General

โปรเจคเหรียญ CBDC แรก ๆ ของโลกเกิดขึ้นมาแล้วตั้งแต่ปี 2017

Uruguay.jpg

ช่วงที่ยังไม่มีประเทศไหนเลยสนใจสร้าง CBDC แต่มีประเทศเล็ก ๆ อย่างอุรุกวัยเดินทางทดลองสร้าง e-Peso เงินดิจิทัลของตัวเอง

ในช่วงปี 2017 ธนาคารแห่งชาติของอุรุกวัยมีการประกาศเซอร์ไพรส์โลกว่าตัดสินใจทดลองความเป็นไปได้ในการสร้างสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลาง (CBDC)

สภาพเศรษฐกิจของอุรุกวัย

ในช่วงปี 2017 โครงการสร้างสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลางยังไม่ได้รับความสนใจมากเท่าไหร่ แม้แต่สกุลเงินดิจิทัลของประเทศเวเนซุเอล่า “Petro” ก็ยังไม่ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการในช่วงนั้น ซึ่งก็มีประเทศอุรุกวัยที่พิจารณาดำเนินการดังกล่าว

สภาพเศรษฐกิจของอุรุกวัยหากเทียบกับประเทศอื่น ก็ถือว่าดีกว่า อัตราการเติบโต GDP เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สามารถรักษาระดับอัตราเงินเฟ้อได้อย่างเสถียร

Screen Shot 2563 08 31 at 07.15.28 1024x488.png
GDP ของอุรุกวัย ภาพจาก: tradingeconomics.com

ในขณะที่ประเทศอื่น ๆ ในทวีปเดียวกัน เช่น อาร์เจนตินา ไม่สามารถทำเช่นนี้ได้และมีอัตราเงินเฟ้อรุนแรงมากกว่า 50% ต่อปี แต่อย่างไรก็ตามเมื่อเกิดโรคระบาดโควิด-19 ขึ้นค่าเงินเปโซของอุรุกวัยก็ลดลงกว่า 20%

กำเนิด e-Peso

ในปี 2017 ธนาคารแห่งชาติอุรุกวัยเริ่มสำหรับการสร้างโทเค็นที่จะทำหน้าที่เป็นสกุลเงินดิจิทัลของประเทศ รัฐบาลได้ตระหนักถึงความสำคัญของสังคมไร้เงินสดที่มีแนวโน้มเป็นที่นิยมมากขึ้น จึงได้เกิดโปรเจคเหรียญ CBDC ของประเทศขึ้นมา โดยประกาศโปรเจคภายใต้ชื่อ ‘e-Peso’ และสามารถนำเหรียญไปใช้ได้ทั่วประเทศอย่างถูกกฎหมายตามร้านค้าต่าง ๆ ที่เข้าร่วม

e-Peso ทำงานอย่างไร?

สิ่งที่น่าพิจารณาคือโทเค็น e-Peso จะไม่ได้มีการใช้งาน Blockchain แต่โทเค็นจะอยู่บนโทรศัพท์มือถือของผู้ใช้โดยตรงทำให้สามารถทำธุรกรรมได้ในลักษณะเพียร์ทูเพียร์

เมื่อไม่ได้ใช้งาน Blockchain ชุมชน Cryptocurrency ก็ต่างวิพากษ์วิจารณ์ เพราะความโปร่งใสของ Blockchain ถือเป็นจุดเด่นของนวัตกรรมสกุลเงินดิจิทัล อย่างไรก็ตามแนวทางของธนาคารกลางก็มีข้อดีเพราะโทเค็นดังกล่าวมันสามารถแลกเปลี่ยนระหว่างผู้ใช้งานได้แม้ว่าจะไม่มีเครือข่ายอินเตอร์เน็ตและฮับส่วนกลางก็ตาม

เหรียญ e-Peso มีคุณสมบัติเช่นเดียวกับธนบัตร โทเค็นทุกอันมีคุณสมบัติที่สามารถทดแทนกันได้ (fungible) มี serial number ลายเซ็นและการรองรับจากธนาคารกลาง

การใช้งานโทเค็นดังกล่าวจะสามารถใช้ได้ผ่านทางบัญชีธนาคารบนแอปพลิเคชั่นมือถือเท่านั้น ซึ่งการทำธุรกรรมอาจสามารถถูกตรวจสอบได้หากมีความจำเป็น ซึ่งก็ไม่ต่างอะไรกับโปรเจค CBDC ของประเทศจีนและในสหภาพยุโรปที่กำลังพิจารณาสร้าง CBDC เหมือนกัน

ส่วนผู้ใช้งานที่ไม่ได้มีมือถือแบบสมาร์ทโฟนรัฐบาลอุรุกวัยก็แก้ปัญหานี้โดยการให้สามารถใช้ Unstructured Supplementary Service Data (USSD) เพื่อลงทะเบียนและจัดการวอลเล็ทได้ โดยกดหมายเลข *228# บนมือถือ ไม่จำเป็นต้องดาวน์โหลดแอป

กระแสตอบรับ

หลังจากที่ได้ทดสอบโปรเจค CBDC ของประเทศในช่วงปี 2017 เป็นระยะเวลา 6 เดือน พลเมืองในประเทศก็มีการใช้งานโทเค็นจริง ๆ รวมถึงธนาคารพาณิชย์ด้วย และเครือข่ายการชำระเงินก็ไม่เคยมีข่าวว่าถูกแฮ็กแต่อย่างใด อย่างไรก็ตามแม้ว่ามันอาจจะขาดคุณสมบัติของความ Decentralization (และแน่นอนอยู่แล้วเพราะเป็นเหรียญดิจิทัลที่ออกโดยธนาคารกลาง) แต่ e-Peso ก็ถือเป็นโปรเจคเหรียญ CBDC ที่ประสบความสำเร็จก่อนที่ประเทศอื่น ๆ จะเริ่มคิดทำโปรเจค CBDC ของตัวเองขึ้นมา

ติดตาม CryptoSiam
เพื่อให้ไม่พลาด ทุกข่าวสาร วงการคริปโต
แท็ก:
ข่าวต่อไป

บทความที่เกี่ยวข้อง

ผู้ร่วมก่อตั้ง Axelar เผย! การมาถึงของ RLUSD Stablecoin จะช่วยผลักดันความต้องการ XRP อย่างมีนัยสำคัญ
ไม่พร้อมรับข่าวร้าย! นักเทรดคริปโตถูกล้างพอร์ตมูลค่ากว่า 1 พันล้านดอลลาร์ ใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา
ครั้งแรก! Bitcoin-Ethereum ETF จาก Hashdex และ Franklin Templeton ได้รับอนุมัติพร้อมกัน
ข้อมูลจาก Santiment เผยสัญญาญเชิงบวก หลังพบ 104 กระเป๋าวาฬถือครองกว่า 57% ของ Ethereum ทั้งหมด