Blockchain

รู้จักศัพท์ประจำวงการ: “Centralization“ การรวมศูนย์นั้นแย่จริงหรือ

F61 C A6 Eb 3 E09 4 C2 C 8281 87 A132 D4 E B19.jpeg.jpg

ทำความรู้จักกับหนึ่งในคำศัพท์สำคัญประจำวงการคริปโตอย่าง Centralization เจ้าปัญหา ต้นเหตุการสร้าง Blockchain

Centralization และ Decentralization

การพูดคุยซึ่งเกิดขึ้นในวงการคริปโตนั้น มักจะได้ยินคำศัพท์สำคัญอย่าง Centralization และ Decentralization เกี่ยวข้องด้วยเสมอ ๆ โดยคำศัพท์ทั้งสองคำนี้เป็นคำที่มีความหมายตรงข้ามกัน โดย Centralization นั้นเป็นคำซึ่งใช้อธิบายรูปแบบการดำเนินการใดๆซึ่งมีที่มาหรือแหล่งกำเนิดจากจุดเดียวกันในการกำหนดทิศทาง (Mandate)  ของระบบนั้น ๆ ในทางกลับกัน Decentralized นั้นใช้อธิบายถึงระบบซึ่งสามารถดำเนินไปโดยไม่ต้องอาศัยการกำหนดจากจุดใดจุดหนึ่งเพียงจุดเดียวนั่นเอง

Image 8.jpeg

เมื่อศัพท์ดังกล่าวนั้นได้มีการนำมาใช้ในวงการคริปโตแล้ว มักจะเป็นการนำมาใช้เพื่อพูดถึงระบบการบริหารจัดการข้อมูลและการควบคุมการดำเนินการบนเครือข่ายทั้งแบบปิด (Local หรือ Testnet) และแบบเปิด (Mainet) โดยที่มักจะมีการนำไปเปรียบเทียบระหว่างระบบ Blockchain ซึ่งเป็นแบบ Decentralized กับระบบเครือข่ายและการบริหารข้อมูลแบบที่ใช้กันอยู่เดิมซึ่งเป็นแบบ Centralized นั่นเอง ซึ่งในอดีตนั้นการทำระบบใดๆให้เป็นแบบ Decentralized นั้นเป็นไปได้ยากมากเนื่องจากขาดเครื่องมือในการเชื่อมต่อข้อมูลให้เหมือนกันทั้งเครือข่ายอย่างเช่น Blockchain นั่นเอง

ปัญหาที่เกิดขึ้นจากระบบ centralization

เมื่อมองภาพกลับไปในอดีต หรือแม้แต่ในปัจจุบันนั้นจะพบว่าการดำเนินการต่าง ๆ รอบตัวเราล้วนเป็นการดำเนินการแบบ Centralized ทั้งสิ้น ซึ่งหมายความว่าองค์กรต่าง ๆ นั้นเป็นผู้มีอำนาจแต่เพียงผู้เดียวในการดูแลรักษา บริหารจัดการ รวมไปถึงดำเนินการคัดกรองสิ่งที่เห็นว่าเป็นประโยชน์และไม่เป็นประโยชน์ต่อบุคคลที่เกี่ยวข้อง โดยองค์กรเหล่านี้อยู่ใกล้ตัวเรามากกว่าที่คิด คือตั้งแต่องค์กรรัฐฯ ธนาคาร ห้างร้าน ธุรกิจต่างๆ หรือแม้แต่แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย หรือบริษัท Exchange

Image 18 2 1024x538.png

เมื่อองค์กรหรือหน่วยงานใดๆเป็นผู้มีอำนาจเด็ดขาดในการบริหารจัดการแล้ว การดำเนินการที่เกิดขึ้นจึงตกอยู่ภายใต้ความเสี่ยงซึ่งขึ้นอยู่กับระดับความระมัดระวังขององค์กรเองเท่านั้น อีกทั้งยังไม่อาจมั่นใจได้ว่าจะดำเนินการไปตามความต้องการของผู้ที่มีส่วนได้เสีย ซึ่งกรณีนั้นแสดงให้เห็นจากการโจรกรรมข้อมูลที่เกิดขึ้นกับภาคธุรกิจและภาครัฐฯจากการที่ข้อมูลถูกรวมไว้ที่เดียว การที่ Exchange ถูกขโมยเหรียญคริปโต หรือแม้แต่การที่องค์กรหรือแพลตฟอร์มสามารถที่จะเลือกปฎิบัติกับผู้ใช้งานหรืบุคคลที่เกี่ยวข้องได้เพียงเพราะเป็นคำสั่งจากส่วนกลาง สิ่งเหล่านี้เป็นแค่ปัญหาส่วนหนึ่งของระบบแบบ Centralized เท่านั้น

การเข้ามาแก้ปัญหาเดิม ๆ ด้วยระบบแบบ Decentralized

Decentralization นั้น แม้ว่าจะเริ่มมีการใช้งานจริงได้เพียงไม่กี่ปีและมีการนำไปใช้ในวงที่จำกัด เช่น วงการเทคโนโลยีและการเงินการธนาคาร แต่การริเริ่มที่เกิดขึ้นนั้นได้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพและความเสมอภาคที่มาพร้อมกับระบบดังกล่าว ตั้งแต่ความปลอดภัยและความเชื่อมโยงของข้อมูล ไปจนถึงความยุติธรรมที่เกิดขึ้นระหว่างผู้ใช้งานและผู้ที่เกี่ยวข้องในระบบโดยไม่มีการเลือกปฏิบัตินั่นเอง ซึ่งตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจน เช่น แพลตฟอร์ม Exchange แบบ Decentralized หรือที่เรียกว่า DEX อย่าง Uniswap นั้นให้ประโยชน์แก่นักลงทุนในแง่ของค่าธรรมเนียมและมีความปลอดภัยที่สูงกว่าเมื่อเทียบกับแพลตฟอร์มแบบ Centralized เช่น Binance เป็นต้น

ติดตาม CryptoSiam
เพื่อให้ไม่พลาด ทุกข่าวสาร วงการคริปโต
ข่าวต่อไป

บทความที่เกี่ยวข้อง

รายงาน ก.ล.ต. สรุปภาพรวมบัญชีซื้อขายที่ Active ในช่วงต้นเดือน 'เมษายน' ปี 2567
ตลาด Altcoin มีโอกาสเสี่ยงถูกปรับฐาน ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
ซีอีโอ Crypto.com ชี้! Bitcoin กำลังอยู่ในจุดเริ่มต้น ของการเข้าสู่ช่วงขาขึ้น
 วาฬหน้าใหม่ ครอบครอง Bitcoin รวมกันไปแล้วถึง 1.8 ล้าน BTC