ตู้เอทีเอ็ม Bitcoin มีจำนวนทะลุ 10,000 เครื่องทั่วโลก
ปี 2020 เป็นปีที่เรานั้นได้เห็นจำนวนตู้เอทีเอ็มที่รองรับเหรียญดิจิทัลเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยมีอัตราการเติบโตสูงถึง 87% ในปีที่ผ่านมา

ปี 2020 เป็นปีที่เรานั้นได้เห็นจำนวนตู้เอทีเอ็มที่รองรับเหรียญดิจิทัลเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยมีอัตราการเติบโตสูงถึง 87% ในปีที่ผ่านมา
ขณะนี้จำนวนตู้ ATM Bitcoin ทั้งหมดทะลุ 10,000 ตู้ทั่วโลกแล้ว! โดย AksjeBloggen บริษัท ผู้ให้บริการทางการเงินของนอร์เวย์ระบุว่าจำนวนตู้ ATM Bitcoin (BTM) นั้นเพิ่มขึ้นสูงถึง 87% ในปีที่ผ่านมา จากยอดตัวเลขเดิมซึ่งบันทึกไว้ในเดือนกันยายน 2019 ที่ 5,336 ตู้ นั่นแปลว่าภายในปี 2020 เพียงปีเดียวมีการเพิ่มจำนวนตู้เอทีเอ็มใหม่ที่สามารถรองรับ Bitcoin ได้ถึงเกือบ 3,900 เครื่องเลยทีเดียว
ตู้ ATM Bitcoin กระจายอยู่ทั่วทุกมุมโลก
ตามการรายงานของ CoinATMRadar ซึ่งพวกเขาได้ทำการตรวจสอบทรัพยากรของตู้เอทีเอ็ม Bitcoin ทั่วโลก โดยจากตัวเลขแสดงให้เห็นว่าปัจจุบันมีตู้เอทีเอ็มถึง 10,014 เครื่องใน 71ประเทศที่อนุญาตให้ผู้ใช้สามารถซื้อและขาย Bitcoin (BTC) รวมไปถึง Altcoins ต่าง ๆ เป็นเงินสด
“ปี 2020 มีจำนวนตู้เอทีเอ็มที่รองรับเหรียญดิจิทัลเพิ่มขึ้น” รายงานของ AksjeBloggen ระบุ
“มี BTM (ATM สำหรับ Bitcoin) ถูกติดตั้งใหม่ถึง 3,885 รายการและเปิดให้บริการแล้วทั่วโลกระหว่างเดือนมกราคมถึงกันยายน ซึ่งจำนวนตู้ที่ได้รับการติดตั้งนั้นเพิ่มขึ้นถึง 67% ในระยะเวลาเพียงเก้าเดือน”
ปัจจุบันสหรัฐอเมริกาเป็นผู้นำของตลาด ATM สำหรับ Bitcoin ทั่วโลกด้วยอัตราการทำกำไร และการเติบโตขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ โดยภายประเทศนั้นมี BTM มากกว่า มากกว่า 7,800 ตู้ แคนาดานั้นตามมาติด ๆ เป็นอันดับที่สองด้วย BTM จำนวน 869 เครื่อง ซึ่งเหล่าผู้ถือครอง Crypto จะสามารถซื้อและถอนสกุลเงินดิจิทัลหลัก ๆ ได้แก่ Bitcoin Cash (BCH) Ether (ETH) Dash (DASH) Litecoin (LTC) Zcash (ZEC) Monero (XMR) Dogecoin (DOGE) ขึ้นอยู่กับเครื่อง Tether (USDT) และ XRP
ใช่ว่าทุกประเทศจะนิยมใช้ BTM
อย่างไรก็ตามการยอมรับ BTM นั้นไม่ได้เพิ่มขึ้นในทุก ๆ พื้นที่ โดยข้อมูลของ CoinATMRadar แสดงให้เห็นว่าออสเตรียเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศที่มียอดการเติบโตของการติดตั้งตู้ BTM ติดลบตั้งแต่ปี 2019 ปัจจุบันประเทศนี้มี BTM เพียง 149 เครื่องเท่านั้น ซึ่งลดลงจากในเดือนกันยายน 2019 ที่มีจำนวนทั้งสิ้น 244 เครื่อง

ตัวเลขที่ลดลงในครั้งนี้อาจเกี่ยวข้องกับบรรยากาศภายใต้การกำกับดูแลด้วยกฎระเบียบใหม่ในประเทศเยอรมนีที่อยู่ใกล้เคียงซึ่งมี BTM เพียง 27 รายการ ซึ่ง ณ ขณะนี้ ก่อนที่จะทำการดำเนินกิจการเกี่ยวกับ BTM ทางเจ้าของเครื่องจักรจำเป็นต้องได้รับใบอนุญาตจาก BaFin หน่วยงานกำกับดูแลทางการเงินของประเทศ นอกจากนี้เหล่าภาคธุรกิจต่อเยอรมัน ยังต้องเผชิญกับบทลงโทษที่กำหนดให้ต้องรับผิดต่อตู้ชอบ ATM Bitcoin ที่ไม่มีใบอนุญาตโดยไม่สนจะตู้นั้นจะมีใครเป็นเจ้าของก็ตาม