Central Bank ของแอฟริกันเตือนประชาชน เงินที่ถูกปล้นสามารถตรวจจับได้
จากกรณีประเทศแอฟริกาใต้เจอกับการโจมตีปล้นสะดมตู้ ATM 1400 แห่ง ทำให้ Central bank ของประเทศได้เริ่มออกมาฉุกคิดเกี่ยวกับเรื่องของเงินดิจิทัลมากขึ้น
จากกรณีประเทศแอฟริกาใต้เจอกับการโจมตีปล้นสะดมตู้ ATM 1400 แห่ง ทำให้ Central bank ของประเทศได้เริ่มออกมาฉุกคิดเกี่ยวกับเรื่องของเงินดิจิทัลมากขึ้น
จากกรณีประเทศแอฟริกาใต้เจอกับการโจมตีปล้นสะดมตู้ ATM 1400 แห่ง ทำให้ธนาคารกลางของประเทศได้เริ่มออกมาฉุกคิดเกี่ยวกับเรื่องของเงินดิจิทัลมากขึ้น
Central Bank เตือนประชาชนด้วยความหวังดี
โดยธนาคารกลางแอฟริกาเริ่มมีท่าทีไม่ยอมรับการใช้แบงก์กระดาษที่มีการออกแบบสำหรับการแกะรอยโดยเฉพาะ
สอดคล้องกับรายงานของ EWN ว่า ทางธนาคารสำรองแอฟริกาใต้ (SARB) ได้ออกมาเตือนว่า ชาวแอฟริกันที่กำลังครอบครองธนบัตรนั้น มีความเสี่ยงที่จะถูกจับตาเป็นอาชญากรได้ การเตือนครั้งนี้มาจากการที่ทาง SARB เห็นว่า จังหวัด KwaZulu-Natal กับ Gauteng มีการปลอมแปลงธนบัตรมากขึ้น
Jacob Zuma อดีตประธานาธิบดีแอฟริกาที่เพิ่งถูกจำคุกไปนั้น ได้มีการปลุกระดมให้ผู้สนับสนุนทำการก่อการจลาจลด้วยความรุนแรง การจลาจลที่เกิดขึ้นนี้จึงก่อให้เกิดการปล้นสะดมเงินสดที่ตอนนี้คาดว่า สูญเสียมูลค่าไปกว่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
เทคโนโลยีใหม่ป้องกันการขโมย
ในรายงานของ EWN ได้ชี้ว่า การก่อจลาจลนั้น ก่อให้เกิดการปล้นสะดมและเผาทรัพย์สินต่าง ๆ จำนวนมาก โดยเฉพาะตู้ ATM ที่ถูกเป็นเป้าโจมตีมากที่สุด รายงานกล่าวว่า ตู้ ATM ของแอฟริกาใต้มีธนบัตรที่ป้องกันด้วยเทคโนโลยีชั้นสูง
เทคโนโลยีนี้ก็คือ เมื่อเงินถูกนำไปใช้จากการที่ถูกงัดแงะแล้ว ธนบัตรจะมีการเปลี่ยนเป็นสีเขียวอมน้ำเงิน ด้วยเหตุนี้ธนบัตรจึงมีรอยตำหนิและไม่สามารถนำมาจับจ่ายใช้สอยได้
ในขณะเดียวกัน ทางธนาคารกลางได้เรียกร้องให้ประชาชนชาวแอฟริกันที่ได้ขโมยหรือได้รับเงินที่น่าสงสัยว่าจะเป็นเงินที่ถูกขโมยมานั้น ให้นำเงินดังกล่าวไปให้กับสถานีตำรวจที่ใกล้ที่สุดโดยทันที ในช่วงที่เขียนอยู่นี้ ทาง SARB ไม่ได้มีการบอกจำนวนหรือมูลค่าธนบัตรที่ถูกขโมยไป