ข่าวคริปโตเคอเรนซี่

2 ผู้ก่อตั้ง HashFlare ถูกรวบหลังฉ้อโกง Crypto มูลค่า 575 ล้านดอลลาร์

9

ผู้ก่อตั้ง HashFlare ถูกรวบหลังฉ้อโกง Crypto มูลค่า 575 ล้านดอลลาร์ แถมยังโดนตั้งข้อหาสมรู้ร่วมคิดในการฟอกเงินพ่วงไปอีกหนึ่งกระทง

ผู้ก่อตั้งสองคนของ HashFlare บริษัทผู้ให้บริการ Cloud Mining หรือการอนุญาตให้เช่าแรงขุด Bitcoin (BTC) แบบออนไลน์ ถูกจับกุมในประเทศทางยุโรปตอนเหนืออย่าง สาธารณรัฐเอสโตเนีย (Estonia) เนื่องจากมีมูลว่าทั้งสองมีส่วนเกี่ยวข้อง หรือสมรู้ร่วมคิดในการฉ้อโกง Crypto มูลค่า 575 ล้านดอลลาร์

2 ผู้ก่อตั้ง HashFlare ถูกรวบหลังฉ้อโกง Crypto มูลค่า 575 ล้านดอลลาร์

ในคำแถลงการณ์ของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ซึ่งอ้างอิงข้อมูลของทางศาล ได้ระบุถึงการดำเนินกิจกรรมการขุดที่ผ่านมาทั้งหมดของ HashFlare ซึ่งควบคุมดูแลโดยสองผู้ก่อตั้ง Sergei Potapenko และ Ivan Turõgin ว่าเป็นโครงการที่ ‘เหลี่ยมจัด’ และได้ฉ้อโกงเหยื่อไปแล้วหลักหลายแสนคน

โดยวิธีการเบื้องต้นที่สองผู้ก่อตั้งหัวใสมักจะใช้หลอกเหยื่อคือการโน้มน้าวให้เหยื่อทำ ‘สัญญาเช่าอุปกรณ์ขุดคริปโต’ กับ HashFlare (ซึ่งเป็นสัญญาเก๊) แถมยังมีการชักชวนเหยื่อรายอื่น ๆ ให้ลงทุนในธนาคารสกุลเงินคริปโตที่เรียกว่า Polybius Bank ซึ่งเป็นของปลอมแบบ 100% เต็ม

Nick Brown อัยการสหรัฐฯ ประจำเขตตะวันตกของรัฐวอชิงตัน ได้เรียกสิ่งที่ทาง HashFlare ทำว่า ‘เป็นเรื่องน่าประหลาดใจอย่างแท้จริง’

Nick Brown อัยการสหรัฐฯ ประจำเขตตะวันตกของรัฐวอชิงตัน
Nick Brown อัยการสหรัฐฯ ประจำเขตตะวันตกของรัฐวอชิงตัน

จำเลยเหล่านี้ใช้ประโยชน์จากทั้งเสน่ห์ของสกุลเงินดิจิทัล
และความลึกลับซับซ้อนที่ห้อมล้อมรอบการขุดสกุลเงินดิจิทัล เพื่อกระทำโครงการ Ponzi ขนาดใหญ่

โทษของ 2 ผู้ก่อตั้ง Hashflare แรงแค่ไหน?

ผู้ก่อตั้ง HashFlare ถูกตั้งข้อหาสมรู้ร่วมคิดในการฉ้อโกงทางโทรศัพท์ 16 กระทง และอีก 1 กระทงในการสมรู้ร่วมคิดในการฟอกเงินโดยใช้บริษัทย่อย แถมยังมีใบแจ้งหนี้ปลอม รวมไปถึงสัญญาปลอมอีกด้วย

นอกจากนี้ ทั้งคู่ยังถูกตั้งข้อกล่าวหาว่าสมรู้ร่วมคิดกันในการฟอก "รายได้ที่มิชอบอาญา" ผ่านทรัพย์สิน 75 รายการ รถยนต์หรูหรา 6 คัน กระเป๋าเงินดิจิทัล และการซื้อเครื่องขุดเงินดิจิทัลอีกหลายพันเครื่อง

และด้วยจำนวนของข้อกล่าวหาที่ยาวเป็นหางว่าวขนาดนี้ นั่นอาจทำให้ 2 ผู้ก่อตั้ง Hashflare อาจต้องโทษจำคุกสูงสุด 20 ปีเลยทีเดียวเชียว

HashFlare เคย ‘ยืนหนึ่ง’ มาก่อน

HashFlare บริษัทผู้ให้บริการ Cloud Mining ถูกก่อตั้งขึ้นในปี 2015 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ลูกค้าเช่าพลังการขุดของบริษัทเพื่อขุด Cryptocurrencies และได้รับส่วนแบ่งกำไรเทียบเท่ากัน

ความพิเศษก็คือ... ในเวลานั้น ทาง HashFlare ถูกชาวคริปโตส่วนใหญ่มองว่าเป็นหนึ่งในบริษัทเบอร์ต้น ๆ ของอุตสาหกรรมเลยก็ว่าได้

อย่างไรก็ดี ท้ายที่สุดธุรกิจของ HashFlare ก็ไม่ปังเหมือนที่ใคร ๆ คาด และนั่นทำให้อีก 3 ปีให้หลัง หรือ ค.ศ. 2018 ทางบริษัทจำต้องปิดเหมืองคริปโตส่วนใหญ่ลงแทบจะทั้งหมด

ทั้งนี้ การสื่อสารสาธารณะครั้งสุดท้ายจาก HashFlare นั้นเกิดขึ้นในปี 2019 เมื่อวันที่ 9 ส.ค. ซึ่งพวกเขาประกาศว่าพวกเขาระงับการขายสัญญา ETH เนื่องจาก "กำลังขุดปัจจุบันถูกขายหมดแล้ว"

หลังจากนั้นทางบริษัทก็สัญญาว่าจะกลับเปิดให้บริการอีกใน "อนาคตอันใกล้นี้" และแกล้งทำเป็นประกาศเพิ่มเติม แต่ท้ายที่สุดข้อมูลเบื้องลึกเรื่องพวกนี้ก็ไม่เคยมีการเปิดเผยต่อสาธารณชน และ HashFlare ก็เงียบหายเขากลีบเมฆไปเลย

ติดตาม CryptoSiam
เพื่อให้ไม่พลาด ทุกข่าวสาร วงการคริปโต

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: การลงทุนมีความเสี่ยงสูง ดังนั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดก่อนการลงทุนทุกครั้ง

ข้อมูลในบทความนี้มีจุดประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้น Cryptosiam ไม่รับประกันความสมบูรณ์ ความถูกต้อง หรือความน่าเชื่อถือของข้อมูลดังกล่าว และไม่มีสิ่งใดในบทความนี้ที่ควรใช้เป็นคำแนะนำหรือชักชวน ให้ซื้อหรือขายคริปโต รวมทั้งการประเมินใดๆ ไม่มีข้อความใดในบทความที่ถือเป็นคำแนะนำทางกฎหมาย วิชาชีพ การลงทุน และ/หรือทางการเงิน และ/หรือคำนึงถึงความต้องการเฉพาะ และ/หรือข้อกำหนดของแต่ละบุคคล

Cryptosiam และบริษัทในเครือ ขอปฏิเสธความรับผิด หรือความรับผิดชอบทั้งหมดเกี่ยวกับเนื้อหาของบทความ และการดำเนินการใดๆ กับข้อมูลในบทความนั้น เป็นความเสี่ยงของผู้อ่าน และถือเป็นความเสี่ยงแต่เพียงผู้เดียว

ข่าวต่อไป

บทความที่เกี่ยวข้อง

เปิดลิสต์ '5 เหรียญ' ที่ค่า RSI เข้าใกล้พื้นที่ 'Overbought' ประจำสัปดาห์
ล่าสุด 'CoinLedger' ประกาศความร่วมมือกับ 'MetaMask
รายงาน ก.ล.ต. สรุปภาพรวมบัญชีซื้อขายที่ Active ในช่วงกลางเดือน มีนาคม ปี 2567
ล่าสุด ศาลมอนเตเนโกร ปฏิเสธคำร้องอุทธรณ์ของ ‘Do Kwon’ หลังถูกตัดสินส่งตัว