามูลค่าที่มั่นคง ซึ่งจะนำไปสู่กฎของเกรแฮม (Gresham’s Law) เมื่อ Bitcoin มีประโยชน์และมีค่ามากขึ้น ธนาคารกลางและนักลงทุนระยะยาวก็จะต้องการถือครอง Bitcoin มากขึ้นไปอีก ทำให้จำนวนเหรียญที่มีอยู่ในตลาดลดน้อยลง
Sigel และ Bush กล่าวว่า "เป็นไปได้" ที่ Bitcoin จะถูกนำมาใช้ในการชำระบัญชีการค้าระหว่างประเทศมากถึง 10% ของการค้าขายทั้งหมดบนโลก และจะใช้ในการค้าขายภายในประเทศคิดเป็น 5% ของทั้งหมด ภายในปี 2050
สถานการณ์ดังกล่าวจะส่งผลให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ ถือครอง Bitcoin คิดเป็น 2.5% ของมูลค่าสินทรัพย์ทั้งหมด หากใช้สมมติฐานเกี่ยวกับการเติบโตทางการเงินทั่วโลก ข้อมูลความต้องการ Bitcoin ของนักลงทุน และมูลค่าการซื้อขายของ Bitcoin เราจะสามารถประยุกต์ใช้สมการความเร็วของเงิน (velocity of money equation) ในการคาดการณ์ราคา Bitcoin ที่อาจเป็นไปได้ที่ 2.9 ล้านดอลลาร์ต่อเหรียญ ซึ่งจะส่งผลให้ Bitcoin มีมูลค่าตลาดรวมอยู่ที่ 61 ล้านล้านดอลลาร์
มาตรวัดอัตราความเร็วของเงิน (velocity of money) คืออัตราที่ใช้บ่งบอกถึงความเร็วของเงินที่ถูกนำไปใช้ซื้อสินค้าและบริการในระบบเศรษฐกิจ
ตัวอย่าง สมมติว่ามีเงิน 100 บาท ถูกใช้งานหมุนเวียนอยู่ในระบบเศรษฐกิจเล็กๆแห่งหนึ่ง ถ้าเงิน 100 บาทนี้ถูกใช้ซื้อขายสินค้าและบริการวนไปวนมาหลายรอบในหนึ่งเดือน ก็แสดงว่าความเร็วของเงินในระบบเศรษฐกิจนี้สูง แต่ถ้าเงิน 100 บาทนี้ถูกเก็บไว้ในกระเป๋าโดยไม่ได้ถูกนำออกมาใช้จ่าย ความเร็วของเงินในระบบเศรษฐกิจนี้ก็จะต่ำ
การที่บริษัทการลงทุนระดับโลกอย่าง VanEck มองว่า Bitcoin นั้นมีโอกาสสูงในการเป็นสินทรัพย์หลักของระบบการเงินโลกในอนาคตแสดงให้เห็นถึงศักยภาพของ Bitcoin ที่มีระบบบัญชีที่ไม่มีเทคโนโลยีไหนสามารถทำได้ โดยทางนักวิเคราะห์ได้คาดการณ์ว่าราคาอาจพุ่งสูงถึง 2.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ภายในปี 2050 ซึ่งจะเกิดขึ้นหลังจากที่ Bitcoin ถูกนำมาใช้ในการชำระบัญชีการค้าระหว่างประเทศและการค้าภายในประเทศมากขึ้น รวมถึงการถือครอง Bitcoin ที่เพิ่มมากขึ้นของธนาคารกลาง และนักลงทุนรายย่อย
ที่มา: DailyHodl
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: การลงทุนมีความเสี่ยงสูง ดังนั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดก่อนการลงทุนทุกครั้ง
ข้อมูลในบทความนี้มีจุดประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้น Cryptosiam ไม่รับประกันความสมบูรณ์ ความถูกต้อง หรือความน่าเชื่อถือของข้อมูลดังกล่าว และไม่มีสิ่งใดในบทความนี้ที่ควรใช้เป็นคำแนะนำหรือชักชวน ให้ซื้อหรือขายคริปโต รวมทั้งการประเมินใดๆ ไม่มีข้อความใดในบทความที่ถือเป็นคำแนะนำทางกฎหมาย วิชาชีพ การลงทุน และ/หรือทางการเงิน และ/หรือคำนึงถึงความต้องการเฉพาะ และ/หรือข้อกำหนดของแต่ละบุคคล
Cryptosiam และบริษัทในเครือ ขอปฏิเสธความรับผิด หรือความรับผิดชอบทั้งหมดเกี่ยวกับเนื้อหาของบทความ และการดำเนินการใดๆ กับข้อมูลในบทความนั้น เป็นความเสี่ยงของผู้อ่าน และถือเป็นความเสี่ยงแต่เพียงผู้เดียว