อายัดบัญชีคนปากีสถานมากกว่า 1 พันบัญชี โทษฐานซื้อขายคริปโต
เวลานี้ทางธนาคารกลางได้ทำอายัดบัญชีคนปากีสถานที่ทำการเทรดคริปโตเอาไว้แล้วส่วนหนึ่ง

เวลานี้ทางธนาคารกลางได้ทำอายัดบัญชีคนปากีสถานที่ทำการเทรดคริปโตเอาไว้แล้วส่วนหนึ่ง
มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่รัฐของประเทศปากีสถานได้ทำการอายัดบัญชีธนาคารของเทรดเดอร์ที่ได้ทำการลงทุนในตลาดคริปโตเคอร์เรนซี่เอาไว้หลายพันบัญชีด้วยกัน
อายัดบัญชีคนปากีสถานที่เทรดคริปโต
สอดคล้องกับสื่อในประเทศที่รายงานว่า บัญชีเหล่านี้มีการทำธุรกรรมหมุนเวียนไปมา คิดเป็นมูลค่ากว่า $300,000 จากบริษัทหลักทรัพย์ที่ได้มีการเปิดให้บริการซื้อขายคริปโต
คาดว่าบัญชีธนาคารที่ถูกอายัดไปนั้น มีอยู่ประมาณ 1,064 บัญชี ซึ่งทางเจ้าหน้าที่สืบสวนสอบสวนกลางหรือ FIA นั้น ทางเจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการตามข้อเรียกร้องของสำนักงานการก่ออาชญากรรมทางไซเบอร์หรือ CCRC โดยทางเจ้าหน้าที่ได้อ้างว่า บัญชีหลายบัญชีมีการทำธุรกรรมไปมา คิดเป็นเงินราว ๆ $288,000 ด้วยกัน

บัญชีที่ถูกอายัดส่วนใหญ่จะเป็นบัญชีประเภทบุคคลธรรมดา และเป็นบัญชีที่มีใช้สำหรับเปิดซื้อขายกับบริษัทคริปโตโดยตรง ไม่ว่าจะเป็นแพลตฟอร์มยักษ์ใหญ่อย่าง Binance, Coinbase และ Coinmama
ธนาคารกลางดำเนินนโยบายอย่างเข้มงวด
เช่นกันทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการอายัดบัตรเครดิตที่ใช้สำหรับซื้อขายเหรียญดิจิทัล ซึ่งรายงานได้ระบุว่า ตอนนี้ประชาชนชาวปากีสถานไม่อาจที่จะทำการซื้อขายเหรียญคริปโตเคอร์เรนซี่ได้ จากการที่ธนาคารกลางของประเทศปากีสถานหรือ SBP ได้มีการดำเนินนโยบายของธนาคารอย่างเข้มงวด
แม้ว่าประเทศปากีสถานจะมีการแบนไม่ให้ซื้อขายเหรียญคริปโต แต่ดูเหมือนว่าแนวโน้มจะสวนกระแสเมื่อประชาชนคนส่วนใหญ่ยังคงมีแนวโน้มที่จะซื้อคริปโตมากขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อมีรายงานจากทางกระทรวงอุตสาหกรรมและพาณิชย์ว่า ตอนนี้เงินสะพัดในคริปโตมากถึง $2 หมื่นล้านด้วยกัน
เรื่องนี้ทางด้าน Nasir Hayat Magoon ประธานาธิบดีของประเทศปากีสถานเริ่มมีแนวคิดที่จะดำเนินการร่างนโยบายในการอำนวยความสะดวกในการทำธุรกรรมด้วยเหรียญคริปโตได้ง่ายมากขึ้น จากการที่ประเทศอินเดีย ซึ่งเป็นประเทศคู่แข่งสำคัญเริ่มมีการให้ความสำคัญกับคริปโตมากขึ้น