สหรัฐฯ ไม่ต้องการให้นักกีฬาใช้เงินหยวนดิจิทัลในโอลิมปิกเกม 2022

วุฒิสมาชิกสหรัฐสามคนได้ลงนามในจดหมายเรียกร้องให้คณะกรรมการโอลิมปิกประสานร่วมกับหน่วยงานของรัฐบาลกลางเจ้าหน้าที่โอลิมปิกออกข้อบังคับห้ามไม่ให้นักกีฬาอเมริกันใช้หยวนดิจิทัลระหว่างการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวปี 2022 ที่ปักกิ่ง

สาเหตุของการเรียกร้อง

ในจดหมายฉบับวันจันทร์ที่ส่งถึง Susanne Lyons ประธานคณะกรรมการโอลิมปิกและพาราลิมปิกของสหรัฐอเมริกา Marsha Blackburn วุฒิสมาชิกพรรครีพับลิกัน, Roger Wicker และ Cynthia Lummis ขอให้เจ้าหน้าที่ป้องกันไม่ให้นักกีฬาของสหรัฐฯ ใช้หรือรับเงินหยวนดิจิทัล โดยทั้งสามอ้างว่าพรรคมีการอ้างว่า PBoC จะสามารถ "สอดแนมและติดตาม" เนื่องจากคอมมิวนิสต์จีนสามารถใช้สกุลเงินดิจิทัลเหล่านี้เพื่อสอดส่องนักกีฬาที่มาเยี่ยมเยียนและเมื่อพวกเขากลับมายังสหรัฐอเมริกา

วุฒิสมาชิกกล่าวว่ารัฐบาลจีนเพิ่งเปิดตัวคุณสมบัติใหม่สำหรับหยวนดิจิทัล ทำให้เจ้าหน้าที่สามารถ "ทราบรายละเอียดที่แน่นอนของสิ่งที่มีคนซื้อและที่ใด" พวกเขาอ้างถึงแอพส่งข้อความและการชำระเงิน WeChat เป็นตัวอย่าง โดยอ้างว่าแพลตฟอร์มนี้ “เคยถูกใช้เพื่อสอดส่อง ข่มขู่ และจับกุมชาวจีนแล้ว”

Lummis, Blackburn และ Wicker ร้องขอการบรรยายสรุปในหัวข้อสำหรับคณะกรรมาธิการการพาณิชย์ วิทยาศาสตร์ และการขนส่งของวุฒิสภาภายใน 30 วัน พวกเขาเรียกร้องให้คณะกรรมการโอลิมปิกทำงานร่วมกับหน่วยงานของรัฐบาลกลาง “เพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัวของนักกีฬาอเมริกันจากรัฐบาลคอมมิวนิสต์จีน”

จีนวางแผนเดินหน้าทดสอบหยวนดิจิทัล

จีนเริ่มทดสอบใช้หยวนดิจิทัลในเดือนเมษายน 2020 โดยแจกสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลางหรือ CBDC มูลค่าหลายพันดอลลาร์แก่ผู้อยู่อาศัยในเมืองต่าง ๆ PBoC ยังกล่าวอีกว่า กำลังสำรวจหาความเป๋นไปได้เพื่อให้นักกีฬาต่างชาติและผู้มาเยือนสามารถใช้ CBDC ระหว่างการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาวที่ปักกิ่งในปี 2022 

แม้ว่าโอลิมปิกฤดูร้อนปี 2020 ที่กรุงโตเกียวจะล่าช้าไปหนึ่งปีเนื่องจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่กำลังดำเนินอยู่ แต่มีรายงานว่าปักกิ่งยังคงเตรียมพร้อมสำหรับการแข่งขันกีฬาฤดูหนาว ซึ่งมีกำหนดเริ่มในเดือนกุมภาพันธ์ 2022 คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติของจีนรายงานว่ามีจำนวนยอดผู้ป่วยโควิด-19 ลดน้อยอย่างต่อเนื่อง ในประเทศรายใหม่รายวัน 200 รายตั้งแต่เดือนมีนาคม 2020 แต่รายงานบางฉบับระบุว่ารัฐบาลมีหน้าที่รับผิดชอบในการรณรงค์ให้ข้อมูลที่ไม่ถูกต้องเกี่ยวกับการระบาดใหญ่

ที่มา: cointelegraph.com