เอลซัลวาดอร์ขยายข้อตกลงคริปโท เตรียมร่วมมือกับอาร์เจนตินา และประกาศเจรจาพันธมิตรกว่า 25 ประเทศ
เอลซัลวาดอร์ ประเทศผู้บุกเบิกการนำ Bitcoin มาใช้อย่างเป็นทางการ ได้ประกาศขยายความร่วมมือด้านสินทรัพย์ดิจิทัล โดยลงนามข้อตกลงร่วมกับอาร์เจนตินา และอยู่ระหว่างเจรจากับประเทศต่างๆ มากกว่า 25 ประเทศ

เอลซัลวาดอร์ ประเทศผู้บุกเบิกการนำ Bitcoin มาใช้อย่างเป็นทางการ ได้ประกาศขยายความร่วมมือด้านสินทรัพย์ดิจิทัล โดยลงนามข้อตกลงร่วมกับอาร์เจนตินา และอยู่ระหว่างเจรจากับประเทศต่างๆ มากกว่า 25 ประเทศ
เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม Juan Carlos Reyes ประธานคณะกรรมการสินทรัพย์ดิจิทัลแห่งชาติ (NCDA) ของเอลซัลวาดอร์ ได้ประกาศการลงนามข้อตกลงความร่วมมือและการฝึกอบรมร่วมกับ Roberto Silva ประธานคณะกรรมการหลักทรัพย์แห่งชาติของอาร์เจนตินา (CNV)
Reyes กล่าวกับ Cointelegraph ว่า อุตสาหกรรมบล็อกเชนของอาร์เจนตินาที่แข็งแกร่งและสร้างสรรค์ บวกกับความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีของเอลซัลวาดอร์ จะสร้างความร่วมมือที่มีประสิทธิภาพสูง โดย Reyes ชี้ว่า เอลซัลวาดอร์มีความก้าวหน้าด้านกฎระเบียบสินทรัพย์ดิจิทัลมาเป็นเวลา 3 ปี ซึ่งนับเป็นข้อได้เปรียบที่สำคัญ
"ประโยชน์ที่เห็นได้ทันทีคือการแบ่งปันข้อมูล โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเมื่อมีบริษัทอาร์เจนตินาที่จดทะเบียนในเอลซัลวาดอร์อยู่แล้ว" Reyes กล่าว
เอลซัลวาดอร์ตั้งเป้าที่จะปรับปรุงกรอบการกำกับดูแลของตัวเองและเพิ่มความพร้อมทางด้านสินทรัพย์ดิจิทัลผ่านความร่วมมือกับอาร์เจนตินา นอกจากนี้ Reyes ยังเปิดเผยว่า หน่วยงานกำกับดูแลของเอลซัลวาดอร์กำลังเจรจากับหลายประเทศเพื่อความร่วมมือด้านคริปโตในลักษณะเดียวกัน
"เรากำลังอยู่ในระหว่างการเจรจากับกว่า 25 ประเทศ และคาดว่าจะมีการลงนามข้อตกลงเพิ่มเติมในอนาคต เราเข้าใจดีว่าวิธีการของเราอาจจะแปลกใหม่สำหรับหลายประเทศ เนื่องจากเราไม่ใช่ธนาคารกลางหรือหน่วยงานในลักษณะดั้งเดิม ซึ่งนำไปสู่ความล่าช้าบางประการในการทำความเข้าใจว่าความร่วมมือระหว่างกันจะเป็นไปได้อย่างไร" Reyes กล่าว
เพื่อสนับสนุนความร่วมมือกับประเทศอื่น เอลซัลวาดอร์ได้จัดตั้งทีมผู้เชี่ยวชาญด้าน Bitcoin และคริปโตมากกว่า 20 คน Reyes เตือนว่า การชะลอการออกกฎระเบียบและไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำของ Financial Action Task Force (FATF) จะเพิ่มความเสี่ยงต่อการถูกควบคุมโดยผู้ไม่หวังดี
"ยิ่งคุณรอนานเท่าไหร่ การออกกฎระเบียบที่มีประสิทธิภาพก็จะยิ่งยากขึ้น และความเสี่ยงจากการฉ้อโกงและการฟอกเงินก็จะยิ่งเพิ่มขึ้นด้วย"
เขายังเผยว่า เอลซัลวาดอร์ใกล้จะบรรลุข้อตกลงเพิ่มเติมกับอีก 2 ประเทศ พร้อมเน้นย้ำความมุ่งมั่นของทีมงานในการสนับสนุนประเทศที่ต้องการความร่วมมือ
"ประสบการณ์ของเราแสดงให้เห็นว่าการแลกเปลี่ยนความรู้ข้ามพรมแดนเป็นสิ่งจำเป็นในการสร้างสภาพแวดล้อมการกำกับดูแลที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ และเราขอสนับสนุนให้หน่วยงานกำกับดูแลในประเทศอื่นให้ความสำคัญกับแนวทางนี้"
อ้างอิง : Cointelegraph
ภาพหน้าปกจาก : bitcoinist
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: การลงทุนมีความเสี่ยงสูง ดังนั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดก่อนการลงทุนทุกครั้ง
ข้อมูลในบทความนี้มีจุดประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้น Cryptosiam ไม่รับประกันความสมบูรณ์ ความถูกต้อง หรือความน่าเชื่อถือของข้อมูลดังกล่าว และไม่มีสิ่งใดในบทความนี้ที่ควรใช้เป็นคำแนะนำหรือชักชวน ให้ซื้อหรือขายคริปโต รวมทั้งการประเมินใดๆ ไม่มีข้อความใดในบทความที่ถือเป็นคำแนะนำทางกฎหมาย วิชาชีพ การลงทุน และ/หรือทางการเงิน และ/หรือคำนึงถึงความต้องการเฉพาะ และ/หรือข้อกำหนดของแต่ละบุคคล
Cryptosiam และบริษัทในเครือ ขอปฏิเสธความรับผิด หรือความรับผิดชอบทั้งหมดเกี่ยวกับเนื้อหาของบทความ และการดำเนินการใดๆ กับข้อมูลในบทความนั้น เป็นความเสี่ยงของผู้อ่าน และถือเป็นความเสี่ยงแต่เพียงผู้เดียว