ผู้เชี่ยวชาญเศรษฐศาสตร์เตือน คริปโตอาจส่งผลต่อเสถียรภาพทางการเงิน
ผู้เชี่ยวชาญเศรษฐศาสตร์เริ่มมองแล้วว่า คริปโตมีผลต่อเสถียรภาพทางการเงินโดยรวม
ผู้เชี่ยวชาญเศรษฐศาสตร์เริ่มมองแล้วว่า คริปโตมีผลต่อเสถียรภาพทางการเงินโดยรวม
Eswar Prasad อาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์ของมหาวิทยาลัย Cornell และอดีตผู้อำนวยการ IMF สาขาจีนได้ออกมาเตือนว่า เหรียญคริปโตเคอร์เรนซี่อาจส่งผลต่อการดำเนินนโยบายการคลังและทำให้ระบบการเงินภายในประเทศขาดเสถียรภาพ
ผู้เชี่ยวชาญเศรษฐศาสตร์ชี้ตอนนี้ยังไม่มีการคุ้มครองนักลงทุนคริปโต
โดยเขาได้พูดถึงความเสี่ยงตรงนี้ว่า อุตสาหกรรมคริปโตยังไม่มีกฎหมายคริปโตและนักลงทุนคริปโตยังไม่ได้รับการคุ้มครองมากเท่าที่ควร ซึ่งเรื่องนี้เขาได้ให้สัมภาษณ์กับทางสำนักข่าว CNBC
ในมุมมองคริปโตนั้นเขากล่าวว่า ตอนนี้เหรียญคริปโตเคอร์เรนซี่อาจส่งผลเสถียรภาพทั้งการคลังและระบบการเงิน โดยเฉพาะการที่ระบบคริปโตไม่มีกฎหมายเข้ามาคุ้มครองนักลงทุน
เขาได้ตีพิมพ์เรื่องนี้เกี่ยวกับประเด็นที่ทาง IMF ได้ตั้งข้อสังเกตว่า กระแสประชาชนที่มีต่อเหรียญคริปโตนั้นถือเป็นภัยคุกคามต่อเสถียรภาพทางการเงิน นอกจากนั้นแล้วทางด้าน Jon Cunliffe รองผู้ว่าการธนาคารกลางอังกฤษก็ได้ออกมากล่าวถึงเรื่องนี้ว่า การร่างกฎหมายคริปโตเป็นสิ่งสำคัญจากการที่อุตสาหกรรมคริปโตเติบโตมากขึ้นอย่างรวดเร็ว และมองได้ว่าเสถียรภาพทางการเงินในประเทศมีความเสี่ยงที่จะเจอกับความสั่นคลอนในอนาคตต่อให้จะจำกัดความเสี่ยงมากแค่ไหนก็ตาม
หากเกิดวิกฤต จะแย่ยิ่งกว่าความไม่เท่าเทียมกัน
สำหรับคำถามที่ว่า เหรียญคริปโตเคอร์เรนซี่ทำให้เกิดความไม่เท่าเทียมกันทางเศรษฐกิจเป็นวงกว้างนั้น เขาตอบว่า เหรียญคริปโตเคอร์เรนซี่มีการใช้เทคโนโลยีที่ยึดโยงกับ defi ในการชำระเงินรูปแบบดิจิทัลและผลิตภัณฑ์การเงินรูปแบบอื่น และเป็นบริการที่ใคร ๆ ก็เข้าถึงง่าย สำหรับประเด็นเรื่องของความไม่เท่าเทียมกันนั้น เขามองว่าหากคริปโตสั่นคลอนขึ้นมา มันจะแย่ยิ่งกว่าความไม่เท่าเทียมกันเสียอีก
นอกจากนั้นแล้ว เขากล่าวเพิ่มเติมว่า ทุกการลงทุนล้วนแล้วมีความเสี่ยง โดยเฉพาะการลงทุนในคริปโตและผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องนั้น สุดท้ายนักลงทุนรายย่อยจะเป็นผู้ได้รับความเสียหายสูงสุด