จับกุมชาวเกาหลีใต้ 2 คน ได้รับการว่าจ้างด้วยบิทคอยน์จากแฮกเกอร์เกาหลีเหนือ
เจ้าหน้าที่ฝ่ายบังคับกฎหมายของประเทศเกาหลีใต้ ได้มีการประกาศแล้วว่า ทางการเกาหลีใต้ได้มีการจับกลุ่มชาวเกาหลีใต้ 2 คน จากการว่าจ้างแฮกเกอร์
![Rchzt Jli9g.jpg](https://cdn2.cryptosiam.com?url=https://api.cryptosiam.com/assets/6d3a9d76-156b-47d2-bfb4-4dfa6924af6c.jpg&width=1610)
เจ้าหน้าที่ฝ่ายบังคับกฎหมายของประเทศเกาหลีใต้ ได้มีการประกาศแล้วว่า ทางการเกาหลีใต้ได้มีการจับกลุ่มชาวเกาหลีใต้ 2 คน จากการว่าจ้างแฮกเกอร์
เจ้าหน้าที่ฝ่ายบังคับกฎหมายของประเทศเกาหลีใต้ ได้มีการประกาศแล้วว่า ทางการเกาหลีใต้ได้มีการจับกลุ่มชาวเกาหลีใต้ 2 คนฐานได้รับจ้างให้มีการสอดแนมบริษัทซื้อขายคริปโตเคอร์เรนซี่ให้กับแฮกเกอร์ของประเทศเกาหลีเหนือ
แฮกเกอร์เกาหลีเหนือจ้างชาวเกาหลีใต้ 2 คน
โดยชาวเกาหลีใต้ 2 คน คนหนึ่งได้มีการประกอบกิจการทางด้านสินทรัพย์คริปโตเคอร์เรนซี่และคนหนึ่งได้มีการรับราชการในกองทัพของประเทศเกาหลีใต้ ได้ถูกจับกุมด้วยข้อหาดำเนินปฏิบัติการลับทางการทหารให้กับแฮกเกอร์ชาวเกาหลีเหนือ ไม่ว่าจะเป็นการให้ข้อมูลรายละเอียดที่มีความอ่อนไหวต่อบริษัทซื้อขายเหรียญคริปโตเคอร์เรนซี่ โดยที่ชาวเกาหลีใต้ 2 คน ได้รับเงินเป็นเหรียญบิทคอยน์เป็นเงินกว่า $6 แสนและ $37,789 ดอลลาร์สหรัฐฯ
![Fixlqxahcfk 2 1024x683.jpg](/assets/40804474-7591-4345-9f0b-fe4355f42af6.jpg)
ในรายงานของ AFP ได้ระบุว่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายบังคับกฎหมายของประเทศเกาหลีใต้ได้มีการจับกุมชาวเกาหลีใต้ที่ทำงานให้กับกองทำเป็นครั้งแรกฐานเป็นผู้สอดแนมให้กับชาติเกาหลีเหนือ โดยผู้ต้องหาได้มียศเป็นผู้กอง แต่ทางการขอสงวนชื่อและนามสกุล เรื่องนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้กล่าวว่า ผู้ต้องหาได้มีการให้ข้อมูลในส่วนของระบบการควบคุมและคำสั่งต่าง ๆ ให้กับทางเกาหลีเหนือ
มีอุปกรณ์สอดแนมของเกาหลีเหนือ
ในทางกลับกันผู้ต้องหาที่ประกอบกิจการซื้อขายเหรียญคริปโตเคอร์เรนซี่ถูกกล่าวหาว่า ได้รับอุปกรณ์สอดแนมจากผู้ต้องหาที่ทำงานให้กับกองทัพ โดยที่อุปกรณ์นี้เป็นของฝ่ายประเทศเกาหลีเหนือ เช่นกันในรายงานได้มีการระบุว่า อุปกรณ์สอดแนมนี้มีลักษณะเหมือนกับนาฬิกาข้อมือที่ใช้สำหรับทำการแฮกข้อมูลพร้อมกับมีช่องเสียม USB พร้อม ซึ่งอุปกรณ์นี้จะช่วยให้ฝ่ายเกาหลีเหนือสามารถเจาะระบบคำสั่งและข้อมูลต่าง ๆ ได้
คาดว่าผู้ต้องหาทั้งสองคนจะถูกตั้งข้อหาทำการละเมิดและฝ่าฝืนตามกฎหมายว่าด้วยความมั่นคงของประเทศ และจะมีการดำเนินคดีตามกฎหมายที่ระบุเอาไว้