Morgan Stanley อ้าง “ระบบคริปโต เป็น Decentralized น้อยลง”

เมื่อวันพุธที่ผ่านมา Morgan Stanley บริษัทกองทุนยักษ์ใหญ่จากประเทศสหรัฐอเมริกา ได้กล่าวในรายงานการวิจัยว่า “ระบบนิเวศของคริปโต มีความเป็น Decentralized น้อยลง” ในขณะเดียวกัน บล็อกเชน Ethereum ที่เพิ่งเปลี่ยนเป็น proof-of-stake (PoS) จะกลายเป็น Centralized มากขึ้น เนื่องจาก 60% ของ Validators มาจากบริษัทเพียง 4 แห่งเท่านั้น

Crypto-Verse เริ่มต้นในปี 2009 จากชายนิรนามที่ใช้ชื่อว่า Satoshi Nakamoto ได้ทำการเปิดตัวบิทคอยน์ (BTC) สินทรัพย์ดิจิทัลสกุลแรกของโลก โดยใช้หลักการการกระจายอำนาจอย่างสมบูรณ์ (Decentralized) ที่ผ่านมาเราจะเห็นได้ว่า บิทคอยน์เป็น USP ตั้งต้นของระบบนิเวศทั้งหมด จนได้มีโปรเจคมากมายหลายอย่างเกิดขึ้นหลังจากนั้นอย่างที่เราเห็นกันในปัจจุบัน

อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าจะมีสกุลเงินดิจิทัลสกุลอื่นๆ เกิดขึ้นหลังจากนั้น แต่ไม่ได้แปลว่า ทุกสกุลเงินจะใช้หลักการ Decentralized ไปทั้งหมด ทาง Morgan Stanley มองว่า การใช้งานบล็อกเชนยังคงมีความเสี่ยง

“บล็อกเชนพื้นฐานนั้น อาจใช้หลักการ Decentralized แต่เนื่องจากข้อจำกัดในการใช้บล็อกเชนส่วนใหญ่ที่อาจเรียกใช้บนผู้ให้บริการคลาวน์รายหนึ่งรายใด หรือกลุ่มบริษัทขนาดเล็ก ก็ทำให้เกิดความเสี่ยงได้”

นอกจากนี้ยังกล่าวเพิ่มด้วยว่า โหนดของ Ethereum กว่า 65% เกิดขึ้นบนโฮสต์คลาวน์ ส่วนที่เหลืออยู่บน Amazon Web Services (AWS) หากเกิดการจำกัดการเข้าถึง หรือแม้กระทั่งเซิร์ฟเวอร์หยุดทำงาน ก็ทำให้เป็นปัญหาได้

ด้วยระบบนิเวศของคริปโตในขณะนี้ มีวิวัฒนาการผ่านแอปพลิเคชั่น โค้ด บริการ และบริษัท ทำให้บางส่วนกลายเป็น Decentralized น้อยลง และเป็นบริการส่วนบุคคลมากขึ้น แต่ทว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเหล่านี้ คือ “การรวมศูนย์อำนาจ” (Centralized) ซึ่งเป็นวิวัฒนาการตามธรรมชาติของการเงินในตลาดสกุลเงินดิจิทัลที่หลีกเลี่ยงไม่ได้

บล็อกเชน Ethereum เปลี่ยนไปใช้ PoS ทำให้รวมศูนย์มากขึ้น

หลังจาก Ethereum blockchain เปลี่ยนไปใช้ proof-of-stake (PoS) แล้ว การ Merge จะได้รับการตรวจสอบโดย Validators ซึ่ง 60% มาจากบริษัทเพียง 4 แห่งเท่านั้น นอกจากนี้องค์กรการกระจายอำนาจอิสระที่ใหญ่ที่สุดอย่าง DAO ก็กำลังพัฒนาบริษัทที่มีการรวมศูนย์มากขึ้น

ทั้งนี้ Morgan Stanley ยังได้ตั้งข้อสังเกตด้วยว่า ขนาดองค์กร DAOs ยังเบนมาสนใจเรื่องการรวมศูนย์อำนาจ ดังนั้น เราจึงอาจเห็นก้าวสำคัญของตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีการพัฒนาให้มีลักษณะคล้ายกับธนาคารมากขึ้นกว่าแต่ก่อน

ในขณะเดียวกัน การเงินแบบดั้งเดิม (TradFi) ก็มีการปรับใช้ร่วมกับผลิตภัณฑ์คริปโตมากขึ้น นี่คือการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญที่จะทำให้สกุลเงินดิจิทัลไม่กลายเป็น Centralized แต่จะกลายเป็นหลักการแบบผสมผสานที่มีความเป็นไปได้มากที่สุด เพื่อเสนอบริการที่ตอบโจทย์ในอนาคตระยะยาวที่มากกว่านั่นเอง