🇺🇸 United States

รู้ก่อนได้เปรียบ! ชวนทำความรู้จัก '3 ดัชนีสำคัญ' สำหรับนักลงทุน

CryptoSiam ชวนส่อง '3 Indicator สำคัญ'

นักลงทุนห้ามพลาด! CryptoSiam ชวนส่อง '3 Indicator สำคัญ' ไว้ใช้สำหรับเฝ้าระวังสภาวะเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐ !!

ดูเหมือนว่าสภาวะเงินเศรษฐกิจถดถอยในสหรัฐที่นักวิเคราะห์หลายรายได้ทำนายเอาไว้จะยังไม่เกิดขึ้น หลังจากที่ตัวเลขอัตราการเติบโตของตลาดทุนและตลาดแรงงานในประเทศกลับดีขึ้นอย่างน่าประหลาดใจ

แต่ถึงแม้ในขณะนี้เศรษฐกิจในสหรัฐจะดูดีขึ้นมากกว่าในช่วงต้นปี แต่ก็ไม่สามารถปฏิเสธได้ว่าวิกฤติดังกล่าวก็ยังไม่หายไปไหน เพียงแค่รอเวลาให้เกิดขึ้นเท่านั้น

ทั้งนี้การเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นจึงเป็นเรื่องสำคัญสำหรับนักลงทุนทุกคน ทาง CryptoSiam จึงได้หยิบเอา 3 indicator alert หรือสามสัญญาณเตือนที่สำคัญสำหรับการเตรียมพร้อมรับมือวิกฤติเงินเฟ้อ จาก Cointelegraph มาแชร์ให้กับทุกท่าน

Inverted Yield Curve

Yield Curve แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ระหว่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลแบบระยะสั้นและระยะยาว ซึ่งตามปกตินั้น Yiel Cuve จะอยู่ในลักษณะลาดชันขึ้น ซึ่งแสดงถึงอัตราผลตอบแทนระยะยาวที่สูงกว่าอัตราผลตอบแทนระยะสั้น เนื่องจากนักลงทุนจะต้องรับความเสี่ยงตามความยาวนานของระยะเวลาที่ถือ

ดังนั้นการที่เส้นดังกล่าวมีลักษณะลาดชันลงไปจนถึงแนวดิ่ง ย่อมแสดงให้เห็นว่าในขณะนี้นักลงทุนส่วนมากมองเห็นว่าสภาพเศรษฐกิจในระยะสั้นนั้นมีความเสี่ยงมากกว่า จึงย้ายเงินจำนวนมากไปลงทุนในอนาคตมากกว่า

Leading economic indicators (LEI)

Leading economic indicators หรือ ดัชนีชี้นำภาวะเศรษฐกิจ ที่จัดทำขึ้นโดย The Conference Board (ในสหรัฐ)  ซึ่ง LEI เป็นดัชนีที่รวบรวมดัชนีหลายอย่าง เช่น ดัชนีจำนวนพื้นที่ที่ได้รับอนุญาตให้มีการก่อสร้างใหม่, ดัชนีราคาหุ้นตลาดหลักทรัพย์ฯ, ดัชนีมูลค่าการส่งออก และอื่นๆอีกมากมาย รวมเข้ามาเพื่อคำนวนหาแน้วโน้มการเติบโตและถดถอยของเศรษฐกิจในประเทศโดยรวม

<i>ภาพรวมดัชนี LEI ในเดือนมิถุนายน<br>รูปภาพ:&nbsp;The Conference Board </i>
ภาพรวมดัชนี LEI ในเดือนมิถุนายน
รูปภาพ: The Conference Board

ดังนั้น การที่เส้นดัชนี LEI เริ่มกลับตัวไปในเชิงลบหรือมีลักษณะดิ่งลง อาจสื่อได้ถึงสัญญาณของภาวะเศรษฐกิจที่กำลังถดถอยมากขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม การติดตามแค่ผลสรุป LEI อย่างเดียวอาจจะความล่าช้ามากกว่าการติดตามดัชนีอื่นๆที่ถูกนำมาคำนวน

Purchasing Managers’ Index (PMI)

PMI หรือ Purchasing Managers’ Index เป็นดัชนีที่แสดงให้เห็นถึงสภาวะทางเศรษฐกิจภาคการผลิตและบริการในสหรัฐ หรือพูดง่ายๆคือดัชนีที่วัดสุขภาพทางเศรษฐกิจในประเทศ โดยที่จะมีการแยกย่อยออกไปเป็นอีกหลายดัชนีตามข้อมูลที่ได้รับมาจากการทำแบบสำรวจ  อย่างเช่น ยอดสั่งซื้อใหม่, ปริมาณสินค้าคงคลัง, ภาคการผลิต, การบริการ และการจ้างงาน เป็นต้น

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง: ISM Manufacturing Index และ ISM Services Index (PMI)

โดยในเดือนกรกฏาคมที่ผ่านมา ค่า Manufacturing PMI จาก The S&P Global U.S ตกลงมาจาก 46.9 เมื่อเดือนมิถุนายน มาอยู่ที่ร้อยละ 46.0 แสดให้เห็นถึงการเติบโตทางเศรษฐกิจที่กำลังเริ่มช้าลง ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อความต้องการทางด้านการส่งออกในประเทศ

ติดตาม CryptoSiam
เพื่อให้ไม่พลาด ทุกข่าวสาร วงการคริปโต

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: การลงทุนมีความเสี่ยงสูง ดังนั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดก่อนการลงทุนทุกครั้ง

ข้อมูลในบทความนี้มีจุดประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้น Cryptosiam ไม่รับประกันความสมบูรณ์ ความถูกต้อง หรือความน่าเชื่อถือของข้อมูลดังกล่าว และไม่มีสิ่งใดในบทความนี้ที่ควรใช้เป็นคำแนะนำหรือชักชวน ให้ซื้อหรือขายคริปโต รวมทั้งการประเมินใดๆ ไม่มีข้อความใดในบทความที่ถือเป็นคำแนะนำทางกฎหมาย วิชาชีพ การลงทุน และ/หรือทางการเงิน และ/หรือคำนึงถึงความต้องการเฉพาะ และ/หรือข้อกำหนดของแต่ละบุคคล

Cryptosiam และบริษัทในเครือ ขอปฏิเสธความรับผิด หรือความรับผิดชอบทั้งหมดเกี่ยวกับเนื้อหาของบทความ และการดำเนินการใดๆ กับข้อมูลในบทความนั้น เป็นความเสี่ยงของผู้อ่าน และถือเป็นความเสี่ยงแต่เพียงผู้เดียว

แท็ก:
ข่าวต่อไป

บทความที่เกี่ยวข้อง

ภูฏานนำ 10,000 Bitcoin จากทุนสำรองชาติ พัฒนา “Mindfulness City” เมืองต้นแบบเศรษฐกิจยั่งยืน
นักวิเคราะห์ชี้ หาก Bitcoin ร่วงสู่ 70,000 ดอลลาร์จะเป็นการ “รีเซ็ตตลาด” มากกว่าสัญญาณขาลงรอบใหม่
ธนาคารสหรัฐฯ เตรียมออก Stablecoin ได้เอง ภายใต้แผนของ FDIC ตามกฎหมาย GENIUS Act
Ham's Rectangle Template   2025 12 17 T051314.364