กองทุน Grayscale Digital Large Cap ได้เพิ่ม SOL และ UNI ไว้ในพอร์ตการลงทุนแล้ว
กองทุน Grayscale Digital Large Cap ได้เพิ่ม Solona (SOL) และ Uniswap (UNI) ไว้ในพอร์ตกองทุน และปรับลดการถือครอง LTC และ BCH ในกองทุนดังกล่าว
กองทุน Grayscale Digital Large Cap ได้เพิ่ม Solona (SOL) และ Uniswap (UNI) ไว้ในพอร์ตกองทุน และปรับลดการถือครอง LTC และ BCH ในกองทุนดังกล่าว
Grayscale บริษัทบริหารจัดการกองทุนเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัลรายใหญ่ของโลก ได้เพิ่ม Solona (SOL) และ Uniswap (UNI) ไว้ในพอร์ตกองทุน Digital Large Cap Fund ของบริษัท และได้ปรับลดการถือครอง LTC และ BCH ในกองทุนดังกล่าว
Grayscale เพิ่ม SOL และ UNI ในพอร์ตกองทุน GDLC
กองทุน Grayscale Digital Large Cap เป็นกองทุนที่กระจายความเสี่ยงในสินทรัพย์ดิจิทัลขนาดใหญ่ในสัดส่วนประมาณ 70% ของตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลทั้งหมด โดยมีสินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการที่ 494.6 ล้านดอลลาห์
ล่าสุดบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านการลงทุนปรับเปลี่ยนพอร์ตการลงทุน โดยเพิ่ม Solona (SOL) เข้ามาในพอร์ตลงทุน โดยคิดเป็นสัดส่วน 3.24% และเพิ่ม Uniswap (UNI) คิดเป็น 1.06% ของสินทรัพย์ทั้งหมดในกองทุน ในขณะเดียวกันได้มีการลดการลงทุน Litecoin (LTC) และ Bitcoin Cash (BCH) ลงด้วย
ไม่น่าแปลกใจที่การถือครองในสินทรัพย์ส่วนใหญ่ยังคงอยู่ที่ บิตคอยน์ (BTC) ที่มีการลงทุนในสัดส่วน 62.19% และอีเธอร์เรียม (ETH) ที่ 26.08% นอกจากนี้พบว่า GDLC ยังมีการถือครอง Cardano (ADA) เพิ่มขึ้นจาก 4.26% เป็น 5.11% อีกด้วย ซึ่งเป็นสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีการถือครองมากที่สุดเป็นอันดับสามในกองทุน GDLC นี้
ไม่ได้มีการปรับพอร์ตในกองทุน Grayscale DeFi
อย่างไรก็ตาม Grayscale ไม่ได้มีการปรับเปลี่ยนพอร์ตการลงทุนรายไตรมาสในกองทุน Grayscale DeFi Fund แต่อย่างใด โดยมีการถือครองส่วนใหญ่ใน Uniswap ที่ 45.20% และ Aave 14.11% อย่างไรก็ตามกองทุน Grayscale DeFi Fund เป็นกองทุนน้องใหม่ที่มีขนาดเล็กเมื่อเทียบกับกองทุนอื่น ๆ ของ Grayscale โดยมีสินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการเพียง 10.4 ล้านดอลลาห์เท่านั้น
ผลิตภัณฑ์การลงทุนของ Grayscale กำลังได้รับความนิยมอย่างมากจากนักลงทุนระดับสถาบัน โดยเมื่อปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา มีรายงานว่า Morgan Stanley บริษัทจัดการความมั่นคั่งที่ใหญ่อันดับสามของโลก ได้เพิ่มการลงทุนในหุ้นของ Grayscale เป็นจำนวนกว่า 40 ล้านดอลลาห์เลยทีเดียว ซึ่งคาดว่าความนิยมที่เพิ่มขึ้นของการเงินแบบกระจายอำนาจ (DeFi) สามารถทำให้ตลาดคริปโตเคอร์เรนซี่มีแนวโน้มที่ดีต่อไปและเติบโตได้อีกมากในอนาคต