Avalanche

จัดอันดับ 7 เหรียญ Smart Contract ที่น่าจับตามองในปี 2022

Photo 2022 04 01 09.12.45.jpeg

ปี 2022 น่าจะเป็นอีกปีที่ยิ่งใหญ่สำหรับสกุลเงินดิจิทัลทั้งหลาย. และนี่คือเหรียญ smart contract 7 อันดับที่คุณควรจะจับตามองในปีนี้

ปี 2022 น่าจะเป็นอีกปีที่ยิ่งใหญ่สำหรับสกุลเงินดิจิทัลทั้งหลาย เหรียญ smart contract เป็นโค้ดขนาดเล็กที่ดำเนินการได้เองบนบล็อกเชน ทำให้สามารถพัฒนาแอปพลิเคชันได้ และแนวโน้มสำคัญทั้งหมดสำหรับปีนี้ นับตั้งแต่ metaverse โทเค็นเกม ไปจนถึงการเงินแบบกระจายอำนาจ (DeFi) และแอป Web 3 จะถูกสร้างขึ้นบนแพลตฟอร์ม smart contract นี้

การแข่งขันทั้งหมดนี้ก็เพื่อดึงดูดความสนใจของนักพัฒนาและโครงการหลัก โดยยังไม่ชัดเจนว่าสกุลเงินดิจิทัลใดจะเป็นผู้นำบล็อคเชนในปีนี้ เนื่องจากมีการแข่งขันที่สูงมากและปัญหาทางเทคนิคที่สำคัญคือข้อบกพร่องด้านความปลอดภัย ซึ่งอาจทำให้เหรียญ smart contract บางรายการต้องหยุดทำงานไป นอกจากนี้มีโอกาสที่เหรียญคริปโตที่ใหม่กว่าและน่าสนใจมากขึ้นจะออกมาและแซงหน้าเหรียญทั้งหมดก็เป็นได้ อย่างไรก็ตาม นี่คือเหรียญ smart contract 7 อันดับที่คุณควรจะจับตามองในปี 2022

1. Ethereum (ETH)

Ethereum มีปีที่สำคัญที่กำลังรออยู่ ซึ่งเกิดจากการอัปเกรดเป็น Eth 2.0 เพราะจะทำให้ระบบเร็วขึ้นและช่วยลดค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรมหรือค่าแก๊ส เนื่องจากก่อนหน้านี้ความแออัดของเครือข่ายและค่าธรรมเนียมที่สูง ทำให้นักพัฒนาและนักลงทุนต่างแสวงหาทางเลือกอื่นแทน Ethereum

ความท้าทายคือการอัปเกรดแบบทีละขั้น และจากรายงานล่าสุดจาก J.P. Morgan ชี้ให้เห็นว่า การเปลี่ยนแปลงนี้อาจไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ทั้งหมดจนกระทั่งถึงปี 2023 ซึ่งจะทำให้เครือข่ายอื่น ๆ มีโอกาสในการแย่งชิงส่วนแบ่งการตลาดมากขึ้น ตอนนี้ Ethereum ยังคงเป็นเจ้าภาพในส่วนแบ่งการใช้งาน และนับเป็นอันดับสองรองจาก Bitcoin (BTC) ในแง่ของมูลค่าทางตลาด

2. Solana (SOL)

Solana เป็นหนึ่งในคริปโตที่มีผลตอบแทนสูงสุดในปี 2021 ในแง่ของมูลค่าสินทรัพย์ตามราคาตลาด (Market Cap) ได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากอันดับที่ 120 เมื่อต้นปี 2021 ขึ้นมาอยู่ที่อันดับที่ 5 ภายในสิ้นปี 2021 โดยมีราคาเพิ่มขึ้นมากกว่า 11,000%

Solana เป็นหนึ่งในคริปโตเคอร์เรนซีที่รวดเร็วที่สุด และสามารถประมวลผลธุรกรรมได้ประมาณ 50,000 ถึง 65,000 ต่อวินาที (TPS) เมื่อเทียบกับ Ethereum ที่ 15 ถึง 45 TPS โดยมีต้นทุนเฉลี่ยต่อธุรกรรมที่ 0.00025 และยังมีโครงการมากกว่า 1,000 โครงการในระบบนิเวศ

3. Cardano (ADA)

Cardano นั้นกำลังทำการแข่งขันที่แตกต่างจากสกุลเงินดิจิทัลอื่น ๆ คือต้องใช้แนวทางการพัฒนาที่ช้าแต่มีความสม่ำเสมอ โดยเลือกที่จะทบทวนและทดสอบอย่างละเอียดก่อนเปิดตัวฟังก์ชันใหม่ ซึ่งเป็นผลให้มีการเปิดตัว smart contracts ในเดือนกันยายนที่ผ่านมาเท่านั้น แต่ถึงกระนั้น Cardano ก็ยังถูกวิจารณ์บนโซเชียลมีเดีย เนื่องจากนักวิจารณ์กล่าวว่า Cardano ไม่ได้ส่งมอบทุกอย่างที่ให้สัญญาไว้

Charles Hoskinson ผู้ก่อตั้ง Cardano กล่าวว่ามีโครงการพัฒนามากกว่า 100 โครงการในระบบนิเวศ โดยจะมีอีก 20 หรือ 30 โครงการที่พร้อมเปิดตัวในไตรมาสแรกของปี 2022 โดยนี่จะเป็นโอกาสของ Cardano ที่จะพิสูจน์ว่านักวิจารณ์คิดผิดและแสดงให้เห็นว่าระบบนิเวศของ Cardano ทำอะไรได้บ้าง

4. Avalanche (AVAX)

ความโดดเด่นของ Avalanche เราจึงต้องพิจารณาถึงสิ่งที่เรียกว่า "ระยะสุดท้าย" ของความแตกต่างระหว่างการประมวลผลธุรกรรมอย่างรวดเร็วและการสรุปธุรกรรมนั้นจริง ๆ ก็คล้ายกับการชำระเงินด้วยบัตรเครดิตที่ผู้ค้ายอมรับ แต่หลังจากนั้นจะแสดงรายการว่า ‘รอดำเนินการ’ ในบัญชีของคุณอีกสองสามวัน จนกว่าธุรกรรมทั้งหมดจะเสร็จสมบูรณ์ โดยสิ่งนี้เรียกว่า ‘ระยะสุดท้าย’

Avalanche กล่าวว่าเป็นแพลตฟอร์ม smart contract ที่เร็วที่สุดในแง่ของความสมบูรณ์ ซึ่งมีความเหนือกว่า Solana เพราะใช้บล็อคเชนที่แตกต่างกันถึงสามตัวในระบบเพื่อให้บรรลุเป้าหมายนี้ ในขณะเดียวกันก็รักษาค่าธรรมเนียมให้ต่ำและทำให้มั่นใจว่าแพลตฟอร์มจะสามารถปรับขนาดได้ จากข้อมูลของ DeFi Llama ปัจจุบัน Avalanche มีมูลค่ารวมที่ล็อคอยู่บนแพลตฟอร์มมากกว่า Solana

5. Cosmos (ATOM)

Cosmos เรียกตัวเองว่า "อินเทอร์เน็ตของบล็อคเชน" โดยมุ่งเน้นไปที่การทำงานร่วมกัน และเพื่อทำให้มั่นใจว่าบล็อกเชนต่าง ๆ จะสามารถพูดคุยติดต่อกันได้ เมื่อผู้คนเริ่มใช้เครือข่าย smart contract หลายเครือข่าย การทำงานร่วมกันจึงมีความสำคัญมากขึ้น แทนการเลือกทำงานแบบแยกส่วน โดยวิสัยทัศน์ของ Cosmos คือระบบนิเวศของบล็อคเชนที่สื่อสารระหว่างกัน

6. Algorand (ALGO)

Algorand มีจุดมุ่งหมายเพื่อใช้ในอุตสาหกรรมการเงินและเว็บไซต์ของบริษัท โดยเน้นย้ำถึงโครงการ DeFi จำนวนหนึ่งที่ใช้ระบบนิเวศของบริษัท ตัวอย่างเช่น Algorand นั้นได้วางตำแหน่งตัวเองให้เป็นสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลาง (CBDC) และในหลายประเทศกำลังพิจารณาที่จะเปิดตัว CBDC ของตนเอง รวมไปถึงในสหรัฐอเมริกา และสิ่งนี้ยังสามารถพิสูจน์ตำแหน่งการวางตัวของ ALGO ได้

นอกจากนี้ Koibanx ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มคริปโตของละตินอเมริกากำลังใช้เทคโนโลยีของ Algorand เพื่อพัฒนาบล็อคเชนในเอลซัลวาดอร์ ซึ่งเป็นประเทศแรกที่นำบิทคอยน์มาใช้เป็นเงินที่ถูกต้องตามกฎหมาย

7. Elrond (EGLD)

สำหรับเครือข่าย Elrond นั้นสามารถประมวลผลธุรกรรมได้ 15,000 รายการต่อวินาที แม้จะไม่เร็วเท่ากับ Solana แต่ก็ปรับปรุงข้อเสียใน Ethereum ได้มากมาย โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อให้เป็นมิตรกับนักพัฒนา โดยทำงานร่วมกับภาษาต่าง ๆ หลายภาษา เพื่อให้มีแพลตฟอร์มที่ปลอดภัยและสามารถปรับขนาดได้

จงศึกษา smart contract ที่คุณกำลังจับตาดูอยู่

เหรียญที่ได้กล่าวไปในข้างต้นสามารถหาได้จากแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิตอลชั้นนำส่วนใหญ่ และสิ่งหนึ่งที่ต้องจำไว้คือไม่ใช่ว่าทุกเหรียญจะปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่องตลอดเวลา ในฐานะนักลงทุน คุณสามารถซื้อคริปโตได้หลายอันโดยเป็นส่วนหนึ่งของพอร์ตโฟลิโอที่หลากหลายได้

เมื่อดูราคาที่เพิ่มขึ้น 11,000% ของ Solana ในปี 2021 จึงเป็นเหตุผลที่เข้าใจได้ว่าเหตุใดผู้คนจึงต้องการหา Solana ตัวต่อไป หรือ Ethereum ตัวต่อไป แต่ราคาของสกุลเงินดิจิทัลนั้นก็สามารถลงหรือขึ้นได้ตลอด และไม่มีสิ่งใดการรับประกันว่าจะได้กำไรไปตลอด จึงควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณเข้าใจถึงความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องและลงทุนเฉพาะส่วนที่คุณจะสามารถสูญเสียได้ ด้วยวิธีนี้หากปรับตัวลง คุณก็จะได้ไม่สูญเสียเงินที่จำเป็นสำหรับเป้าหมายทางการเงินอื่น ๆ

​​DISCLAIMER: การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยงและความผันผวนสูง มุมมองและความคิดเห็นจากผู้เขียนมีวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้น และไม่ได้เป็นการให้ข้อมูลทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่น ๆ ใด นักลงทุนควรศึกษาจากปัจจัยหลาย ๆ อย่างประกอบกันและมีการควบคุมความเสี่ยงอยู่เสมอ  

ติดตาม CryptoSiam
เพื่อให้ไม่พลาด ทุกข่าวสาร วงการคริปโต
ข่าวต่อไป

บทความที่เกี่ยวข้อง

เหรียญคริปโตกลุ่ม AI และ Big Data พุ่งทะยาน 131% ท่ามกลางกระแสขาขึ้นของ Bitcoin
Bitcoin พลิกเกม! MicroStrategy กำไรพุ่งทะลุเพดาน แซงหน้า Apple, Amazon
Sky เปิดตัว USDS Stablecoin ตัวใหม่! บน Solana พร้อมอัดฉีดสภาพคล่องกว่า 5 แสนดอลลาร์
BlackRock Bitcoin ETF Options สร้างสถิติใหม่! มียอดซื้อขายวันแรกทะลุ 1.9 หมื่นล้านดอลลาร์