Blockchain

Cloudflare ใช้ Ethereum พัฒนาบริการให้ดีขึ้น

440703560 1280.jpg

หลังความนิยมในตัว PoS เริ่มแพร่กระจายเข้าไปสู่เครือข่ายต่าง ๆ ส่งผลให้ทาง Cloudflare ตัดสินใจหันมาใช้ Ethereum เพื่อพัฒนาบริการองค์กรให้ดีขึ้น

หลังจากที่ Ethereum ตัดสินใจเปลี่ยนมาใช้อัลกอริธึมแบบ Proof-of-stake (PoS) ในช่วงก่อนหน้านี้ ได้ส่งผลทำให้ทางองค์กรรักษาความปลอดภัยรายใหญ่อย่าง Cloudflare หันมาให้ความสนใจกับอัลกอริธึมดังกล่าว ก่อนลุยเดินตามแผนใช้ Ethereum พัฒนาบริการในเดือนหน้าด้วยเช่นเดียวกัน พร้อมกันนี้ยังได้เผยถึงเจตนารมณ์ที่มุ่งมั่นศึกษาแนวทางการใช้พลังงานให้เกิดประสิทธิภาพมากที่สุด ผ่านการจัดการระบบที่ต่อเนื่อง และการพัฒนาความเร็วของเครือข่ายที่ทำงานบนอัลกอริธึม PoS เพื่อส่งเสริมการสร้างความยั่งยืนให้กับสิ่งแวดล้อม ก่อนจะนำมาปรับใช้ในการพัฒนาอินเทอร์เน็ตต่อไป

Cloudflare คือใคร?

Cloudflare ถูกก่อตั้งขึ้นครั้งแรกเมื่อปี 2010 ในฐานะผู้ให้บริการระบบ Network รายใหญ่ที่สุดในโลก ที่อนุญาตให้ผู้คนจากทั่วโลกสามารถเข้าใช้งานระบบได้ฟรี พร้อมทั้งยังช่วยรักษาความปลอดภัย และเพิ่มความเร็วให้กับเว็บไซต์ในรูปแบบต่าง ๆ ซึ่งผลงานที่โดดเด่นของบริษัทในช่วงที่ผ่านมานั้นก็คือระบบป้องกันการโจมตีด้วยวิธี Distributed Denial of Service (DDoS) หรือ การโจมตีในหลากหลายรูปแบบจนทำให้เครือข่ายล่ม และขัดข้อง เป็นต้น

How Cloudflare Works.jpg

การใช้ Ethereum พัฒนาอินเทอร์เน็ตช่วย Cloudflare ได้อย่างไร?

ปัจจุบัน การพัฒนาเครือข่ายกำลังอยู่ในระหว่างพัฒนาเปลี่ยนจากระดับ Merge เดิมไปสู่การเลือกใช้กลไกฉันทามติใหม่ในรูปแบบ PoS ที่ถูกกำหนดให้เริ่มใช้งานได้ภายในไตรมาสที่ 3 หรือ ช่วงต้นของไตรมาสที่ 4 เป็นต้นไป ด้วยเหตุนี้ ทาง Cloudflare จึงได้เล็งเห็นว่าการพัฒนากลไกอัลกอริธึมครั้งใหญ่ข้างต้นจะสามารถนำพาไปสู่การปรับปรุงแนวทางการนำพลังงานมาใช้อย่างเกิดประสิทธิภาพบนเครือข่ายได้ ซึ่งตามคำแถลงการณ์ที่ถูกเผยแพร่บน Blog ขององค์กร ได้ระบุไว้ว่าทาง Cloudflare จะเริ่มเปิดตัว และทำการ Stake โหนดตรวจสอบของ Ethereum ไว้กับโทเคนจำนวน 32 Ether (ETH) ต่อ 1 โหนด ตามที่ได้ระบุไว้ภายในไม่กี่เดือนข้างหน้า โดยมีใจความดังนี้

“Cloudflare กำลังจะได้เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการวิจัย และพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานหลักที่จะช่วยให้ Ethereum ปลอดภัย, รวดเร็ว และประหยัดพลังงานให้กับผู้ใช้งานทุกคนได้มากขึ้น นอกจากนี้ โหนดเหล่านั้นยังจะเข้ามาทำหน้าที่ช่วยทดสอบการวิจัยการนำพลังงานมาใช้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมไปถึงการจัดการระบบ และความรวดเร็วของเครือข่ายที่ต่อเนื่องด้วยเช่นเดียวกัน”

แม้ว่ารายละเอียดทุกอย่างจะถูกกำหนด และชี้แจงออกมาแล้วก็ตาม แต่ทว่าปัจจุบันทางบริษัทก็ยังไม่ได้ระบุว่าจำเป็นจะต้องใช้โหนดทั้งหมดกี่ตัว หรือ กำหนดการต่าง ๆ แต่อย่างใด

PoS ตอบโจทย์ Cloudflare มากกว่า

นอกจากนี้ ทาง Cloudflare ยังมองว่าอัลกอริธึม PoW ตัวเดิมนั้นไม่ค่อยเหมาะสมที่จะนำมาใช้งานร่วมกับเทคโนโลยีที่ถือกำเนิดขึ้นมาใหม่เท่าไรนัก นอกจากนี้ อัลกอริธึมดังกล่าวยังไม่สามารถที่จะตอบโจทย์เจตนารมณ์ขององค์กร ที่มุ่งมั่น และตั้งใจศึกษาแนวทางการสร้างความยั่งยืนให้กับสิ่งแวดล้อม รวมไปถึงการนำพลังงานมาใช้ผลิต Web3 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งการเปลี่ยนมาใช้อัลกอริธึม PoS นั้นจะสามารถช่วยเหลือทาง Cloudflare ได้มากกว่า รวมไปถึงยังช่วยขยายขีดจำกัดของเครือข่าย Web3 ให้มีขนาดใหญ่มากขึ้นได้อีกด้วย

ติดตาม CryptoSiam
เพื่อให้ไม่พลาด ทุกข่าวสาร วงการคริปโต
ข่าวต่อไป

บทความที่เกี่ยวข้อง

นักวิเคราะห์ เตือน! ใกล้ถึงจุดวิกฤตครั้งใหญ่ของตลาด Altcoin ก่อนจะเกิดขาขึ้นช่วงต้นปี 2025
อนาคตของวงการคริปโตในสหรัฐฯ จะเป็นอย่างไรหลัง Donald Trump มีแนวโน้มที่จะชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดี
เหรียญมีมที่เกี่ยวข้องกับ Trump ถล่มลงหนักกว่า 50% หลังผลการเลือกตั้ง ท่ามกลางการฟื้นตัวของตลาดคริปโต
มูลค่าทรัพย์สินของ Elon Musk พุ่งสูงขึ้นกว่า 2 หมื่นล้านดอลลาร์ หลัง Trump ชนะเลือกตั้ง