นักวิเคราะห์ เผย Bitcoin ร่วงเดือนมกราคมเป็นเรื่องปกติใน “ปีหลังเกิด Halving”

การปรับฐานครั้งใหญ่ของ Bitcoin ในเดือนแรกของปีหลังเกิดการ Halving ถือเป็นเรื่องปกติ โดยนักวิเคราะห์ที่ศึกษารอบวัฏจักรในอดีตชี้ให้เห็นถึงแนวโน้มที่คล้ายคลึงกัน

"การเทขาย Bitcoin ในเดือนมกราคมเป็นเรื่องปกติในปีหลังการ Halving" Axel Bitblaze นักวิเคราะห์คริปโตที่มีผู้ติดตามใน X มากกว่า 123,000 คน ระบุเมื่อวันที่ 12 มกราคม "เราทุกคนรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นหลังการร่วงในปี 2017 และ 2021"

ในปีนี้ Bitcoin ร่วงลง 10% จากจุดสูงสุดที่ $102,300 เมื่อวันที่ 7 มกราคม ลดเหลือต่ำกว่า $92,000 ก่อนจะฟื้นตัวเล็กน้อยมาอยู่ที่ประมาณ $94,000

ย้อนกลับไปในเดือนมกราคม 2021 ซึ่งเป็นปีหลังการ Halving เช่นกัน Bitcoin ได้ร่วงลงกว่า 25% จากราคามากกว่า $40,000 เหลือเพียง $30,000 ก่อนที่จะพุ่งขึ้น 130% สู่จุดสูงสุดใหม่ที่ $69,000 ในเดือนพฤศจิกายน

ขณะที่ในเดือนมกราคม 2017 ซึ่งเป็นปีหลังการ Halving ครั้งก่อนหน้า Bitcoin ก็ได้ร่วงลง 30% จาก $1,130 เหลือ $784 แต่ต่อมาพุ่งขึ้นถึง 2,400% สร้างจุดสูงสุดใหม่ที่ $20,000 ภายในเดือนธันวาคมปีเดียวกัน

นักวิเคราะห์ Crypto Rover ที่มีผู้ติดตามกว่า 1 ล้านคน ยังได้ตั้งข้อสังเกตว่า Bitcoin มักจะร่วงในช่วงครึ่งแรกของแต่ละเดือน โดยระบุว่า "นี่เป็นการร่วงเพียงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับสิ่งที่เราเคยได้เห็นในอดีต"

นักวิเคราะห์ Stockmoney Lizards ที่มีผู้ติดตตามกว่า 1.4 แสนคน ได้ออกมาโพสต์เมื่อวันที่ 12 มกราคมว่า "Bitcoin ยังไม่เข้าสู่ระยะสุดท้ายของการไฮป์หรือการพุ่งขึ้นสูงสุดในรอบนี้" พร้อมคาดการณ์ว่าตลาดรอบนี้จะยังมีศักยภาพในการเติบโตไปอีก 12 เดือนข้างหน้า

นักวิเคราะห์ยอมรับว่าสถานการณ์ในแต่ละรอบวัฏจักรอาจมีความแตกต่างกันบ้าง แต่เขาก็ยังเชื่อว่าปัจจัยอย่างการยอมรับในวงกว้าง รัฐบาลที่สนับสนุนคริปโต และการเปิดตัว ETF จะเป็นปัจจัยที่ผลักดันตลาดในรอบนี้

หากการเติบโตของราคา Bitcoin ในรอบนี้สอดคล้องกับวัฏจักรรอบก่อนหน้า เราอาจได้เห็นการเพิ่มขึ้นถึง 130% ซึ่งจะผลักดันให้ราคาขึ้นไปสูงกว่า $200,000 ภายในสิ้นปี 2025

ในทางกลับกัน หากการร่วงในเดือนมกราคมนี้มีความรุนแรงเท่ากับสองวัฏจักรที่ผ่านมาราคา Bitcoin อาจลดลงต่ำกว่า $70,000

อ้างอิง : Cointelegraph