คริปโต 101: มือใหม่เริ่มลงทุนคริปโตเคอร์เรนซีควรรู้อะไรบ้าง?

แม้สกุลเงินดิจิทัลจะมีความผันผวนสูงอย่างที่เรารู้กันดี แต่ก็กำลังได้รับความนิยมมาก และนักลงทุนหลายคนก็กำลังมองหาวิธีกำไรจากมัน วันนี้คริปโตสยามจะพาไปเรียนรู้วิธีการเริ่มลงทุนคริปโตเคอร์เรนซีและสิ่งที่ควรระมัดระวัง

5 ขั้นตอนในการลงทุนคริปโตเคอร์เรนซี

ก่อนที่จะเริ่มลงทุน เราควรมีแหล่งเงินทุนให้พร้อม หรือมีเงินฉุกเฉิน และมีระดับหนี้ที่สามารถจัดการได้ ซึ่งต้องไม่ทำให้ตนเองเดือดร้อน หากมีประสบการณ์การลงทุนที่หลากหลายก็จะยิ่งดีมากยิ่งขึ้น เพราะการลงทุนกับสกุลเงินดิจิทัลนั้น นอกจากจะสามารถเพิ่มประสบการณ์ใหม่ก็ยังช่วยเพิ่มผลตอบแทนได้อีกด้วย

1. ทำความเข้าใจสิ่งที่จะลงทุน

ก่อนที่จะลงทุนในสินทรัพย์ใด จำเป็นจะต้องศึกษาให้เข้าใจเสียก่อน เนื่องจากสกุลเงินดิจิทัลนั้นมีอยู่หลายพันตัว และทั้งหมดนั้นก็ทำงานแตกต่างกัน ทั้งยังมีที่สกุลเงินที่เกิดขึ้นใหม่ทุกวัน เราจึงจำเป็นต้องทำความเข้าใจเสียก่อน

สกุลเงินดิจิทัลนั้นไม่เหมือนกับหุ้นที่บริษัทสามารถสร้างผลกำไรและจ่ายผลตอบแทนให้กับเราได้อย่างแน่นอน แต่สินทรัพย์สกุลเงินดิจิทัลจำนวนมากยังต้องพึ่งพาตลาด และจำเป็นต้องอยู่ในช่วงขาขึ้นเพื่อให้ทำกำไรได้

เหรียญที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ได้แก่ Ethereum (ETH), Dogecoin (DOGE), Cardano (ADA) และ Ripple (XRP) ในส่วนของ Solana (SOL) ก็เป็นอีกเหรียญหนึ่งที่ประสบความสำเร็จอย่างมากเช่นกัน ดังนั้นก่อนลงทุน ควรจะทำความเข้าใจถึงข้อดีและข้อเสียที่อาจจะเกิดขึ้น

2. อดีตก็คืออดีต

ข้อผิดพลาดของนักลงทุนรายใหม่จำนวนมากคือการมองแต่อดีตและใช้สิ่งนั้นคาดการณ์ถึงอนาคต เพราะในปีที่ผ่านมาบิทคอยน์เป็นเหรียญที่มีค่าอย่างมาก แต่อย่างไรก็ตาม ควรจะตั้งคำถามสำคัญอยู่เสมอคือ การเติบโตนั้นจะดำเนินต่อไปได้หรือไม่ หรือถึงเติบโตก็อาจจะไม่ได้มากเท่าที่คาดหวังก็ได้

3. ดูความผันผวน

ราคาของสกุลเงินดิจิทัลมีความผันผวนโดยสามารถเพิ่มขึนและสามารถลดลงอย่างรวดเร็วได้ในไม่กี่วินาทีจากเพียงแค่ข่าวลือหนึ่งที่สุดท้ายแล้วก็พิสูจน์ได้ว่าไม่ได้เป็นจริง

สำหรับนักลงทุนรายใหม่ที่ไม่มีทักษะเหล่านี้ ก็ไม่ต่างกับเกมสุ่มเหยียบกับระเบิดดี ๆ นี่เอง แต่นั่นอาจเป็นสิ่งที่ดีสำหรับนักลงทุนที่มีความเชี่ยวชาญ ซึ่งสามารถตัดสินใจซื้อขายได้อย่างรวดเร็ว และเข้าใจว่าตลาดมีแนวโน้มอย่างไรแล้วจะเป็นไปในทิศทางใดได้บ้าง 

ความผันผวนจะคัดสรรนักเทรดออกไปจากตลาดโดยเฉพาะอย่างยิ่งมือใหม่ที่มักตกใจกลัว ในขณะเดียวกัน นักเทรดรายอื่นอาจเข้ามาซื้อในราคาที่ถูกได้ หรือก็คือ ความผันผวนสามารถช่วยให้นักเทรดที่มีความเชี่ยวชาญได้ "ซื้อถูกและขายแพง" ในขณะที่นักลงทุนไร้ประสบการณ์จะ "ซื้อแพงและขายถูก"

4. จัดการความเสี่ยง

ในฐานะนักเทรดมือใหม่ ท่านจะต้องเข้าใจวิธีที่ดีที่สุดในการจัดการความเสี่ยง และหาวิธีของตนเอง
ที่จะช่วยทำให้ท่านสูญเสียน้อยที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับสินทรัพย์ที่มีความผันผวนอย่างสกุลเงินดิจิทัล 

นักลงทุนระยะยาวอาจบริหารความเสี่ยงโดยไม่ขาย ไม่ว่าราคาจะอยู่ที่เท่าไหร่ก็ตาม วิธีการคิดในเชิงระยะยาวช่วยให้นักลงทุนรับมือกับราคาที่ผันผวนได้

การจัดการความเสี่ยงเป็นสิ่งสำคัญ แต่นั่นจะต้องแลกมาด้วยสุขภาวะทางอารมณ์ การขายโดยที่ขาดทุนนั้นคงทำให้เจ็บปวดอย่างมาก แต่เมื่อได้ประสบครั้งหนึ่งแล้ว ท่านก็จะสามารถเลี่ยงการสูญเสียที่หนักยิ่งกว่าได้ในภายหลังจากประสบการณ์ที่เคยได้รับ

เทรดเดอร์ระยะสั้นอาจบริหารความเสี่ยง โดยกำหนดกฎที่เข้มงวดกับตนเองว่าเมื่อใดควรขาย เช่น เมื่อการลงทุนลดลง 10 เปอร์เซ็นต์ เพื่อป้องกันกลายเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่ในภายหลัง

นอกจากนี้ควรพิจารณาจัดสรรเงินในการซื้อขายแล้วใช้เพียงบางส่วน เพื่อป้องกันกรณีที่ราคาตลาดไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์เอาไว้ เพื่อที่อย่างน้อยก็ยังมีเงินสำรองเพื่อซื้อขายในภายหลัง เมื่อมีเงินสำรอง ท่านก็จะมีเงินทุนสำหรับการซื้อขายเสมอ

5. อย่าลงทุนเยอะเกินกว่าจำนวนที่ท่านจะสามารถเสียได้

สิ่งสำคัญคือท่านต้องเลี่ยงการนำเงินส่วนที่จำเป็นไปลงทุนในสินทรัพย์ เพื่อการเก็งกำไร หากเงินส่วนนั้นไม่ใช่เงินที่ถึงจะเสียไปทั้งหมดก็ไม่เป็นไร แต่ถ้านั่นเป็นเงินก้อนสำคัญ เช่น เงินดาวน์สำหรับบ้านหรือเงินที่จำเป็นสำหรับท่านในช่วงอีกไม่กี่ปีข้างหน้าและสมควรที่จะเก็บไว้ในบัญชีที่ปลอดภัย เพื่อใช้ในยามจำเป็น ก็อย่าได้นำมันไปลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยง เช่น สกุลเงินดิจิทัล หรือสินทรัพย์ตามตลาดอื่น ๆ อย่าง หุ้นหรือกองทุน ETF 

สุดท้ายนี้ อย่าได้มองข้ามความปลอดภัยของแพลตฟอร์มซื้อขายสกุลเงินดิจิทัล (exchange) หรือโบรกเกอร์ (broker) ใด ๆ ที่ท่านใช้งานอยู่ ท่านอาจเป็นเจ้าของสินทรัพย์ตามกฎหมาย แต่ยังต้องมีคนที่จะมารักษาความปลอดภัยให้กับสินทรัพย์นั้น แล้วความปลอดภัยนั้นต้องแน่นหนาด้วย หรือบางคนก็เลือกลงทุนผ่านกระเป๋าเงินดิจิทัล เพื่อเก็บเหรียญของพวกเขาแบบออฟไลน์ เพื่อที่แฮกเกอร์หรือคนอื่น ๆ จะได้เข้าถึงไม่ได้

การลงทุนเกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัลแบบอื่น ๆ

แต่ละวิธีข้างนั้นมีทั้งความเสี่ยงและโอกาสในระดับที่ต่างกันออกไป อย่างไรก็ตามท่านก็ควรทำความเข้าใจเกี่ยวกับสิ่งที่ท่านจะซื้อให้แน่ชัด และดูว่าตรงกับความต้องการของท่านหรือไม่

ฟิวเจอร์ (Futures) : เป็นอีกวิธีหนึ่งในการเดิมพันกับการแกว่งตัวของราคาของบิทคอยน์ และฟิวเจอร์จะช่วยให้ท่านใช้พลังของ leverage เพื่อสร้างผลตอบแทน (หรือขาดทุน) ได้อย่างมหาศาล เพราะเป็นตลาดที่เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วและทำให้การผันผวนของสกุลเงินดิจิทัลรุนแรงขึ้น

กองทุนสกุลเงินดิจิทัล : (เช่น Grayscale Bitcoin Trust) ที่จะทำให้ท่านเดิมพันการแกว่งตัวของราคาใน Bitcoin, Ethereum รวมถึง altcoins อื่น ๆ ได้ โดยทำให้ท่านสามารถซื้อสกุลเงินดิจิทัลได้ง่าย ๆ ผ่านสิ่งที่คล้ายกองทุน

หุ้นของตลาดซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลหรือโบรกเกอร์ : ตลาดซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลอย่าง Binance, Coinbase หรือบริษัทหลักทรัพย์อย่าง Robinhood นั้นมีรายได้มหาศาลจากการซื้อขายสกุลเงินดิจิทัล เป็นการซื้อหุ้นในบริษัทที่มุ่งทำกำไรจากการเพิ่มราคาของสกุลเงินดิจิทัลโดยไม่สนผู้ชนะ

กองทุน บล็อกเชน ETFs (Blockchain ETFs) : ช่วยให้ท่านสามารถลงทุนในบริษัทที่อาจได้กำไรจากเทคโนโลยีบล็อกเชน โดยจะช่วยให้ท่านได้สัมผัสกับบริษัทที่ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ที่สำคัญบางแห่งในพื้นที่ แต่บริษัทเหล่านี้มักจะไม่ได้ทำธุรกิจที่เกี่ยวกับสกุลเงินดิจิตอลเพียงอย่างเดียว ซึ่งก็อาจจะช่วยลดทั้งผลดีและผลเสียที่เกิดขึ้น

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการลงทุนสกุลเงินดิจิทัล

ต้องใช้เงินเท่าไหร่ในการเริ่มลงทุนในสกุลเงินดิจิทัล?

ตามหลักแล้วการลงทุนคริปโตจะใช้เพียงไม่กี่ดอลลาร์ อย่างส่วนใหญ่กำหนดราคาซื้อขายขั้นต่ำราว ๆ 5 ดอลลาร์หรือ 10 ดอลลาร์ แต่ในแอปพลิเคชันซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลอื่น ๆ ก็อาจมีขั้นต่ำที่น้อยกว่านั้น

อย่างไรก็ตามหากท่านจะซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลในจำนวนน้อย บางแพลตฟอร์มจะหักค่าธรรมเนียมก้อนใหญ่จากเงินลงทุนของท่าน การจะมองหาโบรกเกอร์หรือตลาดซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลที่เก็บค่าธรรมเนียมน้อยที่สุดจึงเป็นเรื่องสำคัญ

บล็อกเชนทำงานอย่างไร?

บล็อกเชนเป็นฐานข้อมูลชนิดหนึ่งที่บันทึกและตรวจสอบธุรกรรม รวมถึงความเคลื่อนไหวของสกุลเงินดิจิทัลนั้น พร้อมกับตรวจดูว่าใครเป็นเจ้าของมัน เทียบได้ง่าย ๆ ว่า ก็เหมือนกับใบเสร็จการทำธุรกรรมที่เพิ่มข้อมูลได้ตลอด 

ฐานข้อมูลบล็อกเชนทำงานด้วยเครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่กระจายอำนาจ คือมีคอมพิวเตอร์หลายเครื่องทำงานซ้ำซ้อนกันในการดูแลฐานข้อมูล โดยตรวจสอบธุรกรรมซ้ำ ๆ หลายรอบ เพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลนั้นถูกต้อง หากข้อมูลมีความคลาดเคลื่อน คอมพิวเตอร์ภายในเครือข่ายก็จะต้องแก้ไขข้อมูลนั้น

ขุดสกุลเงินดิจิทัลได้อย่างไร?

สกุลเงินดิจิทัลบางตัวมอบรางวัลแก่ผู้ที่ตรวจสอบธุรกรรมบนฐานข้อมูลบล็อกเชนด้วยกระบวนการที่เรียกว่าการขุด (mining) ตัวอย่างเช่น นักขุด (miner) ที่เกี่ยวข้องกับบิทคอยน์จะแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ที่ซับซ้อน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการตรวจสอบ หากพวกเขาแก้ปัญหาได้สำเร็จ ก็จะได้รับรางวัลบิทคอยน์ตามที่กำหนดไว้

ในการขุดบิทคอยน์ นั้นต้องการหน่วยประมวลผลที่ใช้พลังงานจำนวนมาก หลายคนจึงใช้งานห้องขนาดใหญ่ที่มีแท่นขุด (mining rig) เพื่อรับรางวัลเหล่านี้ 

จะลงทุนบิทคอยน์ได้อย่างไร?

หากท่านต้องการลงทุนในบิทคอยน์ก็สามารถทำได้หลายวิธี และลงทุนร่วมกับบริษัทได้หลายบริษัท ได้แก่

ตลาดซื้อขายสกุลเงินดิจิทัล : ตลาดซื้อขายจะมีชนิดสกุลเงินดิจิทัลให้เลือกมากมาย แแพลตฟอร์มซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลชั้นนำ ได้แก่ Binance  Coinbase, และ Kraken

โบรกเกอร์แบบดั้งเดิม : นอกเหนือจากหุ้นและสินทรัพย์ทางการเงินชนิดอื่น บางแห่งอาจอนุญาตให้ท่านซื้อขายบิทคอยน์ได้เช่นกัน แต่มีให้เลือกค่อนข้างน้อย โบรกเกอร์อันดับต้น ๆ ได้แก่ Interactive Brokers, TradeStation และ tastyworks

แอปพลิเคชั่นทางการเงิน : ท่านสามารถซื้อขายบิทคอยน์และสกุลเงินดิจิทัลอื่นผ่านแอปพลิเคชั่น
ทางการเงินได้หลายตัว แอปอันดับต้น ๆ ได้แก่ Robinhood และ Webull ตลอดจนแอปการชำระเงิน เช่น PayPal, Venmo และ Cash App

เหรียญ Altcoins คืออะไร?

เนื่องจากบิทคอยน์เป็นสกุลเงินดิจิตอลที่ใหญ่ที่สุดและคนนิยมลงทุนมากที่สุด ดังนั้นเหรียญอื่น ๆ ที่ไม่ใช่บิทคอยน์จึงถูกจัดหมวดแบบเย้ยหยันว่าเป็น Altcoins

ปัจจุบันบิทคอยน์ก็ไม่ได้โดดเด่นเหมือนในยุคเริ่มต้นของสกุลเงินดิจิทัลอีกต่อไป เหรียญ Altcoins อื่น ๆ เช่น Ethereum และ Solana ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น ซึ่งขณะนี้มีสกุลเงินดิจิทัลอยู่ราว ๆ 15,000 ตัวหรือมากกว่านั้นอีก 

สรุปสิ่งสำคัญ

สกุลเงินดิจิตอลนั้นเป็นตลาดที่มีความเสี่ยงสูง สำหรับมือใหม่ที่ต้องการเริ่มต้นซื้อขายสกุลเงินดิจิทัล จึงควรเริ่มต้นจากเงินจำนวนน้อยก่อน และให้ลงทุนเงินถึงส่วนที่จะเสียไปก็ไม่เป็นไรเท่านั้น