ข่าวคริปโตเคอเรนซี่

เปิด 3 'ความเสี่ยง' ที่ทำให้ 'พ่อรวย' เลือกถือ Bitcoin

พ่อรวยเผย! ‘3 ความเสี่ยง’ ในโลกการเงินปัจจุบัน

พ่อรวยเผย! ‘3 ความเสี่ยง’ ในโลกการเงินปัจจุบัน - ที่เป็นเหตุผลว่าทำไมคุณจึงควรถือ 3 สินทรัพย์นี้

ถึงแม้เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ‘พ่อรวย’ หรือ ‘Robert Kiyosaki’ เจ้าของผลงานหนังสือขายดีตลอดกาลอย่าง ‘Rich Dad Poor Dad’ จะได้ออกมากล่าวเปิดใจ ว่าตนเองไม่ได้มีความรู้เบื้องลึกใดๆเกี่ยวสกุลเงินดิจิทัลอย่าง Bitcoin เลย แต่ก็ได้อธิบายถึงเหตุผลที่ทำไมนักลงทุนจึงควรมีสินทรัพย์ทางการเงินแบบ DeFi เอาไว้เป็นส่วนหนึ่งของพอร์ตลงทุน

โดยพ่อรวยกล่าวว่าเขาถือ Bitcoin เพื่อปกป้องความมั่งคั่งของตนเองจากเหล่าสถาบันการเงินต่างทั้งในและนอก Wall Street โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับความไม่แน่นอนของธนาคารกลางและกระทรวงการคลังในสหรัฐ ที่มี Jerome Powel และ Janet Yellen เป็นผู้ดูแล

นอกจากนี้ พ่อรวย ได้ทำการจำแนกเหตุผลในการเข้าถึง Bitcoin ของตัวเองออกมาเป็น 3 ข้อ ดังนี้

1. เงินเฟ้อ (Inflation)

เรียกได้ว่าเงินเฟ้อเป็นสิ่งที่ Robert Kiyosaki ให้ความกังวลเป็นอย่างมาก จากการที่เขาคอยออกมาเตือนเกี่ยวกับเงินเฟ้อในระบบเศรษฐกิจของสหรัฐ โดยเขามองว่าสหรัฐกำลังอยู่ในจุดเสี่ยงต่อการเกิดภาวะเงินเฟ้อขั้นรุนแรง ซึ่งจะทำให้ราคาสินค้าและบริการเพิ่มขึ้นมหาศาล ในขณะที่กำลังซื้อของประชาชนนั้นลดลง ดังนั้นเขาจึงได้แนะนำให้เก็บสะสมสินทรัพย์ที่มีมูลค่าคงที่มากกว่าเงินสด ไม่ว่าจะเป็นทองคำ, แม่เงิน, หรือแม้แต่ Bitcoin เพื่อปกป้องความมั่งคั่งของตนเองเอาไว้

2 การจัดเก็บภาษี (Taxation)

หากใครเคยอ่านหนังสือ Rich Dad Poor Dad มาก่อน ก็จะพอทราบถึงความไม่เสมอภาคทางการจัดเก็บภาษีระหว่างคนจนและคนรวย โดยผู้ที่เป็นเจ้าของกิจการหรือบริษัทจะมีข้อได้เปรียบทางภาษีมากกว่าบุคคลธรรมดา และทั้งนี้ในช่วงที่ผ่านมา พ่อรวยได้สังเกตเห็นปัญหาภายในตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ค่อยๆก่อตัวขึ้น อันมีผลจากการปรับอัตราภาษีที่อยู่อาศัย ซึ่งส่งผลกระทบต่อค่าเช่า ทำให้มูลค่าทรัพย์สินลดลง

3 การปั่นราคาหุ้น (Stock price manipulation)

นับตั้งแต่ปี 2020 เป็นต้นมา พ่อรวยมองว่ามีความเป็นไปได้ที่ตลาดหุ้นในสหรัฐจะถูกควบคุมโดยนักลงทุนรายใหญ่ ซึ่งมักจะสร้างความปั่นป่วนในตลาด จะการปั่นราคาหุ้นให้เพิ่มขึ้นไปถึง 1,500 จุดและลดลงไป 1,000 จุดภายระยะเวลาเพียง 10 วินาที และเมื่อไม่นานมานี้ พ่อรวยได้ประกาศถอนการลงทุนออกจากดัชนี S&P 500 ไปพร้อมกับเตือนนักลงทุนที่ทั่วไป ที่มักจะใช้เงินลงทุนของตนเอง  60% ไปในพันธบัตร และอีก 40% ให้กับหุ้น ว่าจะพบกับความสูญเสียครั้งใหญ่ภายในปี 2024 นี้


จาก 3 ความเสี่ยงนี่เอง ที่เป็นเหตุผลทำให้พ่อรวยจึงเลือกถือ Bitcoin เอาไว้ แต่อย่างไรก็ตาม นักลงทุนทุกคนไม่ควรลืมว่าการลงทุนทุกอย่างมีความเสี่ยงหมด เพราะฉะนั้นสิ่งที่สำคัญที่สุดคือการศึกษาข้อมูลด้วยตตนเองก่อนตัดสินใจลงทุนทุกครั้ง

ที่มา: Finbold

ติดตาม CryptoSiam
เพื่อให้ไม่พลาด ทุกข่าวสาร วงการคริปโต

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: การลงทุนมีความเสี่ยงสูง ดังนั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดก่อนการลงทุนทุกครั้ง

ข้อมูลในบทความนี้มีจุดประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้น Cryptosiam ไม่รับประกันความสมบูรณ์ ความถูกต้อง หรือความน่าเชื่อถือของข้อมูลดังกล่าว และไม่มีสิ่งใดในบทความนี้ที่ควรใช้เป็นคำแนะนำหรือชักชวน ให้ซื้อหรือขายคริปโต รวมทั้งการประเมินใดๆ ไม่มีข้อความใดในบทความที่ถือเป็นคำแนะนำทางกฎหมาย วิชาชีพ การลงทุน และ/หรือทางการเงิน และ/หรือคำนึงถึงความต้องการเฉพาะ และ/หรือข้อกำหนดของแต่ละบุคคล

Cryptosiam และบริษัทในเครือ ขอปฏิเสธความรับผิด หรือความรับผิดชอบทั้งหมดเกี่ยวกับเนื้อหาของบทความ และการดำเนินการใดๆ กับข้อมูลในบทความนั้น เป็นความเสี่ยงของผู้อ่าน และถือเป็นความเสี่ยงแต่เพียงผู้เดียว

ข่าวต่อไป

บทความที่เกี่ยวข้อง

ก.ล.ต. ร่วมมือกับกระทรวงดิจิทัล ส่งมอบข้อมูลกระดานเทรดที่ไม่ได้รับอนุญาต ให้พิจารณาปิดกั้นการเข้าถึง!
อัยการยื่นคำร้องต่อศาล ขอให้เพิ่มโทษจำคุก อดีตซีอีโอ Binance เป็น 36 เดือน
นักวิเคราะห์ดัง เผย! ความสำคัญของ Bitcoin ต่อตลาดคริปโต อาจลดลงในอนาคต
กองทุน Bitcoin ETF ของ 'BlackRock' ไม่มีเงินลงทุนไหลเข้ามาเป็นครั้งแรก