จีนพร้อมลดอำนาจของตำรวจ และผู้พิพากษาด้วย Blockchain
แดนมังกรมองเห็นปัญหาของการใช้อำนาจโดยมิชอบจากเหล่าผู้พิพากษา และเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อให้รูปคดีต่าง ๆ เปลี่ยนแปลงไปจากที่มันควรจะเป็น จึงเปิดตัวระบบอัตโนมัติตัวใหม่ที่ถูกขับเคลื่อนด้วย Blockchain, Big data และเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อคอยเฝ้าระวังไม่ให้เหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้น

แดนมังกรมองเห็นปัญหาของการใช้อำนาจโดยมิชอบจากเหล่าผู้พิพากษา และเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อให้รูปคดีต่าง ๆ เปลี่ยนแปลงไปจากที่มันควรจะเป็น จึงเปิดตัวระบบอัตโนมัติตัวใหม่ที่ถูกขับเคลื่อนด้วย Blockchain, Big data และเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อคอยเฝ้าระวังไม่ให้เหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้น
หนึ่งในข้อบกพร่องที่รุนแรงที่สุดของระบบการรักษาความปลอดภัยของประเทศแดนมังกรคือ การคอร์รัปชั่น, ความอยุติธรรม, การบังคับใช้กฏที่หละหลวม รวมไปถึงการตรวจสอบ และการถ่วงดุลที่ไม่เพียงพอ
จากการรายงานของสื่อท้องถิ่นอย่าง South China Morning Post ระบุว่าทางการจีนกำลังวางแผนที่จะนำ Blockchain มาใช้ได้ด้วยจุดมุ่งหมายเพื่อยับยั้งการละเมิดข้อจำกัดต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับการพิจารณาคดีความต่าง ๆเช่น การทุจริตในศาลยุติธรรม และกองกำลังตำรวจ

Guo Shengkun เลขาธิการของคณะกรรมธิการกิจการทางการเมือง และกฏหมายกลาง ได้ระบุว่า ตัวเขา และเหล่าคณะกรรมธิการมีหน้าที่กำกับดูแลฝ่ายอัยการ, เจ้าหน้าที่ตำรวจ, นักโทษ และฝ่ายโจทก์ ซึ่งการใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยในครั้งนี้จะทำให้ทางคณะกรรมธิการสามารถสอดส่องการทุจริตได้อย่างทั่วถึงมากยิ่งขึ้น
วิเคราะห์ด้วยคอมพิวเตอร์
ระบบที่ถูกขับเคลื่อนด้วย Blockchain ที่กำลังจะเกิดขึ้นตัวนี้นั้นถูกคาดหวังให้สามารถใช้การวิเคราะห์ด้วยคอมพิวเตอร์ และการเรียนรู้ของเครื่องยนต์ เพื่อนำมาระบุถึงความผิดปกติ หรือความเบี่ยงเบนในประโยค และคำตัดสินจากผู้พิพากษา การกระทำดังกล่าวเป็นไปตามการรณรงค์อย่างกว้างขวางในสาธารณรัฐประชาชนจีนเพื่อกำจัดการทุจริตจากเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา
และด้วยการปรับใช้ Blockchain กับ AI แบบอัตโนมัติในครั้งนี้นั้น ทางการจีนจะได้เป็นเครื่องมือในการป้องกันการละเมิดขั้นตอนการดำเนินงานอย่างมิชอบธรรม โดยใช้ประโยชน์จากการตรวจสอบ และการถ่วงดุลในพื้นที่การรักษาความปลอดภัยที่โดดเด่น เปรียบเสมือนเข้ามาทำหน้าที่เช่นเดียวกับกองกำลังตำรวจ และศาลยุติธรรม ซึ่งเหตุนี้เองหลักนิติธรรมก็จะมีความน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น
ระบบกำกับดูแลแบบดิจิทัล
“แทนที่จะอยู่ภายใต้การกำกับดูแลโดยใช้ผู้คน ศาล และสำนักงานอัยการของประเทศจะอยู่ภายใต้การควบคุมของระบบการกำกับดูแลแบบดิจิทัลเรียลไทม์อย่างครอบคลุม ซึ่งระบบดังกล่าวจะถูกนำไปใช้กับเจ้าหน้าที่ทุกคน”
ในช่วงปลายปี 2018 ได้เกิดการประท้วงระดับชาติขึ้นในสาธารณประชาชนจีนหลังจากผู้พิพากษาศาลฎีกาอ้างว่าเอกสารที่มีความเกี่ยวข้องทางด้านกฏหมายเกี่ยวกับคดีสิทธิในการขุดเหมืองแร่ที่ดำเนินมาอย่างยาวนานได้หายไปจากที่ทำงานของเขา ในเวลาต่อมาเขาได้สารภาพความผิดของเขาต่อเอกสารที่หายไป ด้วยเหตุนี้คณะกรรมการจึงมุ่งมั่นที่จะใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี Blockchain เพื่อขัดขวางการปลอมแปลง และการให้สินบนกับเอกสาลอิเล็กทรอนิกส์ของศาล
ในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ทางศาลสูงของเซี่ยงไฮ้เองก็เริ่มนำ Bockchain เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการปฏิรูปเพื่อปรับปรุงเอกสารของศาลโดยการเปิดใช้งานการจดจำด้วยเสียง และการบันทึกตัวอักษร