เผยงานวิจัยบิทคอยน์ มีการทำธุรกรรมแบบผิดกฎหมายน้อยลง
เผยงานวิจัยชี้ให้เห็นถึงแนวโน้มการทำผิดกฎหมายที่เกี่ยวกับบิทคอยน์น้อยลง
เผยงานวิจัยชี้ให้เห็นถึงแนวโน้มการทำผิดกฎหมายที่เกี่ยวกับบิทคอยน์น้อยลง
รายงานวิจัยใหม่พบว่า เวลานี้มีการใช้บัญชีในการซื้อขายเหรียญบิทคอยน์แบบผิดกฎหมายน้อยกว่า 3 % เมื่อเทียบกับการเปิดบัญชีซื้อขายอย่างเป็นทางการประมาณ 80 %
เผยงานวิจัยเริ่มมีการทำผิดกฎหมายเกี่ยวกับคริปโตน้อยลง
งานวิจัยใหม่นี้ใช้ชื่อว่า “Blockchain Analysis of the Bitcoin Market” ซึ่งในรายงานวิจัยได้มีการดำเนินทำวิจัยเกี่ยวกับการทำธุรกรรม การฉ้อโกงหรือแม้แต่การพนันกับคริปโต ซึ่งพบว่ามีน้อยกว่าที่คาดเอาไว้มาก ในทางกลับกันงานวิจัยได้ยืนกรานว่า บัญชีที่มีการเปิดซื้อขายกับบริษัทคริปโตนั้น มีความเชื่อมโยงกับสภาพคล่องของตลาดคริปโต ซึ่งนำไปสู่กระแสการเก็งกำไรมากขึ้น คิดเป็นปริมาณการซื้อขายถึง 80 % ด้วยกัน
ผู้เขียนรายงานวิจัยได้มีการยืนยันว่า การทำธุรกรรมบิทคอยน์แบบผิดกฎหมายในช่วงปี 2019 นั้น มีมากถึง 46 % ด้วยกัน เนื่องจากมีการนำเหรียญบิทคอยน์ไปชำระเงินค่าซื้อสินค้าและบริการชนิดต่าง ๆ และเหตุผลตรงนี้ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงหลาย ๆ อย่างเกิดขึ้นตามมา
เวลานี้แกะรอยตรวจสอบง่ายขึ้น
นอกจากนั้นแล้วผู้ทำรายงานวิจัยได้กล่าวว่า ตอนนี้โครงข่ายการกระทำที่ผิดกฎหมายมีการกระจายอย่างเป็นวงกว้าง ซึ่งโครงข่ายหลาย ๆ แห่งมีความเป็นไปได้ที่จะมีการกระทำผิดกฎหมายแบบซ้ ๆ ได้ด้วยการใช้ช่องทางทำธุรกรรมที่ยืนยันตัวตนได้หลายช่องทาง อย่างไรก็ตามตอนนี้ดูเหมือนว่า จะสามารถวิเคราะห์ความแตกต่างระหว่างผู้ใช้งานจริงและผู้ใช้งานลวง ซึ่งเวลานี้สามารถทำการแกะรอยตรวจสอบได้ง่ายขึ้น ซึ่งปัญหาหลัก ๆ นั้นมาจากการใช้นามแฝงในการทำธุรกรรมบิทคอยน์ที่อาจตรวจสอบการยืนยันตัวตนได้ยากลำบากขึ้น
ผู้เขียนวิจัยได้ทำการวิเคราะห์การซื้อขายเหรียญคริปโตที่ไม่ได้ผ่านช่องทางบริษัทซื้อขายหลักทรัพย์หรือ OTC ต่อมาผู้เขียนได้ทำการลงความเห็นว่า โดยรวมแล้วปริมาณการซื้อขายเหรียญคริปโตเคอร์เรนซี่อย่างเป็นทางการมีมากถึง 80 % ด้วยกัน โดยที่บริษัทนิติบุคคลอย่างเป็นทางการไม่ได้มีการซื้อขายเหรียญคริปโตมากนักในช่วงปลายปี 2020