การปฏิรูปของรัฐบาลสหรัฐฯ จะส่งผลต่อ Crypto สายเขียว
ในขณะที่เหล่าวุฒิสมาชิกกำลังออกมาเรียกร้องให้ยุติการห้ามใช้กัญชาของรัฐบาลกลาง การกระทำดังกล่าวจะส่งผลโดยตรงต่อความสัมพันธ์ และการเชื่อมต่อระหว่าง คริปโต และกัญชาที่เกิดขึ้นในจุดบอดธนาคารของอุตสาหกรรมวัชพืชอย่างไร? วันนี้เรามาหาคำตอบกัน
ในขณะที่เหล่าวุฒิสมาชิกกำลังออกมาเรียกร้องให้ยุติการห้ามใช้กัญชาของรัฐบาลกลาง การกระทำดังกล่าวจะส่งผลโดยตรงต่อความสัมพันธ์ และการเชื่อมต่อระหว่าง คริปโต และกัญชาที่เกิดขึ้นในจุดบอดธนาคารของอุตสาหกรรมวัชพืชอย่างไร? วันนี้เรามาหาคำตอบกัน
คำปฏิญาณล่าสุดของผู้นำวุฒิสภาสหรัฐอเมริกาอย่าง Chuck Schumer ที่จะยุติการห้ามกัญชาของรัฐบาลกลางอาจส่งผลกระทบต่อ Bitcoin (BTC) และอุตสาหกรรม Cryptocurrency ในวงกว้าง
ปัญหาที่ฝังรากลึกในระบบ
Schumer รวมไปถึงสมาชิกวุฒิสภาพรรคเดโมแครต Ron Wyden และ Cory Booker ได้ออกแถลงการณ์ร่วมเมื่อวันที่ 1กุมภาพันธ์ โดยประกาศความตั้งใจที่จะปฏิรูปกฎหมายกัญชาของรัฐบาลกลางอย่างครอบคลุม ในแถลงการณ์ได้กล่าวถึงผลกระทบที่ไม่สมส่วนของสงครามยาเสพติดต่อคนผิวสี โดยระบุไว้ว่า
“สงครามยาเสพติดเป็นสงครามกับผู้คนโดยเฉพาะคนผิวสี การยุติข้อห้ามกัญชาของรัฐบาลกลางเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อแก้ไขความผิดพลาดของสงครามที่ล้มเหลวนี้ และยุติความเสียหายหลายทศวรรษที่เกิดขึ้นกับชุมชนที่มีสีทั่วประเทศ”
แม้กระทั่งในรัฐฯที่พืชมหัศจรรย์อย่างกัญชานั้นถูกต้องกฎหมาย แต่ทางเจ้าของร้านขายยาเหล่านี้ก็ยังถูกบังคับให้ดำเนินธุรกรรมทางการเงินภายนอกธนาคารแบบดั้งเดิม นั้นแปลว่าข้อห้ามของรัฐบาลกลางได้หมายความว่าธนาคารส่วนใหญ่ไม่เต็มใจที่จะเสี่ยงในการทำธุรกิจกับร้านกัญชา และเป็นการบังคับให้เจ้าของกิจการต้องดำเนินธุรกิจด้วยเงินสดอย่างเดียวเท่านั้น
แล้ว Crypto กับ Cannabis เกี่ยวข้องกันอย่างไร?
ซึ่งทั้งสกุลเงินดิจิทัล และกัญชา นั้นมีความสัมพันธ์กันลึกซึ้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านของการต่อสู้เพื่อให้ถูกต้องตามกฎหมายในสหรัฐอเมริกา โดยทั้งสองเริ่มต้นมาถึงในทศวรรษเดียวกัน ตามธรรมเนียมแล้วทั้งสองต้องเผชิญกับปัญหาเดียวกันมากมายกว่าจะได้มาซึ่งการได้รับการยอมรับทางสังคม ไม่ว่าจะเป็นจากฝ่ายนิติบัญญัติ และหน่วยงานกำกับดูแล หรือแม้แต่ประชาชนทั่วไป
ความเชื่อมโยงข้างต้นทำให้ใครหลาย ๆ คนไม่แปลกใจเลยแม้แต่น้อยที่โครงการด้าน Cryptocurrency มากมายต่างก้าวเข้ามาเพื่อเติมเต็มความว่างเปล่าที่ธนาคารดังเดิมทิ้งไว้ในอุตสาหกรรมกัญชาตามกฎหมาย เช่นเดียวกับการให้กำเนิดโทเค็นคริปโตเคอเรนซีที่ได้รับแรงบันดาลใจจากกัญชาจำนวนมาก และการได้เห็นเทคโนโลยีบล็อกเชนที่ใช้ในการสั่นคลอนห่วงโซ่อุปทานตั้งแต่ต้นจนขายการเกิดขึ้นของคริปโตในอุตสาหกรรมกัญชายังทำให้เจ้าของร้านขายยามีทางเลือกอื่นแทนการชำระเงินสด รวมไปถึงสามารถสร้าง และรักษาความมั่งคั่ง
แต่ถ้ากัญชาถูกกฎหมายในระดับรัฐบาลกลางจริง ๆ จะเกิดอะไรขึ้นกับความสัมพันธ์ที่กำลังขยายตัวระหว่างพืชแสนหฤหรร และคริปโต?
อุตสาหกรรมกัญชาที่ถูกกฎหมายคาดว่าจะมีมูลค่าประมาณ 2 หมื่นล้านดอลลาร์ทั่วโลกในปี 2020แม้จะอยู่ท่ามกลางการปิดกั้นของ COVID-19สำหรับบริบทมูลค่าของกัญชาที่ขายในตลาดมืดนั้นคาดว่าจะมากกว่า 10เท่า
Michael Wagner ซีอีโอของ Multichain Ventures ซึ่งให้บริการโซลูชั่นการชำระเงินแบบบล็อคเชนสำหรับอุตสาหกรรมกัญชากล่าวกับสื่อมวลชนว่าการยอมรับจากธนาคารปกติอาจลบล้างความจำเป็นที่เจ้าของธุรกิจจะต้องหันมาใช้สกุลเงินดิจิทัล
“สำหรับประโยชน์ของ Cryptocurrencies หากศูนย์การเงินแบบดั้งเดิมเปิดกว้างสำหรับธุรกิจเหล่านี้ฉันจะยอมรับว่ามันช่วยลดความน่าดึงดูดของโซลูชันที่ก่อตั้งบนบล็อคเชน”
อย่างไรก็ตามผลกระทบของเหตุการณ์คงไม่ได้ส่งผลอะไรกับอุตสาหกรรมคริปโตมากนัก ทั้งนี้การขาดความชัดเจนทางกฎหมายเกี่ยวกับ Cryptoเองก็ยังเป็นอุปสรรคสำคัญที่ทำให้ผู้ใช้กัญชาเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของสกุลเงินเหล่านี้ได้ยาก
“จากประสบการณ์ของฉันในการสนทนากับผู้ให้บริการกัญชานับไม่ถ้วน การที่สกุลเงินดิจิทัลไม่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางแม้ว่าจะมีความขัดแย้งในบริการทางการเงินในปัจจุบันก็ตามมาจากการขาดความชัดเจนเกี่ยวกับความถูกต้องตามกฎหมายของ Crypto ตลอดจนความเข้าใจในเทคโนโลยีทำให้เกิดอุปสรรคอย่างมากในการเข้าสู่วงการนี้”
ข่าวดีก็คือ แม้จะไม่ต้องคำนึงถึงสถานะทางกฎหมายของกัญชา Wagner ก็ยังมองว่าว่าการใช้ Cryptocurrency มาพร้อมกับผลประโยชน์ของมันเองนอกเหนือจากการเป็นเพียงวิธีการจัดเก็บความมั่งคั่ง
"ในขณะที่การธนาคารแบบดั้งเดิมกำลังจะก้าวมาเป็นคู่แข่ง นวัตกรรมที่เป็นสกุลเงินดิจิทัลก็ยังคงเหนือกว่าในแทบ ทุกวิถีทาง ด้วยการทำธุรกรรมที่รวดเร็ว และถูกกว่า โปร่งใสกว่า"
Wagner กล่าวว่าเขาสนับสนุนการเรียกร้องให้มีการทำให้ถูกต้องตามกฎหมายของกัญชา และเชื่อว่าสกุลเงินดิจิทัลจะสร้างเส้นทางให้ตัวเองไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น