บัวขาว เปิดตัว NFT ยกระดับมวยไทยสู่โลกดิจิทัล
ซุปเปอร์สตาร์นักชกชื่อดังระดับตำนานขวัญใจคนไทย บัวขาว เปิดตัว NFT ขึ้นแท่นนักมวยไทยคนแรกที่สร้างโปรเจกต์สินทรัพย์ดิจิทัล
ซุปเปอร์สตาร์นักชกชื่อดังระดับตำนานขวัญใจคนไทย บัวขาว เปิดตัว NFT ขึ้นแท่นนักมวยไทยคนแรกที่สร้างโปรเจกต์สินทรัพย์ดิจิทัล
เมื่อวันที่ 6 เมษายน ที่ผ่านมา บัวขาว บัญชาเมฆ หรือ นักมวยไทยชื่อดังฉายา ดำดอทคอม ได้จับมือเป็นพันธมิตรร่วมกับบริษัท YDM Thailand, SIX Network และ FSN Asia สร้างโปรเจกต์ Non-Fungible Token (NFT) คอลเลกชันแรกภายใต้ชื่อ Buakaw 1 ที่มาพร้อมกับโปรเจกต์ลับ “The Next Fighter” เพื่อสร้างสรรค์ผลงาน ในรูปแบบ Generative Art จำนวนกว่า 10,000 ชิ้นภายใต้คอนเซปต์ “จิตวิญญาณนักสู้” ด้วยเป้าหมายที่ต้องการจะสร้างแรงบันดาลใจ และชักจูงแฟนมวยให้ก้าวเข้ามาสู่โลกคริปโต และ Metaverse ไปพร้อม ๆ กัน เรามาดูกันดีกว่าว่าบัวขาว เปิดตัว NFT จะมีอะไรน่าสนใจรอเราอยู่บ้าง?
Buakaw NFT น่าสนใจอย่างไร?
Buakaw 1 ถูกจัดตั้งขึ้นด้วยจุดประสงค์ที่ต้องการจะเข้ามาปฏิวัติโลกของมวยไทย พร้อมทั้งส่งต่อเจตนารมณ์ และจิตวิญญาณนักสู้ของบัวขาวไปยังบรรดาแฟนคลับเพื่อสร้างตำนานให้กับวงการมวยไทย ที่ไม่ได้หยุดอยู่แค่เพียงบนสังเวียนการต่อสู้เท่านั้น รวมไปถึงการขยายธุรกิจเข้าไปสู่ตลาด NFT และคริปโตทั่วโลกทั้งในรูปแบบออนไลน์ และออฟไลน์ เพื่อเปิดโอกาสให้แฟนมวยได้เข้ามามีส่วนร่วมกับการสร้างสรรค์ผลงาน, การทำกิจกรรม, แลกรับสิทธิพิเศษ และยิ่งไปกว่านั้นคือการเปิดประตูก้าวเข้าสู่จักรวาล Metaverse ของนักชกชื่อก้องโลกอย่างบัวขาวนั่นเอง
แน่นอนว่า สิ่งที่เรียกได้ว่าน่าสนใจ และเชิญชวนให้ผู้คนจำนวนมากต้องการจะซื้อคอลเลกชันดังกล่าวไปมากที่สุดนั้น ก็คงจะหนีไม่พ้นชื่อเสียงของบัวขาว ที่โด่งดังจากการคว้าแชมป์จากเวทีการแข่งขันทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็น ไทย, ญี่ปุ่น, จีน, สิงคโปร์, อังกฤษ, สเปน, รัสเซีย, สหรัฐอเมริกา และอีกมากมาย จนมีแฟนคลับเข้ามาติดตามในช่องทาง Social Media หลายล้านคนด้วยกัน
สิทธิพิเศษที่บัวขาวจะมอบให้กับผู้ที่ซื้อ NFT
โปรเจกต์ Buakaw 1 ไม่ได้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อให้ผู้คนสะสมเก็บไว้แต่เพียงเท่านั้น นอกจากจะมีจำนวนจำกัดแล้ว ผู้ซื้อยังจะได้รับสิทธิพิเศษในการเข้าร่วมกิจกรรมทั้งบนโลกออนไลน์ และออฟไลน์กับบัวขาวตัวเป็น ๆ อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น การร่วมชมการฝึกซ้อมมวยไทย ที่ได้รวบรวมเทคนิคการต่อสู้ที่ไม่เคยได้พบเห็นจากที่ไหนมาก่อน, ลุ้นรับสินค้าพิเศษ หรือ ของใช้ส่วนตัวของบัวขาว พร้อมลายเซ็น รวมไปถึงสิทธิ์ในการได้เข้าพักใน Buakaw Village สถาบันฝึกสอนมวยไทยแบบครบวงจรในจังหวัดเชียงใหม่ และยิ่งไปกว่านั้นผู้ซื้อยังจะได้รับสิทธิ์ในการเข้าร่วมโปรเจกต์ลับ The Next Fighter ที่ทางทีมงานได้จัดเตรียมไว้ให้อีกด้วย ทั้งนี้ยังไม่มีการออกมาเปิดเผยถึงรายละเอียดโปรเจกต์ลับเพิ่มเติมแต่อย่างใด
กำหนดการจัดจำหน่าย Buakaw NFT
NFT Buakaw 1 จะเริ่มเปิดรอบ Pre-sale เพื่อดำเนินการจัดจำหน่าย และ Mint ผลงานบนเครือข่าย Ethereum (ETH) ครั้งแรกในวันที่ 8 พฤษภาคมที่จะถึงนี้ ซึ่งจะจำกัดสิทธิ์เฉพาะผู้ที่ได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกบนแพลตฟอร์ม Discord Buakaw 1 และสมาชิกของพันธมิตรตามที่ได้มีการระบุไว้ ก่อนจะเริ่มเปิดรอบสาธารณะให้กับบุคคลทั่วไปเข้าซื้อผลงานได้ในวันที่ 9 พฤษภาคม พร้อมกันนี้ยังได้มีการแจกรางวัลแบบ Limeted Exclusive จากคอลเลกชัน NFT ขึ้นอีกจำนวน 2 รอบอีกด้วย
บัวขาว เปิดตัว NFT หวังบุกตีตลาด Metaverse
แน่นอนว่าการสร้าง NFT ในครั้งนี้ ทีมงานของบัวขาว และบริษัทพันธมิตรมีเป้าหมายที่จะบุกเข้าโจมตีโลกเสมือนที่กำลังมาแรงอย่างจักรวาล Metaverse อีกด้วยเช่นเดียวกัน โดยอ้างอิงจากข้อมูลบนเว็บไซต์หลัก ทางทีมงานได้ระบุว่าบัวขาวตั้งใจที่จะนำค่ายมวย สนามแข่งมวย ผู้ฝึกสอนมวย และนักมวยให้ก้าวเข้าไปสู่โลก Metaverse อย่างพร้อมเพรียงกัน ภายใต้โปรเจกต์ Buakaw Metaverse
อย่างไรก็ตามในเรื่องรายละเอียดของโปรเจกต์ดังกล่าวนั้น ทางทีมงานทำได้แค่เพียงย้ำว่าผู้ที่ซื้อ และถือครอง NFT สุดพิเศษของบัวขาวเท่านั้นถึงจะมีโอกาสได้ทราบ และเข้าสัมผัสถึงโลกมวยไทยดิจิทัลใบใหม่นี้
ตำนานของนักมวยผู้มากความสามารถ
ก่อนที่นักมวยชื่อดังก้องโลกรายนี้จะได้ก้าวขึ้นมาเป็นผู้บริหาร และเจ้าของโครงการ NFT ชิ้นใหญ่ได้อย่างทุกวันนี้นั้น เราจะต้องขอท้าวความกลับไปถึงความมุ่งมั่น พยายามก่อร่างสร้างตัวของเขาเพื่อให้ทุกคนได้มองเห็นภาพ และเข้าใจถึงคอนเซปต์ของผลงานดิจิทัลที่ทางทีมงานพยายามจะถ่ายทอดออกมาให้ผู้ซื้อได้ซาบซึ้ง และเข้าใจถึงความหมายอย่างแท้จริง
บัวขาว บัญชาเมฆ หรือ นายสมบัติ บัญชาเมฆ ได้ก้าวเข้ามาสู่วงการมวยไทยนับตั้งแต่อายุได้แค่เพียง 8 ปีเท่านั้น โดยเขาได้หมั่นฝึกฝนอย่างต่อเนื่องมาจนถึงปี 2001 ที่เขาสามารถคว้าแชมป์เวีการแข่งขันนามมวยลุมพินีได้เป็นครั้งแรก ก่อนจะลงแข่งขันตามเวทีต่าง ๆ เรื่อยมา และสามารถคว้าแชมป์เวทีระดับโลกอย่างสภามวยไทยโลก WMC World และ Shoot Boxing S-cup World Champion รวมไปถึงเวทีมอนติคาโล ไฟต์ติง มาสเตอร์อีกด้วย รวมแล้วเขาขึ้นชกทั้งหมด 288 ยก และชนะการแข่งขันมากว่า 254 ครั้ง ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นสถิติที่น่าทึ่งอย่างมากเลยทีเดียว
ปัจจุบัน บัวขาวได้ตัดสินใจเปิดค่ายมวยของตนเองในชื่อ Banchamek Gym รวมไปถึงเปิดศูนย์สอนศิลปะมวยไทย และที่พักในจังหวัดเชียงใหม่ในชื่อ Buakaw Village เพื่อส่งเสริม และรักษาเอกลักษณ์ความเป็นไทยให้ยังคงอยู่สืบไป