ความรู้เกี่ยวกับคริปโต

เครือข่าย Bitcoin สร้างประวัติศาสตร์ใหม่! ทำสถิติแรงขุดแตะ 1 Zetahash ต่อวินาทีเป็นครั้งแรก ท่ามกลางความกังวลเศรษฐกิจถดถอย

เครือข่าย Bitcoin สร้างประวัติศาสตร์ใหม่! ทำสถิติแรงขุดแตะ 1 Zetahash ต่อวินาทีเป็นครั้งแรก ท่ามกลางความกังวลเศรษฐกิจถดถอย

เครือข่าย Bitcoin ทำสถิติใหม่ทางเทคนิค หลังแรงขุด (hashrate) ของระบบแตะระดับ 1 Zetahash ต่อวินาที (ZH/s) เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์นับตั้งแต่ Bitcoin เปิดตัวเมื่อปี 2009

ข้อมูลจากเว็บไซต์ติดตามบล็อกเชนหลายแห่งระบุว่า HashRate หรือกำลังขุดของเครือข่าย Bitcoin ได้แตะจุดสูงสุดใหม่ที่ 1.025 ZH/s หรือ หนึ่งพันล้านล้านล้านล้านครั้งต่อวินาที เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ เมื่อวันที่ 5 เมษายน ตามรายงานจาก mempool.space ขณะที่ BTC Frame ระบุว่าเครือข่ายแตะระดับ 1.02 ZH/s ได้ตั้งแต่วันที่ 4 เมษายน ส่วนข้อมูลจาก Coinwarz ระบุว่าสถิติแรงขุดสูงสุดอยู่ที่ 1.1 ZH/s ณ บล็อกหมายเลข 890,915 เมื่อวันที่ 4 เมษายน เช่นกัน

กำลังขุดของ Bitcoin ได้ลดลงต่ำกว่า 0.95 ZH/s ในวันที่ 7 เมษายน หลังจากที่เคยแตะระดับ 1 ZH/s ( ที่มา : BTC Frame )
กำลังขุดของ Bitcoin ได้ลดลงต่ำกว่า 0.95 ZH/s ในวันที่ 7 เมษายน หลังจากที่เคยแตะระดับ 1 ZH/s ( ที่มา : BTC Frame )

แม้ตัวเลขจะแตกต่างกันบ้างตามวิธีคำนวณที่แต่ละแพลตฟอร์มใช้ เช่น ระยะเวลาการวัด การปรับระดับความยากของบล็อก และแหล่งข้อมูลที่ดึงจากโหนดหรือเหมืองต่างๆ แต่โดยรวมถือว่าเป็นเหตุการณ์สำคัญที่สะท้อนถึงความแข็งแกร่งของเครือข่าย Bitcoin 

ความคลาดเคลื่อนในการติดตามกำลังขุดของ Bitcoin

Jameson Lopp ผู้เชี่ยวชาญสาย Cypherpunk ชี้ว่า วิธีการคำนวณแรงขุดจากเพียงหนึ่งบล็อกย้อนหลังอาจให้ผลต่างสูงถึง 0.04 ZH/s เมื่อเทียบกับการคำนวณจากห้าบล็อก ด้าน Mitchell Askew หัวหน้านักวิเคราะห์จาก Blockware Solutions เตือนว่า “ตัวเลข hashrate แบบดิบอาจหลอกตาได้ เพราะการผลิตบล็อกมักมีความแปรปรวน” พร้อมระบุว่าแรงขุดเฉลี่ย 30 วันของ Bitcoin ยังอยู่ที่ราว 0.845 ZH/s เท่านั้น

แม้จะมีความคลาดเคลื่อนในรายละเอียด แต่การที่กำลังขุดแตะระดับ 1 ZH/s ซึ่งเทียบเท่ากับ 1,000 Exahashes ต่อวินาที ถือเป็นพัฒนาการก้าวกระโดดของเครือข่าย Bitcoin โดยเพิ่มขึ้นกว่า 1,000 เท่านับตั้งแต่เดือนมกราคม 2016 ที่เครือข่ายเพิ่งแตะระดับ 1 EH/s เป็นครั้งแรก

ปัจจุบัน Bitcoin เป็นเครือข่ายแบบ Proof-of-work ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ขณะที่อันดับสองคือ Litecoin มีแรงขุดอยู่ที่ราว 2.49 Petahashes ต่อวินาที ซึ่งถือว่าต่ำกว่าถึงประมาณ 40,000 เท่า

นักขุดเร่งเครื่องเต็มระบบ

Askew ชี้ว่าการเพิ่มขึ้นของแรงขุดครั้งใหญ่สะท้อนการแข่งขันที่เข้มข้นมากขึ้นของบริษัทเหมืองขนาดใหญ่ที่เร่งขยายกำลังการผลิต และอัปเกรดเครื่องจักรให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น “นักขุดกำลังเดินหน้าเต็มกำลัง แต่เหมืองขุดที่มีประสิทธิภาพต่ำกว่าอาจอยู่ไม่รอด หากราคาของ Bitcoin ไม่ปรับตัวขึ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า”

MARA Holdings ยังคงเป็นผู้ดำเนินการขุด Bitcoin รายใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยกำลังประมวลผลกว่า 50 EH/s ขณะที่กลุ่มเหมืองที่มีส่วนแบ่งแรงขุดสูงสุดในเครือข่ายคือ Foundry USA Pool และ AntPool ตามข้อมูลจาก Hashrate Index

ข้อมูลจาก CompaniesMarketCap.com ระบุว่า ปัจจุบันมีอย่างน้อย 24 บริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ที่มีการลงทุนในเครื่องขุด Bitcoin โดยบริษัทเหมืองขุดรายใหญ่ได้แก่ Riot Platforms, Core Scientific, CleanSpark, Hut 8 Mining และ TeraWulf

สถิติแรงขุดใหม่ของ Bitcoin เกิดขึ้นในช่วงที่ตลาดคริปโตกำลังเผชิญแรงกดดัน โดยราคา Bitcoin ร่วงลงเกือบ 10% ในช่วง 4 วันที่ผ่านมา มาอยู่ที่ระดับประมาณ 78,750 ดอลลาร์ ท่ามกลางความกังวลเรื่องเศรษฐกิจถดถอยและการประกาศแผนเก็บภาษีนำเข้าฉบับใหม่ของประธานาธิบดี Donald Trump ซึ่งหลายฝ่ายมองว่าอาจจุดชนวนความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจโลก

ในขณะที่มูลค่าตลาดหุ้นสหรัฐฯ สูญเสียไปราว 6.6 ล้านล้านดอลลาร์ในระหว่างวันที่ 3-4 เมษายน ซึ่งถือเป็นการสูญเสียต่อเนื่องติดกันสองวันที่รุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์

อ้างอิง : Cointelegraph

ติดตาม CryptoSiam
เพื่อให้ไม่พลาด ทุกข่าวสาร วงการคริปโต

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: การลงทุนมีความเสี่ยงสูง ดังนั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดก่อนการลงทุนทุกครั้ง

ข้อมูลในบทความนี้มีจุดประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้น Cryptosiam ไม่รับประกันความสมบูรณ์ ความถูกต้อง หรือความน่าเชื่อถือของข้อมูลดังกล่าว และไม่มีสิ่งใดในบทความนี้ที่ควรใช้เป็นคำแนะนำหรือชักชวน ให้ซื้อหรือขายคริปโต รวมทั้งการประเมินใดๆ ไม่มีข้อความใดในบทความที่ถือเป็นคำแนะนำทางกฎหมาย วิชาชีพ การลงทุน และ/หรือทางการเงิน และ/หรือคำนึงถึงความต้องการเฉพาะ และ/หรือข้อกำหนดของแต่ละบุคคล

Cryptosiam และบริษัทในเครือ ขอปฏิเสธความรับผิด หรือความรับผิดชอบทั้งหมดเกี่ยวกับเนื้อหาของบทความ และการดำเนินการใดๆ กับข้อมูลในบทความนั้น เป็นความเสี่ยงของผู้อ่าน และถือเป็นความเสี่ยงแต่เพียงผู้เดียว

ข่าวต่อไป

บทความที่เกี่ยวข้อง