กำไรจากการเทรดคริปโตทำให้พนักงานในสหรัฐพากันลาออก
ผลสำรวจระบุว่าผู้ตอบแบบสอบถามกว่า 2 ใน 3 ที่มีรายได้น้อยตัดสินใจลาออกจากงานหลังจากการลงทุน Crypto สร้างรายได้ให้กับพวกเขามากกว่า
ผลสำรวจระบุว่าผู้ตอบแบบสอบถามกว่า 2 ใน 3 ที่มีรายได้น้อยตัดสินใจลาออกจากงานหลังจากการลงทุน Crypto สร้างรายได้ให้กับพวกเขามากกว่า
บริษัท Civic Science ผู้ให้บริการด้านการวิเคราะห์ข้อมูล (Data analytic) เผยผลสำรวจพนักงานในประเทศสหรัฐอเมริกาเมื่อวันจันทร์ที่ 1 พฤศจิกายนที่ผ่านมา พบว่า 4% จากผู้ตอบแบบสอบถามจำนวน 6,741 รายที่อายุ 18 ปีขึ้นไปลาออกจากงานของพวกเขาเมื่อปีที่แล้วเนื่องการลงทุน Crypto มอบอิสระทางการเงินได้มากกว่า
ทางบริษัทดังกล่าวจึงได้ทำการเจาะลึกข้อมูลผู้ตอบแบบสอบถามจำนวน 4% หรือ 1,201 ราย ถึงสาเหตุที่แท้จริงโดยพิจารณจากรายได้ต่อปีที่พวกเขาได้รับก่อนตัดสินใจลาออกจากงาน
การเทรดคริปโตให้ผลลัพธ์ที่ดีกว่า
จากผลการสำรวจพบว่าสัดส่วนเกือบ 2 ใน 3 ของผู้คนเหล่านั้นมีรายได้ที่ต่ำกว่า 50,000 เหรียญดอลลาร์สหรัฐต่อปี โดยกว่า 27% เป็นบุคคลที่มีรายได้ต่ำกว่า 25,000 เหรียญดอลลาร์สหรัฐ 37% ของคนกลุ่มต่อมามีรายได้รวมอยู่ระหว่าง 25,000 - 50,000 ในขณะที่ 36% ที่เหลือเป็นกลุ่มคนที่มีรายได้สูงตัดสินใจทิ้งงานของตัวเองเพื่อมาลงทุนสกุลเงินดิจิทัลแทน โดยจำแนกเป็น 15% แรกคือกลุ่มที่มีรายได้อยู่ระหว่าง 50,000 and 75,000 เหรียญดอลลาร์สหรัฐ กลุ่ม 13% มีรายได้อยู่ระหว่าง 75,000 and 150,000 เหรียญดอลลาร์สหรัฐ และมีกลุ่มคนเพียง 8% เท่านั้นที่มีเงินสูงกว่า 150,000 เหรียญดอลลาร์สหรัฐ
ปัจจัยอื่นๆที่ทำให้คนส่วนใหญ่เลือกเทรดคริปโต
Mark Cuban นักธุรกิจพันล้านได้พูดถึงผลการสำรวจดังกล่าวผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัวของเขา ระบุว่า 4% ของชาวอเมริกันที่ลาออกจากงานเพราะคริปโตนั้นมีไม่น้อยเลย ซึ่งเทียบเท่ากับประชากรสหรัฐฯกว่า 6 ล้านคนเลยทีเดียว และส่วนใหญ่คนกลุ่มนี้มีรายได้ต่ำกว่า 50,000 เหรียญดอลลาร์สหรัฐ จึงเห็นได้ชัดว่าอะไรคือสาเหตุที่พวกเขาเลือกที่จะลาออกจากงาน ซึ่ง Cuban ตั้งใจอ้างอิงถึงปรากฏการณ์การลาออกครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นภายในสหรัฐอเมริกาเมื่อไม่มานานมานี้ เนื่องมาจากโรคระบาด COVID-19, รายได้ที่ต่ำ และสภาพการทำงานที่ไม่เอื้ออำนวย
นอกจากนี้ผลสำรวจแหล่งอื่นยังระบุว่าผู้คนกว่า 28% เจตนานำเงินกลับมาลงทุนในวงการคริปโตอีกครั้งเพื่อหวังให้ผลลัพธ์งอกเงยในระยะยาว ในขณะที่กลุ่มคนอีก 23% ตั้งใจจะลงทุนในระยะสั้นเท่านั้น และมีเพียง 16% ที่เหลือที่ต้องการใช้คริปโตเป็นสินทรัพย์ในการทำธุรกรรม