Bitcoin พุ่งทะลุ $101,000 รับแรงหนุนจากกฎหมายสินทรัพย์สำรองและกระแสการยอมรับในระดับโลก
ราคาของ Bitcoin พุ่งทะลุระดับ 100,000 ดอลลาร์อีกครั้ง ท่ามกลางแรงสนับสนุนจากปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง ทั้งด้านนโยบายการเงิน กฎหมายที่เอื้อต่อคริปโต และการยอมรับในภาคการเงินดั้งเดิม

ราคาของ Bitcoin พุ่งทะลุระดับ 100,000 ดอลลาร์อีกครั้ง ท่ามกลางแรงสนับสนุนจากปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง ทั้งด้านนโยบายการเงิน กฎหมายที่เอื้อต่อคริปโต และการยอมรับในภาคการเงินดั้งเดิม
ราคาของ Bitcoin พุ่งแตะระดับสูงสุดที่ $103,750 หลังจากประธานาธิบดี Donald Trump แถลงข่าวว่ากำลังมีความคืบหน้าในข้อตกลงทางการค้ากับสหราชอาณาจักร ซึ่งอาจรวมถึงการยกเลิกภาษีนำเข้า 10% ที่ครอบคลุมสินค้าทั้งหมด
นอกจากข้อตกลงกับสหราชอาณาจักร ตลาดยังจับตาการเจรจากับจีนซึ่งจะมีขึ้นที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ในวันที่ 10 พฤษภาคม โดยโพสต์ถี่ ๆ ของ Trump บนแพลตฟอร์ม Truth Social และคำให้สัมภาษณ์จากคณะรัฐมนตรีของทำเนียบขาว ได้สร้างความคาดหวังเชิงบวกให้กับตลาดการลงทุนอย่างเห็นได้ชัด
หลังประกาศข่าวการค้า ดัชนี Dow Jones ก็พุ่งขึ้นกว่า 500 จุด ส่วนทางด้าน S&P 500 ก็ปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.47% ขณะที่ Bitcoin มีราคาซื้อขายใกล้ระดับ $103,000 ซึ่งถือเป็นการกลับมาสู่ระดับหกหลักอีกครั้ง นับตั้งแต่ร่วงลงมาต่ำกว่า $100,000 ในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
นักวิเคราะห์ตลาดที่มีชื่อผู้ใช้ว่า Macroscope โพสต์บนแพลตฟอร์ม X ว่ากำลังจับตาอย่างใกล้ชิด พร้อมเน้นย้ำถึงความสำคัญของระดับราคา $100,000 ว่าไม่ใช่เพียงแค่แนวต้านทางจิตวิทยา แต่มันควรเป็นแนวรับที่มั่นคงด้วย
แม้การพุ่งขึ้นครั้งล่าสุดของ Bitcoin จะมีการล้างสถานะในตลาดฟิวเจอร์สมากถึง 241 ล้านดอลลาร์ แต่บริบททางการเมืองและการลงทุนที่เอื้อต่อ Bitcoin ในรอบนี้ มีความเปลี่ยนแปลงในเชิงโครงสร้างอย่างมีนัยสำคัญ
ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ผู้ว่าการรัฐสองแห่งในสหรัฐฯ ได้ลงนามในกฎหมายที่อนุญาตให้รัฐสามารถจัดตั้ง “คลังสำรอง Bitcoin เชิงยุทธศาสตร์” ได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ขณะที่ในวันที่ 8 พฤษภาคม รัฐ Missouri ได้ส่งร่างกฎหมาย 594 ซึ่งจะยกเลิกภาษีกำไรจากการขายคริปโตทั้งหมด ไปยังผู้ว่าการรัฐ Mike Kehoe เพื่อเตรียมประกาศใช้
ก่อนหน้านี้หนึ่งวัน สำนักงานกำกับดูแลสถาบันการเงินของสหรัฐฯ (OCC) ก็ได้ประกาศว่าธนาคารที่อยู่ภายใต้การดูแลของสำนักงานสามารถให้บริการซื้อขายคริปโตแทนลูกค้า และยังสามารถว่าจ้างบุคคลที่สามที่เชื่อถือได้เพื่อให้บริการรับฝากสินทรัพย์ดิจิทัลได้อีกด้วย
ยิ่งไปกว่านั้น ตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา สำนักงานประกันเงินฝาก (FDIC) ก็ได้ออกใบอนุญาตให้ธนาคารถือครองสินทรัพย์คริปโต และให้บริการด้านสินทรัพย์ดิจิทัลแก่ลูกค้าได้อย่างเป็นทางการ
แรงสนับสนุนจากภาครัฐและหน่วยงานกำกับดูแลเหล่านี้ ยังส่งผลต่อปริมาณเงินไหลเข้ากองทุน Spot Bitcoin ETF ที่เพิ่มสูงขึ้น รวมถึงการสะสม Bitcoin เข้าคลังสินทรัพย์ของบริษัทจดทะเบียนทั้งในและนอกสหรัฐฯ อย่างต่อเนื่อง
อ้างอิง : Cointelegraph
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: การลงทุนมีความเสี่ยงสูง ดังนั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดก่อนการลงทุนทุกครั้ง
ข้อมูลในบทความนี้มีจุดประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้น Cryptosiam ไม่รับประกันความสมบูรณ์ ความถูกต้อง หรือความน่าเชื่อถือของข้อมูลดังกล่าว และไม่มีสิ่งใดในบทความนี้ที่ควรใช้เป็นคำแนะนำหรือชักชวน ให้ซื้อหรือขายคริปโต รวมทั้งการประเมินใดๆ ไม่มีข้อความใดในบทความที่ถือเป็นคำแนะนำทางกฎหมาย วิชาชีพ การลงทุน และ/หรือทางการเงิน และ/หรือคำนึงถึงความต้องการเฉพาะ และ/หรือข้อกำหนดของแต่ละบุคคล
Cryptosiam และบริษัทในเครือ ขอปฏิเสธความรับผิด หรือความรับผิดชอบทั้งหมดเกี่ยวกับเนื้อหาของบทความ และการดำเนินการใดๆ กับข้อมูลในบทความนั้น เป็นความเสี่ยงของผู้อ่าน และถือเป็นความเสี่ยงแต่เพียงผู้เดียว