Blockchain

Estée Lauder หัวใส! ผนวกอุตสาหกรรมความงาม เข้ากับ Blockchain

Est E Lauder Aveda.png.jpg

Estée Lauder ผู้ผลิตสินค้าด้านความงามอันเลื่องชื่อ ได้หันมาใช้เทคโนโลยี Blockchain เพื่อช่วยเพิ่มความสามารถในการบริหารจัดการและติดตามห่วงโซ่อุปทานได้อย่างใกล้ชิด

Estée Lauder Companies (ELC) บริษัทสัญชาติอเมริกันยักษ์ใหญ่ผู้ผลิต และดูแลการตลาดให้กับผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางค์, ผลิตภัณฑ์ดูแลผิว, น้ำหอม และผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมได้ติดตั้งแพลตฟอร์ม Blockchain ในการตามหาแหล่งที่มาของส่วนผสมที่มีอยู่ในผลิตภัณฑ์ดูแลผิวอย่าง “Madagascan Vanilla”

วานิลลาเป็นเครื่องเทศชนิดหนึ่งที่ถือกำเนิดขึ้นจากต้นกล้วยไม้ และมักถูกนำมาใช้เป็นน้ำมันหอมระเหยในผลิตภัณฑ์ความงาม โดย Estée Lauder ใช้วานิลลาเป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์ของ Aveda แบรนด์จัดจำหน่ายเครื่องสำอางค์จากธรรมชาติที่โด่งดังในหมู่บริษัทผลิตภัณฑ์ความงามขององค์กร

ความเข้าใจในห่วงโซ่อุปทานที่เป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น

การทดลองนำระบบ Blockchain มาใช้นั้น มีสาเหตุมาจากการที่ทางบริษัท ELC พยายามปรับปรุงวิธีการตรวจสอบความถูกต้อง และคุณภาพของวานิลลาที่ใช้เป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ทางองค์กรเกิดความเข้าใจถึงสิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นภายในห่วงโซ่อุปทานของพวกเขาได้ดียิ่งขึ้น

โดยทาง Estée Lauder Companies ได้ระบุไว้ในคำแถลงการณ์ ว่า

“Tracking Technology ช่วยให้ทางองค์กรสามารถตรวจสอบการปฏิบัติงานตามมาตรฐานจรรยาบรรณคู่ค้า (Supplier Code of Conduct), สร้างการบันทึกข้อมูลของห่วงโซ่ที่ไม่สามารถแก้ไขได้”

นอกจานี้ทางผู้ผลิตรายดังกล่าวยังมองว่าโครงการนำร่อง Blockchain ในครั้งนี้จะเป็นตัวแปรสำคัญที่เข้ามาเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมความงามไปโดยสิ้นเชิง มากไปกว่านั้นโครงการดังกล่าวยังเป็นก้าวสำคัญในการบรรลุวัตถุประสงค์ด้านการพัฒนาแผนปฏิบัติการทางสังคมที่แข็งแกร่ง และความหลากหลายทางชีวภาพสำหรับส่วนผสมที่มีความละเอียดอ่อนต่อห่วงโซ่อุปทานภายในปี 2025 อีกด้วย

ความซับซ้นของวานิลลาในห่วงโซ่อุปทาน

ELC ยอมรับว่าการสรรหาวานิลลานั้นไม่ใช่เพียงแค่เดินเข้าไปในสวนแล้วจะได้วัตถุดิบเหล่านั้นมา แต่มันยังต้องเผชิญกับปัญหาอื่น ๆ ที่ตามมา เช่น เกษตรประณีต (Intensive Farming) หรือการเกษตรที่ต้องการผลผลิตต่อหน่วยพื้นที่ในอัตราสูงด้วยการใช้วิชาการทางวิทยาศาสตร์เข้าช่วย ซึ่งหมายถึงความต้องการในการปลูกพืชในพื้นที่เดิม ๆ ซ้ำได้หลายต่อหลายครั้ง นอกจากนี้ยังมีประเด็นด้านความท้าทายทางสภาพอากาศ และความผันผวนของราคา

ดังนั้น ทางบริษัทจึงมองว่าระบบตรวจสอบย้อนหลังแบบดิจิทัลที่อยู่ในรูปแบบแพลตฟอร์ม Blockchain เปรียบเสมือนแนวทางการแก้ไขปัญหาที่เป็นมิตร เพื่อให้ผู้ปฏิบัติงานได้ขยายมุมมองที่จำเป็นให้ชัดเจนขึ้นเพื่อช่วยอำนวยความสะดวกให้กับการบริหารจัดการ

โครงการนี้ได้เริ่มดำเนินการไปแล้ว โดยมีเกษตรกรรายย่อยชาวมาดากัสการ์กว่า 450 รายที่เข้าร่วมในโครงการดังกล่าว โครงการ Blockchain นั้นต้องการแค่เพียงใช้บัตรประจำตัวประชาชน และมอบแอปพลิเคชันบนมือถือให้กับเหล่าเกษตรกรเพื่อทำการติดตามผลผลิตเท่านั้น

เทคโนโลยีล้ำสมัยชิ้นนี้สามารถช่วยให้องค์กรตรวจสอบคุณภาพ และแหล่งที่มาของวานิลลาจากเกษตรกรไปจนถึงโรงงานผลิตในเมืองกราซ (Grasse) ประเทศฝรั่งเศส และโรงงานผลิตของแบรนด์ Aveda ในรัฐมินนิโซตา (Minnesota) ประเทศสหรัฐอเมริกา

ติดตาม CryptoSiam
เพื่อให้ไม่พลาด ทุกข่าวสาร วงการคริปโต
ข่าวต่อไป

บทความที่เกี่ยวข้อง

รายงาน ก.ล.ต. สรุปภาพรวมบัญชีซื้อขายที่ Active ในช่วงต้นเดือน 'เมษายน' ปี 2567
ตลาด Altcoin มีโอกาสเสี่ยงถูกปรับฐาน ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
ซีอีโอ Crypto.com ชี้! Bitcoin กำลังอยู่ในจุดเริ่มต้น ของการเข้าสู่ช่วงขาขึ้น
 วาฬหน้าใหม่ ครอบครอง Bitcoin รวมกันไปแล้วถึง 1.8 ล้าน BTC