ขึ้นจริงหรือหลอก? นักลงทุนคิดว่าการพุ่งขึ้นของราคา Ethereum กว่า 40% นั้นจะเป็น Fake Pump 

Ethereum สกุลเงินดิจิทัลอันดับที่ 2 ในตลาดนั้นพุ่งขึ้นอย่างรุนแรงในวันที่ 17 กรกฎาคม 2565 ที่ผ่านมาหลังจาการระบุวันที่ชัดเจนในการอัปเกรดครั้งสำคัญของเครือข่ายที่ใช้ชื่อว่า The Merge ซึ่งเป็นการเปลี่ยนระบบการทำงานจาก Proof-of-Work(PoW) ไปใช้ Proof-of-Stake(PoS) 

การพุ่งขึ้นของราคา Ethereum หลังจากซบเซามานาน

ราคาของ ETH ลดลง 1.8% มาอยู่ที่ 1,328 ดอลลาร์หลังจากพยายามทะลุขึ้นไปเหนือแนวต้านที่แข็งแกร่ง 2 ระดับนั้นก็คือ EMA 50 วัน (เส้นสีแดง) และ Descending Trendline(เส้นสีดำ) ซึ่งทำหน้าที่เป็นแนวต้านที่สำคัญและคอยกดราคาของ ETH ตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2565 

ก่อนหน้านี้ สกุลเงินดิจิทัลอันดับที่ 2 ในตลาดเพิ่มขึ้นกว่า 40% จาก 1,000 ดอลลาร์ในวันที่ 13 กรกฎาคม 2565 เป็นมากกว่า 1,400 ดอลลาร์ในวันที่ 16 กรกฎาคม 2565 เนื่องจากวันที่ชัดเจนในการเปลี่ยนระบบการทำงานจาก PoW ไปเป็น PoS ซึ่งกิจกรรม “The Merge" นั้นจะเกิดขึ้นในเดือนกันยายน 2565 นี้

นอกเหนือจากนั้น Golden Cross ที่เกิดขึ้นบนกราฟ 4H ยังช่วยสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุน ซึ่งทำให้นักลงทุนมากมายเริ่มกลับมาเข้าซื้อ ETH กันมากขึ้น

https://twitter.com/AlbertcryptoN/status/1547845381412728834

Fake Pump? 

การเพิ่มขึ้นกว่า 40% ของราคา ETH ตั้งแต่วันที่ 13 กรกฎาคม 2565 ที่ผ่านมา นั้นมีการทะลุผ่านเหนือแนวต้านในรูปแบบ “Ascending Triangle" และในบางกรณี รูปแบบ Ascending Triangle สามารถปรากฏขึ้นที่จุดสิ้นสุดของแนวโน้มขาลง ซึ่งจะนำไปสู่การกลับตัวสู่แนวโน้มขาขึ้นในที่สุด

Scott Melker นักวิเคราะห์ตลาดมองว่า ETH นั้นกำลังจะเข้าสู่ตลาดกระทิงจากการพุ่งทะลุ Ascending Triangle ซึ่งเป็นสัญญาณว่าราคานั้นจะพุ่งขึ้นอีก 

Melker กล่าวว่า "การทะลุเหนือ 1,284 ดอลลาร์นั้นจะส่งให้ราคาพุ่งขึ้นไปได้อย่างมหาศาล เนื่องจากมันแทบจะไม่มีแนวต้านใดๆ จนถึงระดับ 1,700 ดอลลาร์"

อย่างไรก็ตาม ราคาของ ETH นั้นไม่สามารถปิดเหนือเส้นแนวโน้มบนของ Ascending Triangle ได้ ทำให้นี่อาจจะเป็นการชี้ให้เห็นว่า “โมเมนตัมขาขึ้นนั้นเริ่มอ่อนตัวลงและอาจจะเป็นการ Fakeout 

ดังนั้น ราคาของ ETH จึงเสี่ยงต่อการกลับตัวไปยังเส้นแนวโน้มบนของ Ascending Triangle ใกล้ระดับ $1,284 ซึ่งเป็นแนวรับที่สำคัญ อย่างไรก็ตาม หากราคาของ ETH ยังสามารถดีดตัวและรักษาระดับขาขึ้นได้ เราก็อาจจะได้เห็น ETH พุ่งขึ้นไปที่ 1,700 ดอลลาร์ ในที่สุด

ในทางกลับกัน การทะลุต่ำกว่า 1,284 ดอลลาร์อาจเสี่ยงต่อการร่วงหล่นอย่างรุนแรงอีกครั้ง และเราอาจจะได้เห็น ETH ร่วงลงไปถึง $750 ซึ่งหมายถึงการลดลงกว่า 45% จากระดับราคาปัจจุบัน