รัฐบาลเช็กเผชิญมติไม่ไว้วางใจ หลังเทขาย Bitcoin มูลค่า $45 ล้านจากคดีอาชญากรรม ประชาชนตั้งคำถามถึงความโปร่งใส
รัฐบาลสาธารณรัฐเช็กกำลังเผชิญแรงกดดันอย่างหนักจากฝ่ายค้านที่ยื่นญัตติไม่ไว้วางใจ หลังเกิดกรณีอื้อฉาวเกี่ยวกับการขาย Bitcoin ที่ยึดได้จากอาชญากรคดียาเสพติด มูลค่ากว่า 1 พันล้านโครูน่า หรือราว $45 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งนำไปสู่การลาออกของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม
รัฐบาลสาธารณรัฐเช็กกำลังเผชิญแรงกดดันอย่างหนักจากฝ่ายค้านที่ยื่นญัตติไม่ไว้วางใจ หลังเกิดกรณีอื้อฉาวเกี่ยวกับการขาย Bitcoin ที่ยึดได้จากอาชญากรคดียาเสพติด มูลค่ากว่า 1 พันล้านโครูน่า หรือราว $45 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งนำไปสู่การลาออกของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม
พรรคฝ่ายค้านหลักของประเทศ นำโดยพรรค ANO ที่มีจุดยืนขวาจัด ได้ประกาศเมื่อวันพฤหัสบดีว่าจะยื่นญัตติไม่ไว้วางใจต่อรัฐบาล โดย Alena Schillerova รองหัวหน้าพรรค ระบุผ่านโพสต์บนแพลตฟอร์ม X ว่า "ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องยื่นญัตติดังกล่าว" โดยกำหนดให้มีการลงมติในวันอังคารหน้า
ต้นตอของวิกฤตความเชื่อมั่นในครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากที่กระทรวงยุติธรรมของเช็กประกาศเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคมว่า ได้ดำเนินการขาย Bitcoin จำนวนเกือบ 500 BTC ผ่านการประมูล หลังจากได้รับสินทรัพย์ดิจิทัลดังกล่าวจาก Tomas Jirikovsky อดีตผู้ต้องหาคดีการเปิดตลาดมืดออนไลน์ ซึ่งถูกตัดสินจำคุกในปี 2017 ด้วยข้อหายักยอกทรัพย์ ค้ายาเสพติด และครอบครองอาวุธผิดกฎหมาย
อย่างไรก็ตาม พรรคฝ่ายค้านได้ตั้งข้อสังเกตว่า ผู้ชนะการประมูลบางรายได้ออกมาเรียกร้องขอเงินคืน และตั้งคำถามว่ารัฐบาลจะชดเชยความเสียหายที่เกิดขึ้นได้อย่างไร
แรงกดดันทางการเมืองที่เพิ่มขึ้นทำให้ Pavel Blazek รัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรม ตัดสินใจลาออกเมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม แม้เจ้าตัวยืนกรานว่าไม่ได้กระทำความผิดใด ๆ โดยให้เหตุผลว่าการลาออกเป็นการปกป้องภาพลักษณ์รัฐบาลก่อนการเลือกตั้งในเดือนตุลาคม
ต่อมาในวันอังคารที่ 4 มิถุนายน ประธานาธิบดี Petr Pavel ได้แต่งตั้ง Eva Decroix ให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรมคนใหม่ โดยเธอให้คำมั่นว่าจะเร่งดำเนินการสอบสวนเกี่ยวกับกระบวนการจัดการ Bitcoin ดังกล่าว พร้อมยืนยันว่า "กระทรวงภายใต้การนำของเธอจะให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ต่อการสอบสวนคดีนี้"
กรณีของรัฐบาลเช็กไม่ใช่เพียงตัวอย่างเดียวของผู้นำโลกที่ถูกตั้งคำถามเรื่องการเกี่ยวข้องกับคริปโตเคอร์เรนซี
ในอาร์เจนตินา ประธานาธิบดี Javier Milei ก็เผชิญกระแสวิจารณ์หลังโพสต์สนับสนุนโทเคน LIBRA ของโปรเจกต์ Libertad บนเครือข่าย Solana ซึ่งราคาพุ่งขึ้นจนมีมูลค่าตลาดสูงถึง $4.56 พันล้านในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ก่อนจะร่วงลงกว่า 94% หลังจากเขาลบโพสต์ดังกล่าว ส่งผลให้ถูกกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับปั่นราคา อย่างไรก็ตาม สำนักงานต่อต้านคอร์รัปชันของอาร์เจนตินาได้ออกแถลงเมื่อวันที่ 5 มิถุนายน ระบุว่า Milei ไม่มีความผิด เนื่องจากเป็นการกระทำในนามส่วนตัว
ขณะที่ในสหรัฐอเมริกา พรรคเดโมแครตได้ยื่นร่างกฎหมาย 2 ฉบับ และเปิดการสอบสวนผ่านคณะอนุกรรมาธิการ เพื่อจำกัดความสามารถของ Trump ในการแสวงหาผลประโยชน์จากสินทรัพย์ดิจิทัล
กรณีของสาธารณรัฐเช็กสะท้อนให้เห็นว่าประเด็นคริปโตยังคงเป็นพื้นที่อ่อนไหวทางการเมืองในหลายประเทศ โดยเฉพาะเมื่อมีข้อครหาเรื่องความโปร่งใสและการจัดการสินทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรม
อ้างอิง : Cointelegraph
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: การลงทุนมีความเสี่ยงสูง ดังนั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดก่อนการลงทุนทุกครั้ง
ข้อมูลในบทความนี้มีจุดประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้น Cryptosiam ไม่รับประกันความสมบูรณ์ ความถูกต้อง หรือความน่าเชื่อถือของข้อมูลดังกล่าว และไม่มีสิ่งใดในบทความนี้ที่ควรใช้เป็นคำแนะนำหรือชักชวน ให้ซื้อหรือขายคริปโต รวมทั้งการประเมินใดๆ ไม่มีข้อความใดในบทความที่ถือเป็นคำแนะนำทางกฎหมาย วิชาชีพ การลงทุน และ/หรือทางการเงิน และ/หรือคำนึงถึงความต้องการเฉพาะ และ/หรือข้อกำหนดของแต่ละบุคคล
Cryptosiam และบริษัทในเครือ ขอปฏิเสธความรับผิด หรือความรับผิดชอบทั้งหมดเกี่ยวกับเนื้อหาของบทความ และการดำเนินการใดๆ กับข้อมูลในบทความนั้น เป็นความเสี่ยงของผู้อ่าน และถือเป็นความเสี่ยงแต่เพียงผู้เดียว
