ค่าธรรมเนียม Ethereum วิ่งในกรอบสูงสุดหลังความนิยมใน DeFi พุ่ง
ค่าธรรมเนียม Ethereum ยังคงวิ่งในระดับบนสุด ชี้ผู้ใช้งานต้องจ่ายมากหากต้องการความรวดเร็ว
ค่าธรรมเนียม Ethereum ยังคงวิ่งในระดับบนสุด ชี้ผู้ใช้งานต้องจ่ายมากหากต้องการความรวดเร็ว
ค่าธรรมเนียม Ethereum
Gas Fees หรือสิ่งที่เรียกว่าค่าธรรมเนียมที่ต้องจ่ายให้แก่ Node ซึ่งมีหน้าที่ประมวลผล Block ข้อมูลนั้นมีระดับเปลี่ยนแปลงไปตามความหนาแน่นของกิจกรรมที่เกิดขึ้นบนเครือข่าย โดยเฉพาะตลอดช่วงต้นปีที่ผ่านมาซึ่งบนเครือข่าย Ethereum นั้นได้มีความหนาแน่นของกิจกรรมบนเครือข่ายเพิ่มขึ้นอย่างมาก แตะระดับสูงสุดอยู่หลายครั้งในระยะเวลาไม่กี่เดือน โดยค่าธรรมเนียมโดยเฉลี่ยนั้นอยู่ที่ 200 หน่วยสำหรับธุรกรรมที่ต้องการได้รับการประมวลผลก่อน และที่ระดับ 196 หน่วยสำหรับธุรกรรมแบบปกติ
กระแสคลั่ง DeFi
สำหรับการเติบโตของเครือข่าย Ethereum ในช่วงนี้ ส่วนใหญ่แล้วมีที่มาจากโครงการ Decentralized Finance (DeFi) หรือโครงการทางการเงินบนเครือข่าย Blockchain ต่าง ๆ ที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งโครงการเหล่านี้ต่างได้นำเสนอให้แก่ผู้ลงทุนเป็นการตั้งเป้าผลตอบแทนที่สูงกว่าระบบตลาดปกติอย่างมาก ส่งผลให้มูลค่ารวมบนแพลตฟอร์ม DeFi นั้นเพิ่มจากระดับที่ 600 ล้านดอลลาร์ไปอยู่ที่ราว 5 พันล้านดอลลาร์เรียบร้อยแล้วในช่วงไม่กี่วันทีผ่านมา
สิ่งที่น่าสนใจที่สุดในวงการ DeFi ช่วงนี้คือการที่โครงการสุดฮอตอย่าง YAM ซึ่งได้เปิดตัวไปในช่วงวันอังคารที่ผ่านมามันนั้นมีเงินลงทุนสะสมแล้วกว่า 343 ล้านดอลลาร์บนแพลตฟอร์ม ซึ่งเทียบกับโครงการอื่นๆอย่างเช่น WETH นั้นมีเงินไหลเวียนอยู่เพียง 11 ล้านดอลลาร์ โครงการ LINK ที่ 76 ล้านดอลลาร์ และโครงการ YFI ที่ 62 ล้านดอลลาร์ เป็นคต้น
ปัญหาใหญ่ของเครือข่าย
ในขณะที่วงการ DeFi นั้นได้เข้ามาเพิ่มกิจกรรมให้กับเครือข่าย Ethereum มากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ความจริงแล้วเครือข่ายดังกล่าวนั้นมีผู้ใช้งานรายใหญ่อย่างธุรกรรมที่เกิดขึ้นจาก Stablecoin อย่าง Tether อยู่ก่อนแล้ว ซึ่งเมื่อรวมกิจกรรมที่เกิดขึ้นทั้งหมดบนเครือข่ายแล้วคิดเป็นความหนาแน่นบนเครือข่ายที่ระดับ 96%ซึ่งเป็นเช่นเดียวกับที่เกิดขึ้นในช่วงจุดสูงสุดบนเครือข่ายในปี 2018 นั่นเอง
ผลลัพธ์จากความแออัดบนเครือข่าย
อย่างที่กล่าวไปในช่วงต้นของข่าว กิจกรรมที่เพิ่มขึ้นบนเครือข่ายนั้นส่งผลโดยตรงกับอัตราค่าธรรมเนียมที่ผู้ใช้เครือข่ายต้องจ่ายเพื่อให้ธุรกรรมของตนได้รับการประมวลผล เนื่องจากเมื่อปริมารธุรกรรมกรรมที่รอการประมวลผลนั้นมีจำนวนมาก จึงเกิดการแบ่งระดับการประมวลผลก่อนหลังให้แก่ธุรกรรมแต่ละรายตามระดับค่าธรรมเนียมที่จ่ายให้แก่ระบบ ซึ่งหากจะเปรียบเทียบให้เห็นภาพอย่างง่าย คือในช่วงวันที่ 11 สิงหาคมนั้นค่าธรรมเนียมยังอยู่ที่ระดับ 130 หน่วย แต่กลับพุ่งขึ้นมาอยู่ที่ 200 หน่วยในปัจจุบัน